ซีพี ออลล์ ร่วมกับภาครัฐ ภาคประชาสังคม และ 32 องค์กรภาคเอกชน เดินหน้าขับเคลื่อนการศึกษาไทย ต่อยอดความสำเร็จโครงการผู้นำเพื่อการพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืน CONNEXT ED สู่ระยะที่ 3 มุ่งยกระดับการศึกษาของประเทศให้พัฒนาอย่างก้าวกระโดด สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในศตวรรษที่ 21 ที่การศึกษาไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องมือพัฒนาบุคลากรในประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนสำคัญต่อการแข่งขันของประเทศในระดับสากล
นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานภาครัฐ เป็นประธานเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการ โครงการผู้นำเพื่อการพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืน ประจำปี 2562 (CONNEXT ED Workshop 2019) กล่าวว่า ขอขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ที่ร่วมด้วยช่วยกันพัฒนาการศึกษาไทยในโครงการสานอนาคตการศึกษา ส่งผลต่อการสร้าง 3 สิ่งสำคัญให้เกิดขึ้น นั่นก็คือ “ประวัติศาสตร์” ในการดำเนินงานภายใต้ความร่วมมือของทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เพื่อร่วมพัฒนาการศึกษาในโรงเรียนทั้ง 4,700 แห่งทั่วประเทศ นำไปสู่ “การปฏิรูปการศึกษา” ในทุกมิติ ถือเป็น “ปาฏิหาริย์”ต่อการเสริมความเข้มแข็งของการจัดการศึกษาภาครัฐที่จะเติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต
“มั่นใจว่า ผู้นำรุ่นใหม่ หรือ School Partner จะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นจริง ช่วยสร้างโอกาสที่ดีแก่เด็กและเยาวชนไทยให้เติบโตเป็นกำลังสำคัญ และเป็นอนาคตที่ดีของชาติต่อไป” รมว.ศึกษาธิการ กล่าว
จากคำกล่าวรมว.ศึกษาธิการ เปรียบเสมือนการสร้างพลัง และเป็นกำลังใจให้กับผู้นำรุ่นใหม่ หรือ School partners จาก 33 องค์กรภาคเอกชน ซึ่งถือเป็นพลังสำคัญที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมขับเคลื่อนการศึกษา และช่วยสานต่อความสำเร็จดั่งเช่น 2 ระยะที่ผ่านมา
ด้านนายธานินทร์ บูรณมานิต กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้ก่อตั้งร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในประเทศไทยได้ย้ำว่า นโยบายส่งเสริมการศึกษาในโครงการ CONNEXT ED ถือเป็นนโยบายสำคัญที่ทุกคนในองค์กรให้การสนับสนุนมาโดยตลอด โดยเฉพาะการสร้างบุคลากรที่เรียกว่า School Partners หรือ SP เพื่อลงไปร่วมศึกษาปัญหา และพลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านการศึกษา การร่วมขับเคลื่อนโครงการ 3 ปีที่ผ่านมา ทำให้เรามีข้อมูล ที่จะนำมาวิเคราะห์ เพื่อปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำงานปีนี้ จึงเชื่อมั่นว่าจะยกระดับการศึกษาและโรงเรียนทั่วประเทศให้ดีขึ้นต่อ ๆ ไป
“ซีพี ออลล์ ส่งเสริมให้บุคลากรที่อยู่ในทุกพื้นที่ ได้มีบทบาทร่วมแสดงความรับผิดชอบต่อชุมชน และสังคม ในท้องถิ่นของตนเอง ส่งผลให้การดำเนินงานใน 2 ระยะที่ผ่านมาซีพี ออลล์สามารถเข้าใจ และเข้าถึงความต้องการของโรงเรียนที่อยู่ภายใต้ความดูแลกว่า 300 แห่งในทุกพื้นที่ จนเกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรมคือนักเรียนมีผลการเรียนที่ดีขึ้น มีทักษะอาชีพที่หลากหลาย สามารถสอบเข้าไปศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น ซึ่งถือเป็นความสำเร็จจากการร่วมมือของทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง” นายธานินทร์ย้ำ
ไม่ใช่แค่ผู้บริหารที่รู้สึกภาคภูมิใจเท่านั้น แต่ School Partner (SP) ของซีพี ออลล์ อย่าง “กุสุมา สมาคม” เจ้าหน้าที่ศูนย์กระจายสินค้าประจำจังหวัดสุราษฏร์ธานี ยังรู้สึกภาคภูมิใจ ที่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมกับโครงการนี้เช่นกัน โดยกล่าวว่า รู้สึกดีใจ ที่ได้เป็นฟันเฟืองเล็กๆ ในการขับเคลื่อนระบบการศึกษาไทย ทำให้เด็กๆ มีช่องทางการศึกษาเพิ่มมากขึ้น ส่วนใหญ่เราจะทำงานร่วมกับ ครู และ ผู้อำนวยการโรงเรียน ช่วยวางแผนการทำโครงการต่างๆ ออกมาเพื่อให้นักเรียนได้มีส่วนร่วม และได้ทำในสิ่งที่แตกต่างไปจากเดิมมากกว่าการเรียนรู้ในห้องเรียนอย่างเดียว
“3 ปีที่ผ่านมา เราไม่เพียงเข้าไปเสริมจุดเด่น ลดจุดอ่อนให้กับโรงเรียน แต่เราได้สร้างสรรค์กิจกรรม โครงการต่างๆ เพื่อทำให้เด็กๆ สนุกกับการเรียน มีทักษะอาชีพรองรับงานในอนาคต เราเชื่อมั่นว่า เด็กๆ จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีประสิทธิภาพ และจะเป็นคนรุ่นใหม่ ที่พร้อมจะเข้ามาพัฒนาประเทศของเราให้เติบโตแข็งแกร่งยิ่งๆ ขึ้น” กุสุมา เล่าอย่างภูมิใจ
ทั้งนี้ภายในงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานภาครัฐ ได้มอบโล่เกียรติยศเชิดชูเกียรติแก่นายธานินทร์ บูรณมานิต กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะภาคเอกชน ผู้ร่วมขับเคลื่อนโครงการผู้นำเพื่อการพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปตามปณิธานซีพี ออลล์ “ร่วมสร้างสรรค์ และแบ่งปันโอกาสให้ทุกคน”
การที่ภาครัฐ ภาคประชาสังคม และภาคเอกชนหันมาให้ความสำคัญ สนับสนุนบุคลากรภายในองค์กรให้เห็นความสำคัญ และร่วมสร้างวัฒนธรรมการมีส่วนร่วมด้านการศึกษา ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวที่จะนำไปสู่การพัฒนาการศึกษาไทยให้ก้าวไกลและเกิดความยั่งยืนได้อย่างแท้จริง