กระทรวงการคลังญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ญี่ปุ่นขาดดุลการค้าราว 8.208 หมื่นล้านเยน หรือประมาณ 749 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยปริมาณการส่งออกลดลง 5% ขณะที่มูลค่าการส่งออกติดลบ 7.9% แม้ตัวเลขจะดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะติดลบถึง 8.6% แต่ยังไม่ใช่สัญญาณที่ดี เพราะการส่งออกของญี่ปุ่นติดลบต่อเนื่องถึง 12 เดือนแล้ว
เมื่อเทียบเป็นภูมิภาค การส่งออกของญี่ปุ่นไป เอเชีย ลดลง 5.7% ขณะที่ภูมิภาคดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนกว่า 50% ของการส่งออกทั้งหมด ส่วน ประเทศจีน ประเทศที่เป็นสัดส่วนการส่งออกใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นลดลง 5.4% โดยยอดส่งออกในจีนลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 โดยเฉพาะสารเคมีและชิ้นส่วนรถยนต์ที่เป็นสินค้าส่งออกหลัก ส่งผลให้ขาดดุลถึง 2.6802 แสนล้านเยน ส่วนการส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 โดยลดลง 12.9% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการขนส่งรถยนต์เครื่องจักรก่อสร้างและชิ้นส่วนรถยนต์ลดลง
ทั้งนี้ เศรษฐกิจของญี่ปุ่นขยายตัวเร็วกว่าที่เคยในช่วงไตรมาสที่ 3 แต่ปัจจัยส่วนใหญ่มาจากการใช้จ่ายทางธุรกิจและการบริโภคภาคเอกชน แต่หลายคนกังวลว่าการขยายตัวดังกล่าว คือ การปิดกั้นรอยร้าวในวงกว้างทางเศรษฐกิจ หลังจากที่รัฐบาลเดินหน้าปรับขึ้นภาษีทั่วประเทศในเดือนตุลาคม ส่งผลให้ยอดค้าปลีกและการใช้จ่ายภาคครัวเรือนหดตัวหลังจากที่ผู้บริโภคตึงตัวกระเป๋าเงินของพวกเขาตามการขึ้นภาษีการขาย
#ส่งออก #ญี่ปุ่น #จีน #สหรัฐ