ปรากฏการณ์ Candy Effect

ขณะที่ใครๆ ก็สนใจไอโฟน แต่ซัมซุงเล็งเห็นกลุ่ม Follower ก่อนใครจึงชิงเปิดตัวตระกูล “แคนดี้” ไปเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ด้วยหน้าตาที่คล้ายไอโฟนขนาดย่อมพร้อมสีสันสดใสสไตล์ลูกกวาด แต่เป็นฟีเจอร์โฟนที่ความสามารถครบครันที่สำคัญคือเชื่อมต่อเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ แถมยังแชตได้เหมือนบีบี ด้วยดีไซน์และคุณสมบัติที่รวมจุดเด่นของทั้ง 2 แบรนด์เข้าไว้ด้วยกันจึงเป็น Beginner สำหรับผู้ที่อยากทดลองใช้สมาร์ทโฟนในราคาไม่ถึง 6 พันบาท ทำให้แคนดี้สร้างยอดขายมากกว่า 5 หมื่นเครื่องต่อเดือนในปีที่ผ่านมา ผลักดันให้ซัมซุงก้าวขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งในตลาดเบียดแชมป์เก่าหลายสมัยอย่างโนเกียเป็นครั้งแรก

ส่วนพรีเซ็นเตอร์แคนดี้ไม่ใช่ใครอื่น ยังเป็นแพนเค้กนางเอกอันดับต้นๆ ของช่อง 7 เช่นเคย ด้วยลุคสดใส ทันสมัย มีสีสันสื่อถึงบุคลิกที่ชัดของแคนดี้อย่างลงตัว และตรงกับกลุ่มเป้าหมายคือคนรุ่นใหม่จึงสามารถทำตลาดได้ไม่ยาก นอกจากการทำตลาดผ่านพรีเซ็นเตอร์และสื่อ Above the line แล้วซัมซุงยังใช้กลยุทธ์ Youth Marketing เพื่อสร้างแบรนด์ในกลุ่มเป้าหมายผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น งานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ – ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 66 ที่เชื่อมกับการแข่งประกวดรูปผ่านเฟซบุ๊กเพื่อให้ผู้ชนะได้ไป Meet & Greet กับเชียร์ลีดเดอร์ โดยใช้งบผ่านกิจกรรมนี้กว่า 1 ล้านบาท

การเปิดตัวแคนดี้นับว่าสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับวงการอย่างเห็นได้ชัด เพราะแม้แต่ ธนา เธียรอัจริยะ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลยุทธ์องค์กร ของดีแทคยังจัดให้เป็นปรากฏการณ์ “Candy Effect” แก่วงการมือถือ ซึ่งความเห็นดังกล่าวน่าจะเป็นจริงเพราะแม้แต่เอชทีซีที่มีจุดยืนเป็นพรีเมียมสมาร์ทโฟนในราคาไม่ต่ำกว่าหลักหมื่นบาทยังต้องลงมาเล่นตลาด “แมส” ระดับเดียวกับแคนดี้ ด้วยการเปิดตัว HTC Smart ที่มีราคาเพียง 6,750 บาท ซึ่งมาพร้อมกับคำนิยามว่า “Consumer Smartphone”

“เพราะรุ่นนี้เป็นฟีเจอร์โฟนที่มีความสามารถเท่ากับสมาร์ทโฟน” ณัฐวัชร์ ขยายคำจำกัดความของ HTC Smart ที่สามารถเข้าถึงโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คยอดฮิตอย่างเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ได้ รวมทั้งคุณสมบัติด้านตัวเครื่องครบครันตามแบบฉบับฟีเจอร์โฟนเช่นเดียวกับแคนดี้ไม่มีผิดเพี้ยน จะต่างกันแค่ตรงที่รุ่นนี้รองรับ 3G ได้และใช้แพลตฟอร์ม BREW ที่พัฒนาโดยควอลคอมม์เท่านั้น

เอชทีซีใช้งบการตลาด 10 ล้านบาทเพื่อรุ่นนี้โดยเฉพาะ พร้อมเน้นการกระจายสื่อให้ครอบคลุมทั้ง Above the line และ Below the line รวมทั้งเพิ่มช่องทางการขายในต่างจังหวัดจากเดิม 20 แห่ง เป็น 50 แห่ง และยังเป็นครั้งแรกที่เอชทีซีใช้แบรนด์แอมบาสเดอร์อีกด้วย “เราไม่ได้ใช้พรีเซ็นเตอร์เป็นดาราดังแต่ต้องโดดเด่นและดูดี” โดยมีกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่อายุ 15 ปีขึ้นไป ซึ่งเขาเองก็ยอมรับว่าการเดินตามช้างแล้วจะเป็นเหมือนช้างไม่ใช่เรื่องง่าย จึงคาดหวังเล็กๆ ว่าการลงมาทำตลาดแมสครั้งแรกนี้จะมียอดขายประมาณ 2-3 หมื่นเครื่องในตลาดรวม