กลุ่มทรูประกาศใช้ถุงกระดาษรีไซเคิลทดแทนการแจกถุงพลาสติก พร้อมกิมมิกด้วยการแจกเมล็ดพันธุ์ดอกไม้เพื่อให้ลูกค้าไปปลูกต่อ สร้างพฤติกรรมความรับผิดชอบต่อสังคม นำร่อง 10 สาขาแฟล็กชิพ สโตร์ ก่อนขยายไปทุกสาขาทั่วประเทศในปีหน้า
เปลี่ยนใช้ถุงกระดาษรีไซเคิล ลดใช้ถุงพลาสติกปีละ 3 ล้านใบ
ท่ามกลางปัญหาเรื่อง “ถุงพลาสติก” ที่กลายเป็นปัญหาระดับโลก ไม่ว่าภาครัฐ หรือเอกชนต่างต้องให้ความสำคัญ จนกลายเป็นนโยบาย หรือทิศทางใหญ่ของแบรนด์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ในปีนี้เองมีแอคชั่นเกี่ยวกับการลดใช้ถุงพลาสติกมากมาย เพราะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ในประเทศไทยเองก็พบว่าทุกภาคส่วนมีการตื่นตัว ไม่ว่าจะผู้ค้าปลีกที่มีโยบายการลดให้ถุงพลาสติกอย่างจริงจังมากขึ้น แม้จะยังไม่เด็ดขาด แต่ก็สามารถลดได้มากพอสมควร หรือแม้แต่แบรนด์ใหญ่ๆ ก็มีการปรับแพ็คเกจจิ้งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ล่าสุด “กลุ่มทรู” ได้ประกาศใช้ถุงกระดาษแทนถุงพลาสติกแล้วเรียบร้อย แต่เป็นการนำร่องก่อน 10 สาขา ก่อนที่จะขยายไปทุกสาขาทั่วประเทศในปีหน้า
โอลิเวอร์ กิตติพงษ์ วีระเตชะ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านแบรนด์ และการสื่อสาร บมจ. ทรูคอร์ปอเรชั่น เล่าว่า
“ในแต่ละปีทรูใช้ถุงพลาสติกในการให้บริการจำนวน 3 ล้านใบต่อปี การใช้ถุงกระดาษจะสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 600,000 กิโลกรัมต่อปี ถุงกระดาษมีการออกแบบลวดลายดอกไม้ แสดงอัตลักษณ์ใหม่ของทรู เป็นการรีเฟรชแบรนด์ให้ทันสมัยขึ้น ไม่ได้จำกัดแค่ว่าทรูจะต้องมีสีแดง และยังสื่อถึงความเป็นธรรมชาติ รักษ์โลกด้วย”
แจกเมล็ดพันธุ์ดอกไม้ ช่วยปลูกจิตสำนึก
ถึงแม้ว่าทรูไม่ใช่เจ้าแรกที่มีการประกาศเปลี่ยนจากถุงพลาสติกเป็นถุงกระดาษ แต่ความน่าสนใจของถุงกระดาษของทรูนอกจากถุงกระดาษที่ผลิตจากกระดาษคราฟต์รีไซเคิลแล้ว คือการแจก “เมล็ดพันธุ์ดอกไม้” พ่วงไปด้วย
เป็นเมล็ดพันธุ์ดอกไม้ 5 ชนิด ได้แก่ ดอกแววมยุรา, ดอกผีเสื้อ, ดอกสร้อยไก่, ดอกดาวเรืองฮันนี่โกลด์ และดอกซันไบร์ทคิดส์
เมื่อถามถึงเหตุผลว่าทำไมถึงเลือกดอกไม้ 5 ชนิดนี้ โอลิเวอร์บอกว่า ทีมงานทำการบ้านมาอย่างดี เลือก 5 ชนิดนี้เพราะเป็นดอกไม้ที่ปลูกง่าย และดูแลง่าย มีสีสันสวยงาม เหมาะกับภูมิอากาศของประเทศไทย และยังมีอินไซต์หนึ่งที่ว่ามีคนมือร้อนที่ปลูกต้นไม้ไม่ค่อยขึ้น จึงอยากให้กำลังใจคนมือร้อนให้ปลูกต้นไม้ขึ้น ปลูก 5 ดอกนี้อย่างไรก็ขึ้น
นอกจากนี้ยังมี QR Code ให้ลูกค้าสแกน และดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน We Grow ที่แนะนำวิธีการปลูก และการดูแลรักษา เพื่อให้ลูกค้าสามารถชื่นชมและภาคภูมิใจกับดอกไม้ที่ปลูกด้วยตนเอง
สำคัญกว่าเปลี่ยนถุง คือเปลี่ยนพฤติกรรม
นโยบายของแต่ละแบรนด์จะมีความแตกต่างกันออกไป ทั้งงดแจกถุงพลาสติกไปเลย หรือกระตุ้นให้ใช้ถุงผ้าโดยการให้ “รางวัล” ด้วยแต้มใน Loyalty Program หรือการหาวัสดุมาทดแทนถุงพลาสติก
แน่นอนว่าการใช้ถุงกระดาษย่อมมีต้นทุนที่แพงกว่าถุงพลาสติก ซึ่งทางทรูไม่เปิดเผยว่าสูงกว่าเท่าไหร่ แต่ทางโอลิเวอร์บอกว่า “ต้นทุนถุงกระดาษสูงกว่าถุงพลาสติกอยู่แล้ว แต่ถ้าทำให้เรื่องอื่นๆ สมดุลได้ มันก็ถึงเวลาที่จะทำ”
“ก่อนหน้ามีหาแนวทางเรื่องวิธีการลดใช้ถุงพลาสติกต่างๆ มีการใช้ทรูพอยท์แลกถุงผ้า ก็เริ่มเห็นคนไทยเริ่มปรับพฤติกรรมมากขึ้น ไม่ขอรับถุงก็มี ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีในการปลูกฝังเรื่องความรับผิดชอบในสังคมให้หนาขึ้น จากผลสำรวจพบว่าผู้บริโภคมากกว่า 40-50% อยากเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันสังคมให้ดีขึ้น”
นอกจากการใช้ถุงกระดาษที่เป็นวัสดุที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม ยังมีการแจกเมล็ดพันธุ์ปลูกดอกไม้เพื่อเป็นการปลุกจิดสำนึกให้ผู้บริโภคได้ปลูกธรรมชาติให้โลกเพิ่มขึ้น เปลี่ยนทัศนคติให้ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
“จริงๆ แล้วการเปลี่ยนถุงกระดาษอาจจะไม่ใช่ทางออกทั้งหมด ทางที่ดีที่สุดคือไม่ขอรับถุง แต่เปลี่ยนถุงกระดาษคือเฟสแรก เฟสต่อไปกำลังพัฒนาอยู่ อาจจะเป็นเมล็ดเมล็ดพันธุ์อยู่ใ่นเนื้อกระดาษเลยก็ได้ สิ่งที่มากกว่าการเปลี่ยนถุง คือการเปลี่ยนจิตใจคน เปลี่ยนถุงมันง่าย แต่ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมคนด้วย จึงต้องให้เมล็ดพันธุ์ในการปลุกจิตสำนึก”
เริ่ม 10 สาขาทราฟิกสูง ขยายทุกสาขาปีหน้า
ตอนนี้ทรูได้เริ่มเปลี่ยนเป็นถุงกระดาษทั้งหมด 10 สาขา เป็น 4 สาขาที่เป็นแฟล็กชิพ สโตร์ คือ สาขาไอคอนสยาม, สยามพารากอน, สยามสแควร์ ซอย 2 และ 3 และ ทรูช็อป 6 สาขา คือ สยามพารากอน, เอ็มควอเทียร์, เมกะ บางนา, เซ็นทรัล บางนา, เซ็นทรัล พระราม 9 และเซ็นทรัล พระราม 9 ชั้น 4 ซึ่งเป็นสาขาที่มีทราฟิกผู้ใช้บริการสูง มีการใช้ถุงพลาสติกเยอะที่สุด
จากนั้นจะขยายไปจนครบทุกสาขาทั่วประเทศภายในปี 2563