ไฮเออร์ คาดยอดขายปี 2562 ประสบความสำเร็จเป็นไปตามเป้า เติบโตถึง 42% เมื่อเทียบกับปีก่อน เตรียมพร้อมรุกตลาดสมาร์ทโฮมในปี 2563 นำทัพด้วยเครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น และเครื่องซักผ้า พร้อมดันธุรกิจใหม่คือ Ecosystem คาดปีหน้าตัวเลขยอดขายโตตามเป้ากว่า 20% หรือประมาณ 5,600 ล้านบาท
มร. จาง เจิ้งฮุ้ย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวในงาน Haier Dealer Conference 2019 ภายใต้คอนเซปต์ “Haier Leading in Electrical Appliances, Creating Ecosystem Brand” หรือ “ไฮเออร์ผู้นำด้านเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน และริเริ่มธุรกิจ Ecosystem” ว่า “ไฮเออร์ประสบความอย่างเร็จอย่างต่อเนื่องในปีนี้ โดยคาดการณ์รายได้รวมทุกหมวดผลิตภัณฑ์ประมาณ 4,775 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 42% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ในจำนวนนี้เป็นรายได้จากเครื่องปรับอากาศภายในบ้าน 2,342 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47% ตู้เย็น 887 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43% เครื่องซักผ้า 680 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47% ตู้แช่ 408 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ 268 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% และผลิตภัณฑ์ประเภทอื่นๆ 188 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14%
ภายในงานยังมีการแถลงนโยบายและกลยุทธ์ของผลิตภัณฑ์ประเภทต่างๆ อาทิ เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น ตู้แช่ เครื่องซักผ้า พร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่กับไฮเออร์สมาร์ทโฮม รวมไปถึงการก้าวเข้าสู่ธุรกิจ Ecosystem ทั้งนี้ ไฮเออร์ได้เตรียมพร้อมเพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านในประเทศไทยในทุกประเภทสินค้า ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง พร้อมชูจุดขายด้านคุณภาพ ดีไซน์ นวัตกรรมที่ล้ำสมัย และฟังก์ชั่นที่สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค รวมถึงผลิตภัณฑ์ Haier Smart Home สำหรับห้องนั่งเล่นอัจฉริยะ ห้องนอนอัจฉริยะ ห้องครัวอัจฉริยะ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ยุคใหม่
สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศ ภายใต้สโลแกน “Haier Healthy Air Provider ไฮเออร์มอบอากาศที่บริสุทธ์ ไปพร้อมกับความเย็นให้กับผู้บริโภค” ไฮเออร์ได้พัฒนานวัตกรรมเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล ด้วยเทคโนโลยีที่สามารถเชื่อมต่อและควบคุมเครื่องปรับอากาศ เป็น One Stop Service Solution ผ่านแอปพลิเคชั่น Haier Smart Life ที่จะเปิดตัวในปี 2563 อีกทั้งไฮเออร์เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี Self-Cleaning เครื่องปรับอากาศที่ทำความสะอาดตัวเองได้ภายใน 20 นาที อีกทั้งเทคโนโลยี Self-Purify ฟอกอากาศและสามารถกรองฝุ่นได้เล็กถืง 0.3 ไมครอน เล็กกว่า PM 2.5 ถึง 8 เท่า กรองฝุ่นได้ 99.99% ด้วยแผ่นกรองอากาศ IFD Filter
สำหรับปี 2563 ไฮเออร์พัฒนาไปอีกขั้นด้วยเทคโนโลยี Self-Hygiene เคลือบสาร Silver Nanoparticles เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียและยับยั้งการเติบโตของเชื้อราในเครื่องปรับอากาศ และ Hyper PCB แผงป้องกันการเกิดไฟฟ้าที่ไม่เสถียร ความชื้น รวมถึงสัตว์บางประเภท ทำให้เครื่องปรับอากาศมีความทนทานและประหยัดไฟ
ไฮเออร์ยังได้เผยโฉมตู้เย็นอัจฉริยะใหม่ IOT Smart Series รุ่น MD758 ก้าวสู่ยุคแห่งอนาคต ด้วยนวัตกรรมที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคได้ดีที่สุด ล้ำหน้าด้วยจอทัชสกรีนขนาดใหญ่ พร้อมผู้ช่วยอัจฉริยะอย่าง Amazon Alexa ที่สั่งการด้วยเสียง เช่น สั่งเปิดเพลง หรือสอบถามสภาพอากาศ สะดวกยิ่งขึ้นด้วย Food Manage สามารถจัดการและจดบันทึกรายการอาหาร ภายในตู้ติดตั้ง Ultra cam ที่จะช่วยเช็คสต็อกอาหารผ่านทางหน้าจอหรือมือถือ อีกทั้งยังสั่งซื้อของผ่าน Groceries ออนไลน์ ทำให้ชีวิตง่ายมากยิ่งขึ้น เพิ่มอรรถรสด้วย Entertainment อย่าง Youtube, Facebook ที่จะทำให้การทำอาหารไม่น่าเบื่ออีกต่อไป ด้วยคอนเซ็ปต์ Internet of things
อีกทั้งยังมีนวัตกรรม เครื่องซักผ้าถังซักขนาดใหญ่ที่สุดในโลก Haier Super Drum ความจุซัก 15 กก. ความจุอบ 10 กก. ด้วยถังซักขนาด 601 มม. จุผ้าได้มากและซักได้สะอาดมากยิ่งขึ้น พร้อมช่องใส่ผ้าขนาด 450 มม. ช่วยให้ใส่ผ้าและหยิบผ้าได้สะดวก มีระบบ i Refresh หรือระบบซักด้วยไอน้ำ ลดรอยยับ ให้เสื้อผ้าพร้อมสวมใส่ กำจัดสารก่อภูมิแพ้ 99.9% พร้อมระบบสั่งงานผ่าน Wi-Fi นอกจากนี้ ยังมีโทรทัศน์อัจฉริยะ ที่สามารถเชื่อมต่อกับระบบรักษาความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นกล้องวงจรปิด กริ่งประตู หรือแม้แต่ควบคุมการทำงานของระบบไฟฟ้าได้
“ด้านการตลาดและการขาย ในปีหน้าเราจะเน้นทำการตลาดแบบครบวงจร ทุ่มงบทางการตลาดมากยิ่งขึ้นทั้งด้านออนไลน์และออฟไลน์ เพิ่มโฆษณาทางโทรทัศน์ให้กับผลิตภัณฑ์ตู้เย็น และยังคงใช้แบรนด์แอมบาสเดอร์ในการสร้างการรับรู้ผลิตภัณฑ์เช่นเดิม พร้อมทั้งเสริมกลยุทธ์ผลักดันภาพลักษณ์แบรนด์ด้วย Haier Brand Shop ซึ่งปัจจุบันเรามีร้านไฮเออร์แบรนด์ช็อปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ในกรุงเทพฯ แล้ว โดยจะทำการขยายช่องทางการขายต่อไปอย่างต่อเนื่อง รวมถึงช่องทางธุรกิจ B2B และปรับภาพลักษณ์ร้านตัวแทนจำหน่ายไฮเออร์ให้ดีขึ้น นอกจากนี้จะรุกช่องทางการตลาดใหม่ๆ ภายใต้ธุรกิจ Ecosystem อย่างธุรกิจร้านซักผ้าอัจฉริยะ 24 ชม. Smart Plus by Haier และล่าสุดกำลังวางแผนธุรกิจ 5G Shared Air-Conditioning ซึ่งคาดว่าจะช่วยผลักดันธุรกิจของไฮเออร์ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง” มร.จาง เจิ้งฮุ้ย กล่าว
เกี่ยวกับกลุ่มบริษัทไฮเออร์
ไฮเออร์ เป็นผู้ผลิตและผู้นำรายใหญ่ด้านผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าของโลก โดยมี 7 แบรนด์ในเครือ ประกอบด้วย Haier, Casarte, Leader, GE Appliances , Fisher&Paykel , AQUA และ Candy ไฮเออร์ครองแชมป์แบรนด์เครื่องใช้ภายในบ้านอันดับ 1 ของโลกติดต่อกัน 10 ปีซ้อน ตั้งแต่ปี 2551 ถึงปี 2561
จากการจัดอันดับของสถาบันยูโรมอนิเตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยข้อมูลทางการตลาดที่น่าเชื่อถือที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ไฮเออร์มีรายได้ 36.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ผลกำไร 4.54 พันล้านเหรียญสหรัฐ
ในปี 2560 ปัจจุบันไฮเออร์ มีศูนย์วิจัยและพัฒนา 14 แห่ง นิคมอุตสาหกรรม 25 แห่ง โรงงาน 122 แห่ง และบริษัทขาย 106 แห่งทั่วโลก อีกทั้งได้รับรางวัลมากมายจากสถาบันชั้นนำทั่วโลก อาทิ Boston Consulting Group ได้จัดอันดับให้ไฮเออร์เป็น 1 ใน 10 บริษัทที่มีนวัตกรรมล้ำหน้าที่สุดในโลกในปี 2558 มร.จาง รุ่ยหมิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทไฮเออร์ ได้รับยกย่องจาก Fortune นิตยสารด้านธุรกิจยักษ์ใหญ่ให้เป็นหนึ่งในสุดยอดซีอีโอของโลกประจำปี 2560 และไฮเออร์ยังเป็น 1 ใน 50 แบรนด์ที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลกประจำปี 2561 จัดอันดับโดย World Brand Lab และเป็นแบรนด์ IoT Ecosystem รายเดียวของโลกที่อยู่ในลิสต์รายชื่อที่ Top 100 แบรนด์มูลค่าสูงสุดของโลกในปี 2562 จากข้อมูล Brandz อีกด้วย
ในประเทศไทย ไฮเออร์ มุ่งสร้างสรรค์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของผู้บริโภค และให้ความสำคัญกับการตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ โดยปรับเปลี่ยนจากการเป็นแบรนด์อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้ามาเป็นแบรนด์ที่สร้างประสบการณ์สมาร์ทโฮมให้แก่ลูกค้ามากขึ้น ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ไฮเออร์ที่ วางจำหน่ายในประเทศไทยได้แก่ ตู้เย็น ตู้แช่ เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์ เครื่องทำน้ำอุ่น และเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว