‘Digital Thailand Big Bang 2019: ASEAN Connectivity’ ดึงหน่วยงานรัฐ-เอกชน ร่วมจัดแสดงเทคโนโลยีบนพื้นที่กว่า 40,000 ตารางเมตร โดยมีการนำเทคโนโลยีทั้ง 5G, AI, IoT, Drone รวมถึงเทคโนโลยีเครือข่ายต่างๆ จากผู้ให้บริการที่หลากหลายมาจัดแสดง
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า การจัดงาน Digital Thailand Big Bang 2019 เป็นเหมือนสะพานเชื่อมให้ประชาชนเข้าถึงและสัมผัสประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลได้ง่ายยิ่งขึ้นเพื่อให้เกิดการต่อยอดการนำเทคโนโลยีดิจิทัลไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม
นำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้ยั่งยืน ควบคู่กับการแสดงให้ต่างประเทศได้เห็นถึงความพร้อมของประเทศไทยที่จะก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ มีความเชื่อมั่น และนำไปสู่การลงทุนในประเทศในที่สุด
สำหรับ Digital Thailand Big Bang 2019 จัดขึ้นที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ระหว่างวันที่ 28 – 31 ต.ค. 62 พร้อมสร้างปรากฏการณ์ ‘รวมพลคนดิจิทัล’ โดยแบ่งพื้นที่การจัดงานออกเป็น 3 โซนหลัก ประกอบด้วย โซนที่ 1. Digital Economy การพัฒนาเมืองสู่เศรษฐกิจดิจิทัล นำเสนอเทคโนโลยีที่จะเป็นตัวกำหนดแนวโน้มโลกอนาคต อาทิ เทคโนโลยี AI Internet of Things (IoT) และ Big Data
โซนที่ 2. Digital Society พื้นที่แสดงถึงความสำคัญเกี่ยวกับทักษะด้านดิจิทัลที่จะเข้ามาขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน โดยเฉพาะสังคมเกษตรกรรมที่เทคโนโลยีดิจิทัลจะเข้ามายกระดับคุณภาพชีวิต โซนที่ 3. Creativity พื้นที่รวบรวมเทคโนโลยีเพื่อการสร้างสรรค์จากหลากหลาย Startup นักพัฒนาเกม และเทคโนโลยีต่างๆ
กสท โชว์แนวคิด ‘The Window of Unlimited Possibility’
พันเอก สรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม (มหาชน) หรือ กสท กล่าวว่า กสท ร่วมเดินหน้าผลักดัน ‘ดิจิทัลไทยสู่ดิจิทัลอาเซียนฮับ’ ผ่านแนวคิด ‘The Window of Unlimited Possibility’ ที่สื่อให้เห็นถึงความร่วมมือกับพันธมิตรต่างประเทศเพื่อสร้าง ASEAN Connectivity ให้เกิดขึ้น โดยนำเสนอเนื้อหาหลัก 3 โซน ได้แก่ โซน ASEAN Digital HUB, โซน Innovation และโซน Smart Life
ด้วยการนำการพัฒนาโครงข่ายเคเบิลใยแก้วที่เชื่อมต่อไปยังภูมิภาคอาเซียน มาจัดแสดง ตามด้วยการนำเสนอโซลูชันการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ผ่าน IoT by CAT และนำเทคโนโลยี Smart Bar และ Robot Café มาให้บริการกาแฟกับผู้ที่มาแวะเยี่ยมชมบูธของ CAT
ทีโอที เปิดตัว แชทบอท บริการดิจิทัล 24 ชม.
นายมนต์ชัย หนูสง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทีโอที มาพร้อมคอนเซ็ปต์ ‘TOT 360° Connect’ โชว์นวัตกรรมเทคโนโลยี Digital Services แพลตฟอร์มการเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อชีวิตล้ำสมัย พร้อมเปิดตัว TOT Chatbot ช่องทางดิจิทัลเพื่อให้คำแนะนำช่วยเหลือลูกค้าเกี่ยวกับสินค้าและบริการ หรือสอบถามข้อมูลบน Facebook ตลอด 24 ชม.
ทีโอที จัดงานออกเป็น 8 โซน ซึ่งทีโอที ได้พัฒนาสร้างสรรค์ สร้างประโยชน์ต่อภาคประชาชน ธุรกิจ และเศรษฐกิจ เพื่อร่วมขับเคลื่อนประเทศตามตามยุทธศาสตร์ชาติ โดยเฉพาะโซน Connecting Digital Education ซึ่งเป็นการนำเสนอผลงานในโครงการ Thailand Digital Young Talent 2019 ที่เป็นความร่วมมือของ 26 หน่วยงาน ระหว่าง ทีโอที สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) สถาบันการศึกษา 10 สถาบัน และ สถานประกอบการอีก 14 องค์กร เพื่อตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพของมนุษย์
นางพิมพ์วิมล วงษ์สุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดและเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า TOT Chatbot เป็นช่องทางดิจิทัลสำหรับลูกค้าเพื่อให้คำแนะนำช่วยเหลือเกี่ยวกับสินค้าและบริการ รวมถึงการสอบถามข้อมูลต่างๆ ที่รวดเร็วตลอด 24 ชม. โดยในปีนี้จะเปิดให้บริการบน Facebook Messenger และในปี 2563 จะเปิดให้บริการบน LINE ต่อไป
LINE ต่อยอดแนวคิด Life On LINE ชูแพลตฟอร์มช่วยร่วมพัฒนาบริการสาธารณะ
นายพิเชษฐ ฤกษ์ปรีชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE ประเทศไทย กล่าวว่า การจัดแสดงเทคโนโลยีและบริการของ LINE ในงาน Digital Thailand Big Bang 2019 ครั้งนี้ เป็นตัวอย่างของการนำเทคโนโลยีมาทำให้ชีวิตของคนไทยดีขึ้นในด้านที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงการให้คำแนะนำ คำปรึกษาโซลูชั่นมากมายบนแพลตฟอร์ม LINE ที่จะสามารถช่วยเสริมประสิทธิภาพให้กับบริการของภาครัฐได้ ตามนโยบายของรัฐบาลในเรื่อง Digital Economy
นอกจากนี้ ยังเป็นพื้นที่ให้ 6 สตาร์ทอัปดาวรุ่งของประเทศไทยที่ร่วมในโครงการ LINE ScaleUp ได้โชว์นวัตกรรมบริการดิจิทัลที่พัฒนาบนแพลตฟอร์ม LINE ซึ่งพร้อมจะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันเศรษฐกิจประเทศไทย ตอบสนองการเดินหน้าสู่ Smart Cities และยุคอุตสาหกรรม 4.0
ภายในบูธจัดแสดงของ LINE ได้จัดแสดงถ่ายทอดทุกมิติของบริการภายใต้แพลตฟอร์ม LINE ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับชีวิตประจำวันของทุกคน โดยมีโซน LINE Gov Tech Solution ที่น่าสนใจ ด้วยการนำนักพัฒนา มาให้คำปรึกษา แนะนำดิจิทัลโซลูชันเพื่อบริการสาธารณะ สนับสนุนองค์กรภาครัฐให้สามารถสร้างและพัฒนาบริการของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย
ดีแทค นำ 5G แพลตฟอร์ม EV และดิจิทัลเพื่อสังคมจัดแสดง
นางอเล็กซานดรา ไรช์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า ด้วยการลงทุนโครงข่ายของดีแทค ที่นำระบบเทคโนโลยีชุมสายเสมือน (Virtualized Core Network: VCN) มาใช้งาน ทำให้ปัจจุบัน ดีแทค พร้อมที่จะอัปเกรดอุปกรณ์ให้รองรับ 5G เพื่อให้บริการได้ทันที
ภายในงานนี้จึงได้นำแนวคิด สถานีแห่งการไม่หยุดพัฒนา (Never Stop Station) แบ่งเป็น 3 โซน เพื่อแสดงเทคโนโลยีอย่างการ เปิดประสบการณ์ 5G บนคลื่น 28 GHz พร้อมนำประสบการณ์ให้บริการ 5G จากเทเลนอร์มาแสดงให้เห็น
ตามด้วยโซนล้ำกว่าการเชื่อมต่อโลกโมบายล์ (Beyond Mobile Connectivity) อย่างการนำ dtac EV platform เพื่อสนับสนุนความต้องการที่หลากหลายสำหรับยานพาหนะไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ dtac@Home การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในบ้านผ่านโครงข่ายไร้สาย และโซนดิจิทัลเพื่อทุกคนในสังคม (Digital Society for All) นำเกษตรดิจิทัล และโครงการเน็ตอาสา มาสร้างแนวคิดในการให้บริการเพื่อสังคม
กลุ่มทรู นำเสนอโครงข่าย นวัตกรรม และโซลูชันแห่งยุคอนาคต
ภายในบูธของกลุ่มทรู จะเน้นนำเสนอ True Connectivity to complete limitless living – การเชื่อมต่อ เพื่อตอบโจทย์ชีวิตไม่สิ้นสุด ไม่ว่าจะเป็นเครือข่าย 5G สำหรับการทดลองทดสอบ, 4G, ไฟเบอร์บรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต และเครือข่าย NB-IoT และ CAT-M1 ที่ครอบคลุมและใช้งานได้จริงแล้วทั่วไทย
ด้วยการนำเทคโนโลยีภายในกลุ่มที่มีอยู่มาร่วมผลักดันทั้งในเรื่องของการเรียนรู้ กับทรู ดิจิทัล อคาเดมี การนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งทรูมันนี่วอลเล็ท ทรูไอดี แพลตฟอร์ม และโซลูชันจากทรู ดิจิทัล กรุ๊ป รวมถึงประสบการณ์นำ 5G มาใช้งานร่วมกับ VR และหุ่นยนต์บริการ
ETDA หนุนผู้ประกอบการใช้ช่องทางอีคอมเมิร์ซ
นางสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ETDA กล่าวว่า ในปีนี้ มาในธีม YOUNG TALENT STUDIO เป็นการจัดทำ Workshop ที่สอดแทรกความรู้ต่างๆ ไปพร้อมกับความสนุกสนาน สำหรับผู้ที่มีความสนใจในด้านการทำธุรกิจ e-Commerce พร้อมเปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดงศักยภาพ เกิดแรงบันดาลใจ รวมไปถึงการนำเสนอไอเดียของตนเอง เพื่อต่อยอดไปสู่การทำธุรกิจ e-Commerce ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รวมถึงการสร้างแรงงานดิจิทัล ด้วยการสื่อสารผ่านกิจกรรมต่างๆ ในรูปแบบของ Studio จำลอง เรียนรู้และลองทำด้วยตนเอง ในเรื่องของการถ่ายภาพสินค้า การถ่ายแบบสำหรับสินค้า การจัดแสง การจัดองค์ประกอบในการถ่ายภาพ การ Live ขายสินค้า การรีวิวสินค้า การตลาดออนไลน์ การทำคอนเทนต์เพื่อการขายสินค้าทางออนไลน์
Huawei นำทั้งอีโคซิสเตมส์ 5G มาแสดงให้เห็น
หัวเว่ย เลือกใช้พื้นที่ภายในงาน 2 บูธ เพื่อจัดแสดงผลิตภัณฑ์ และโซลูชัน ทั้ง 5G, 5G Ecosystem, Smart City, Huawei Cloud และ Huawei Mobile ครอบคลุม 5 โซน ไม่ว่าจะเป็นการเร่งเครื่องประเทศไทยสู่ 5G เพื่อเตรียมความพร้อมในการนำ 5G มาใช้งานในประเทศไทย
การนำเสนอระบบนิเวศ 5G ในการสร้างสรรค์ธุรกิจ ครอบคลุมทั้งโทรคมนาคม สื่อ การผลิต การเดินทาง การบริการสาธารณะและการศึกษา รวมถึงสมาร์ทอินดัสทรี สมาร์ทไลฟ์ บริการ AI และการสร้างแบบจำลอง 3 มิติ การนำเสนอสมาร์ทซิตี้ในการนำไอซีทีมาใช้อย่างเต็มรูปแบบ การนำคลาวด์มาช่วยสร้างการเติบโตทางธุรกิจ และการนำสมาร์ทดีไวซ์ของหัวเว่ย ไปใช้งานในชีวิตประจำวัน.