หัวเว่ยฉลองยืนหยัดในไทยครบ 20 ปี เปิดแผนผลักดันอีโคซิสเต็มเชื่อมประเทศไทยสู่ยุค 4.0

หัวเว่ย ประเทศไทยเผยภารกิจสร้างอีโคซิสเต็มเทคโนโลยีในประเทศไทยรับการฉลองครบรอบ 20 ปีของการดำเนินธุรกิจ ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยีไอซีทีที่ล้ำสมัยที่สุดเข้าสู่ประเทศไทย ภายใต้สโลแกน “สานพลังนวัตกรรม เชื่อมไทยสู่อนาคต”

นายอาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย ประเทศไทย จำกัด  กล่าวว่า “ปีนี้ถือเป็นอีกปีที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับหัวเว่ย เนื่องในการฉลองการดำเนินงานในไทยครบรอบ 20 ปี หลังจากที่ได้สั่งสมการพัฒนาทางด้านต่างๆ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราจึงมีความเข้าใจในตลาดอย่างลึกซึ้ง และตระหนักดีกว่านวัตกรรมที่สร้างอนาคตของประเทศไทยมีความสำคัญอย่างไร โดยกุญแจสำคัญที่จะนำศักยภาพด้านนวัตกรรมมาสู่ประเทศนี้คือบุคลากรที่มีความสามารถ และกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลก็คือ อีโคซิสเต็มของอุตสาหกรรม ซึ่งถือเป็นความรับผิดชอบของหัวเว่ยในการส่งเสริมและสนับสนุนประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำไปสู่การสานพลังนวัตกรรม เชื่อมไทยสู่อนาคต ร่วมกัน”

เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างพื้นฐานไอซีทีในประเทศไทย

นับตั้งแต่การก่อตั้งสำนักงานในประเทศไทยเมื่อปี พ.. 2542 หัวเว่ยมีบทบาทสำคัญในการช่วยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีให้แก่ประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นผู้พัฒนาโครงข่าย 2G, 3G และ 4G ในประเทศไทยได้สำเร็จ และยังเป็นผู้นำนวัตกรรมทางเทคโนโลยีในด้านต่างๆ อีกด้วย

“เรามีความภูมิใจที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีให้แก่ประเทศไทยตลอด 20 ปีที่ผ่านมา หัวเว่ยจะยังคงต่อยอดความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้บรรลุเป้าหมายตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งตรงตามวิสัยทัศน์ของหัวเว่ย ในการส่งมอบเทคโนโลยีดิจิทัลให้แก่คนไทยทุกคน ทุกครัวเรือนและทุกองค์กร เพื่อให้ทุกภาคส่วนสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้อย่างไร้รอยต่อในโลกแห่งนวัตกรรมนี้” มร. อาเบล เติ้ง กล่าว

นอกจากการเป็นศูนย์กลางในการดำเนินธุรกิจของหัวเว่ยในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หัวเว่ยยังได้เปิดศูนย์ OpenLab ในกรุงเทพมหานคร ศูนย์คลาวด์ ดาต้า รวมถึง 5G Testbed เป็นต้น โดยปัจจุบัน หัวเว่ยได้จ้างงานบุคลากรในประเทศไทยถึง 3,200 คน ซึ่งมีถึง 75 เปอร์เซ็นต์ที่เป็นคนไทย โดยในปี 2561 การจัดซื้อจัดจ้างของหัวเว่ยในประเทศไทยคิดเป็นมูลค่าถึง 196 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

เร่งเครื่องนวัตกรรมการศึกษาด้านดิจิทัลในไทย

มร. อาเบล เติ้ง ยังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมกันระหว่างรัฐบาลไทยและหัวเว่ย ประเทศไทย ภายใต้หัวข้อ “การอบรมส่งเสริมด้านทักษะดิจิทัลเพื่อนำไปสู่สังคมแห่งนวัตกรรมที่ยั่งยืน” ซึ่งหัวเว่ยจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านการแบ่งปันและถ่ายทอดความรู้ความเชี่ยวชาญ ผ่านการทำงานร่วมกับรัฐบาลไทยและองค์กรต่างๆ ในอุตสาหกรรม เพื่อเสริมศักยภาพด้านไอซีทีให้แก่บุคลากรดิจิทัล พร้อมเร่งเครื่องนำประเทศไทยไปสู่ไทยแลนด์ 4.0

หัวเว่ยยังเตรียมที่จะเปิดตัวหัวเว่ย อะเคเดมี ในประเทศไทย เพื่อเฟ้นหาและส่งเสริมบุคลากรที่มีทักษะด้านไอซีที พร้อมส่งเสริมให้ประเทศเข้าสู่ไทยแลนด์ 4.0 และด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยอย่างคลาวด์ เอไอ และซูเปอร์คอมพิวติ้ง หัวเว่ยจะสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัลได้ทั้งในส่วนขององค์กรภาครัฐและภาคอุตสาหกรรม ช่วยส่งเสริมนวัตกรรมให้แก่บริษัทสตาร์ทอัพและเอสเอ็มอี บ่มเพาะให้เกิดอีโคซิสเต็มแห่งนวัตกรรมบนรากฐาน 5G และขับเคลื่อนความสามารถด้านนวัตกรรมของไทยจากระดับรากฐาน ทั้งนี้ เพื่อร่วมมือกันสร้างอีโคซิสเต็มของภาคอุตสาหกรรมเพื่อสังคมอัจฉริยะที่เชื่อมต่ออย่างไร้ที่ติในอนาคต

“เทคโนโลยี 5G จะช่วยสนับสนุนการพัฒนาด้านเอไอหรือปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งจะส่งเสริมการขับเคลื่อนไปข้างหน้าของประเทศไทยให้เร็วยิ่งขึ้นกว่าประเทศอื่นได้ โดย 5G คลาวด์และเอไอจะช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งเราก็เคารพในความเป็นอธิปไตยด้านดิจิทัลของประเทศไทย ในการส่งเสริมนวัตกรรมให้แก่บริษัทสตาร์ทอัพและเอสเอ็มอี บ่มเพาะให้เกิดอีโคซิสเต็มแห่งนวัตกรรมผ่านแพลตฟอร์มระบบเปิดของหัวเว่ย เพื่อร่วมมือกันสร้างอีโคซิสเต็มของภาคอุตสาหกรรมเพื่อสังคมอัจฉริยะที่เชื่อมต่ออย่างไร้ที่ติในอนาคต” นายอาเบล เติ้ง กล่าวเสริม

Digital Thailand Big Bang 2019: “สานพลังนวัตกรรม เชื่อมไทยสู่อนาคต”

เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเฉลิมฉลองวาระที่หัวเว่ยครบรอบ 20 ปีในประเทศไทย หัวเว่ยจึงได้จัดแสดงวิสัยทัศน์ใหม่ๆ ของประเทศไทย และความสำเร็จในการสร้างสรรค์ไอซีทีอีโคซิสเต็มอย่างครบวงจร ภายในแนวคิด “สานพลังนวัตกรรม เชื่อมไทยสู่อนาคต” ในงาน Digital Thailand Big Bang 2019 ซึ่งจะจัดขึ้นที่ไบเทค บางนา กรุงเทพฯ ในระหว่างวันที่ 28-30 ตุลาคม 2562

พาวิลเลียนของหัวเว่ย ประเทศไทย ในงาน Thailand Digital Big Bang 2019 อยู่บนพื้นที่มากกว่า 400 ตารางเมตร
จัดแสดงเป็น 5 โซนครอบคลุมทุกด้านที่เกี่ยวกับสมาร์ท อีโคซิสเต็มในประเทศไทยที่เชื่อมต่อทุกอย่างเข้าด้วยกัน โดยจัดแสดงผลิตภัณฑ์ โซลูชั่น และบริการที่ครบวงจรของหัวเว่ย ไม่ว่าจะเป็น 5G, 5G อีโคซิสเต็ม, Smart City, Huawei Cloud และ Huawei Mobile

ภายในงาน Digital Thailand Big Bang ครั้งนี้ หัวเว่ยจะจัดกิจกรรมพิเศษมากมายเพื่อเปิดตัวกลยุทธ์อีโคซิสเต็มใหม่จากหัวเว่ย ประเทศไทย ภายใต้แนวคิด “สานพลังนวัตกรรม เชื่อมไทยสู่อนาคต” พร้อมเผยวิสัยทัศน์และความสำเร็จในการสร้างสรรค์อีโคซิสเต็มที่สมบูรณ์ในประเทศไทย ซึ่งรวมถึงนวัตกรรม 5G Smart City, Cloud+AI และ mobile developers เทคโนโลยีเหนือชั้นเหล่านี้จะช่วยนำนวัตกรรมดิจิทัลไปสู่ทุกคน ทุกครัวเรือนและทุกองค์กร

นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญจากหัวเว่ยยังจะเข้าร่วมในการเสวนาหัวข้อต่างๆ ที่น่าสนใจมากมาย ครอบคลุมตั้งแต่เรื่อง 5G, Internet of Things ไปจนถึง Smart City, Cloud และ AI เรายังยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้พบปะกับผู้นำอุตสาหกรรมและพันธมิตรต่างๆ จากทั่วอาเซียน เพื่อให้เราได้สร้างสรรค์เทคโนโลยีที่ช่วยยกระดับการใช้ชีวิต การทำงาน และ
การเดินทางของทุกคน

เกี่ยวกับหัวเว่ย

หัวเว่ย (Huawei) เป็นผู้ให้บริการชั้นนำระดับโลกในด้านโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) และอุปกรณ์อัจฉริยะ ด้วยโซลูชั่นแบบครบวงจรในโดเมนหลัก 4 แห่ง ได้แก่ เครือข่ายโทรคมนาคม ไอที สมาร์ทดีไวซ์และบริการคลาวด์ เรามุ่งมั่นที่จะนำระบบดิจิทัลไปสู่ทุกคน ทุกบ้านและทุกองค์กรเพื่อเชื่อมต่อกับโลกแห่งความล้ำสมัยด้านสติปัญญา

ผลิตภัณฑ์ โซลูชั่น และบริการที่ครบวงจรของหัวเว่ยมีศักยภาพด้านการแข่งขัน และปลอดภัย จากการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในระบบเครือข่าย หัวเว่ยสามารถสร้างสรรค์คุณค่าในระยะยาวให้กับลูกค้า เสริมประสิทธิภาพให้กับผู้คน ช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่ที่บ้านมีความสะดวกสบาย และสร้างแรงบันดาลให้เกิดนวัตกรรมในองค์กรทุกรูปแบบ

หัวเว่ยยังให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก โดยเราได้ทุ่มงบประมาณให้กับการวิจัยและพัฒนา เพื่อค้นหาเทคโนโลยีที่ช่วยขับเคลื่อนโลกไปข้างหน้า ปัจจุบัน หัวเว่ยมีจำนวนพนักงานมากกว่า 180,000 คน ดำเนินธุรกิจใน 170 ประเทศทั่วโลก ซึ่งบริษัทก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1987 และเป็นบริษัทเอกชนที่มีพนักงานเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด