ไขความลับ Tesco Lotus กับการสร้าง “a place to get on” ปรับวิธีทำงานให้ยืดหยุ่น ดูแลพนักงานทุกวัยให้ไปถึงจุดหมายของชีวิตอย่างเข้าใจ


ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามาเปลี่ยนวิถีชีวิตและการทำงานอย่างรวดเร็ว ธุรกิจค้าปลีกอย่าง Tesco Lotus ไม่นิ่งเฉย เตรียมรับมือคลื่นความเปลี่ยนแปลงด้วยความ “เข้าใจ” ปรับวิธีการทำงานให้เหมาะกับคนทุกช่วงวัย ซึ่งรวมถึงนักเรียนและผู้สูงวัย พร้อมพัฒนาองค์กรให้ดูแลส่งเสริมพนักงานร่วม 50,000 ชีวิต ให้ก้าวไปสู่จุดหมายของชีวิตทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ภายใต้คอนเซ็ปต์ “a place to get on” ผ่านการออกแบบระบบสนับสนุนที่สอดคล้องไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ แนวคิดเบื้องหลังการดูแลพนักงานของ Tesco Lotus จนสามารถขยายสาขาได้กว่า 2,000 สาขาทั่วประเทศภายในเวลา 25 ปี

มีหัวใจหลักๆ อยู่ 3 ประการ ได้แก่

1. “Flexibility” เมื่อ “งานเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต” ความยืดหยุ่นจึงมีบทบาทในการวางแผนทางด้านบุคคล จึงเริ่มเปิดโอกาสให้พนักงานบริหารงานและชีวิตอย่างลงตัวไปควบคู่กัน ตอบรับการทำงานสมัยใหม่ผ่านช่องทางออนไลน์และแอพลิเคชันบนมือถือ เช่นพนักงานบางส่วนสามารถ “ทำงานจากที่บ้านในวันศุกร์” (Work from Home on Friday) ทำให้มีเวลาเพิ่มขึ้นในการจัดสรรดูแลชีวิตตนเองเพิ่มขึ้นอีก 1 วันต่อสัปดาห์ รวมถึงมีแอพลิเคชันสำหรับพนักงานอย่าง “iTouch” ซึ่งพนักงานสามารถจัดการเรื่องต่างๆ ได้จากบนมือถือ

2. “Diversity & Inclusion” ถือเป็นหนึ่งประเด็นสำคัญของยุคปัจจุบันที่เปิดรับและเคารพทุกความหลากหลาย องค์กรเริ่มมองข้ามความแตกต่างทางอายุหรือเชื้อชาติ จึงทำให้เกิดโครงการผู้สูงอายุ “60 ยังแจ๋ว” เมื่อต้นปี 2562 โดยมีผู้สูงอายุเข้ามาร่วมทำงานกว่า 800 คนภายในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา รวมถึงให้ “นักเรียน” สัมผัสประสบการณ์การทำงานจริงและภูมิใจในการสร้างรายได้ด้วยตัวเอง ในฐานะ “Student Part-Time” มากถึง 4,000 คนต่อปี พร้อมทุนการศึกษา

เมื่อค่าครองชีพเป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้ จึงเป็นที่มาของการสนับสนุนการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย เช่นโครงการ “ธงเขียว” (Green Flag) เพื่อช่วยลดค่าครองชีพและคัดสินค้าคุณภาพแบรนด์เทสโก้ ให้กับพนักงานทุกคนได้ซื้อสินค้าในราคาถูกสุดๆ


3. “Personalised Learning” เพื่อผลักดันให้เติบโตได้ในแบบของตัวเองและเท่าทันทุกการเปลี่ยนแปลง Tesco Lotus จึงจัดเตรียม “i-Learn” ระบบการเรียนรู้ออนไลน์ ให้ความสะดวกในการเข้าถึงทักษะการต่อยอด และจัดโปรแกรม “Micro MBA” ผ่านโครงการ Learning Dollars ที่พนักงานสามารถเลือกหลักสูตรได้ตามความสนใจ โดยร่วมมือกับคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และอีก 4 มหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ เพื่อติดอาวุธทางธุรกิจและการบริหารงานให้พนักงานอย่างครบครัน

ทั้งหมดนี้ เป็นส่วนหนึ่งของวิธีการบริหารบุคลากรแบบ “Tesco Lotus” ที่ปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยใหม่ โดยเชื่อว่าพนักงานจะสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตและเดินไปสู่จุดหมายที่ต้องการได้ ทั้งด้านการทำงานและเรื่องชีวิตส่วนตัว ซึ่งความเข้าใจและความใส่ใจที่มีต่อพนักงานนี้ส่งผลให้ Tesco Lotus คว้ารางวัลสุดยอดนายจ้างดีเด่น “Best Employer Award” ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 แล้ว จากทาง Kincentric Thailand (Aon Hewitt) ที่ร่วมมือกับ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ (SASIN) แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงเป็นเครื่องหมายยืนยันและให้กำลังใจองค์กรในการขับเคลื่อนธุรกิจ ให้ตอบโจทย์พนักงานและผู้บริโภคในช่วงเวลาที่ผันเปลี่ยนนี้ต่อไป