“เวียนนา เฮ้าส์” ปักหมุดอสังหาฯ ในยุโรปให้กับ “ยู ซิตี้” เดสติเนชั่นในฝันของนักเดินทางทั่วโลก


เชื่อว่าใครหลายๆ คนย่อมมีความใฝ่ฝันที่จะไปเยือนยุโรปสักครั้งในชีวิต เพราะเป็นหนึ่งในเดสติเนชั่นในฝัน เป็นดินแดนสุดโรแมนติก อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่ตื่นตาตื่นใจ แน่นอนว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เองก็ย่อมให้ความสำคัญกับยุโรปอย่างมาก เพราะเป็นเดสติเนชั่นของคนทั่วโลก เป็นโลเคชั่นสำคัญของการทำธุรกิจนี้

“ยู ซิตี้” หรือ บริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) ขึ้นชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งผู้เล่นในวงการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของไทยอีกรายหนึ่ง ซึ่งมีประสบการดำเนินธุรกิจมากว่า 30 ปี และจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปัจจุบันมีมูลค่าทรัพย์สินกว่า 53,000 ล้านบาท (ณ สิ้นไตรมาสที่ 3/62) และเป็นหนึ่งในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของ บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)

ปัจจุบันยู ซิตี้มีจำนวนห้องพักภายใต้การบริหารทั้งหมดจำนวน 117 โรงแรม ด้วยจำนวนห้องมากกว่า 30,000 ห้อง ภายใต้แบรนด์ “เวียนนา เฮ้าส์” “ยู โฮเต็ล” “อีสติน” และ “เทรเวลลอดจ์” โดยกลยุทธ์ทางธุรกิจของยู ซิตี้ คือ มีทั้งการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยทั้งหมด 7 แห่ง เช่น โรงแรมอีสตินแกรนด์ สาทร โรงแรมยูสาทร และโรงแรมยู เชียงใหม่

รวมถึงการลงทุนในต่างประเทศทั่วโลก เช่น โรงแรมในยุโรป ภายใต้แบรนด์ “เวียนนา เฮ้าส์” จริงๆ แล้วยู ซิตี้ได้เริ่มสยายปีกการลงทุนสู่ยุโรปตั้งแต่ปี 2559 เป็นการลงทุนในอาคารสำนักงาน 33 Gracechurch Street กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร

จากนั้นในปี 2560 ก็เป็นก้าวสำคัญในการทุ่มซื้อ “เวียนนา เฮ้าส์” เชนโรงแรมยักษ์ใหญ่สัญชาติออสเตรียมูลค่าถึง 12,000 ล้านบาท ทำให้ในตอนนั้นยู ซิตี้ได้ทางลัดในการบุกตลาดยุโรป โดยครอบครองโรงแรม และรีสอร์ตหรู 34 แห่ง ใน 9 ประเทศในยุโรป ได้แก่ เยอรมนี, ฝรั่งเศส, ออสเตรีย, โปแลนด์, สาธารณรัฐเช็ก, สวิตเซอร์แลนด์, สโลวาเกีย, รัสเซีย, โรมาเนีย

ถ้าพูดถึงแบรนด์ “เวียนนา เฮ้าส์” นั้น ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2532 แต่เดิมได้บริหารงานโดย “เวียนนา อินเตอร์เนชั่นแนล โฮเต็ล แมนเนจเมนต์” ธุรกิจในเครือมีทั้งรูปแบบของการบริหารโรงแรมเอง, ให้ผู้อื่นเช่าซื้อ และรับบริหารโรงแรม ซึ่งจุดเด่นของเวียนนา เฮ้าส์คือเป็นโรงแรมที่มีเอกลักษณ์ โดดเด่นไม่เหมือนใคร ตั้งอยู่ในทำเลแหล่งท่องเทีย่วสำคัญในยุโรป อีกทั้งยังจับกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับบนอีกด้วย

“นิยามของเวียนนาเฮ้าส์หมายถึงการเดินทางเพื่อค้นหาประสบการณ์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ด้วยจิตวิญญาณของชาวยุโรปและการบริการที่ทันสมัย” เวียนนา เฮ้าส์มี 3 แบรนด์ในเครือด้วยกัน แต่ละแบรนด์จะมีคาแรคเตอรืที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับโลเคชั่น และกลุ่มเป้าหมาย เรียกว่าสามารถจับกลุ่มลูกค้าได้ทุกระดับ ทุกไลฟ์สไตล์

1. “เวียนนา เฮ้าส์” เป็นพี่ใหญ่สุด จัดอยู่ในกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมี่ยม เน้นเรื่องดีไซน์ที่มีความละเอียดอ่อน และทันสมัย รวมถึงมีบริการสุดประทับใจ

2. “เวียนนา เฮ้าส์อีซี่” จะให้ความรู้สึกถึงความสมาร์ทกึ่งลำลอง ผสานกับดีไซน์เท่ๆ แบบสบายๆ ผสานกลิ่นอายของวัฒนธรรมท้องถิ่น

3. “เวียนนา ทาวน์เฮ้าส์” จะเป็นรูปแบบของ Bed&Breakfast ที่เน้นความชิค และความเป็นบูทีค เพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่เป็นตัวของตัวเอง

เสริมพอร์ตครั้งใหญ่ ซื้อกิจการโรงแรมในเยอรมนีอีก 19 แห่ง

ในปีนี้ยู ซิตี้ได้เปิดเกมรุกในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในยุโรปอีกครั้ง โดยใช้งบลงทุนกว่า 890 ล้านบาทในการเข้าซื้อกิจการโรงแรมสองแบรนด์ซิตี้โฮเทลในเยอรมันนี และสวิสเซอร์แลนด์รวมทั้งหมด 19 แห่ง เป็นการขยายพอร์ตให้กับ “เวียนนา เฮ้าส์” พร้อมกับรีแบรนด์โรงแรมทั้งหมดให้อยู่ภายใต้ 3 แบรนด์ของเวียนนา เฮ้าส์

การเข้าซื้อกิจการโรงแรมในครั้งนี้ เรียกว่าเป็นกลยุทธ์เพื่อเจาะตลาดนักเดินทางธุรกิจ และนักท่องเที่ยว ถือเป็นตลาดกลุ่มใหญ่ที่สุดของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภูมิภาคยุโรป ซึ่งจุดเด่นของโรงแรมอยู่ที่โลเคชั่นอยู่ใจกลางเมือง และการออกแบบที่ไม่ซ้ำใคร เรียกว่าสามารถดึงดูดผู้เข้าพักได้อย่างแน่นอน

ปิยพร พรรณเชษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ยู ซิตี้ได้ใช้เงินลงทุนกว่า 890 ล้านบาท โดยเป็นการซื้อกิจการโรงแรมรวมทั้งสิ้น 19 แห่ง ผ่านทาง บริษัท เวียนนา เฮ้าส์ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของยู ซิตี้ในประเทศเยอรมนี โดยมี 17 แห่งเป็นโรงแรมที่เปิดดำเนินการอยู่ใจกลางเมือง และอีก 2 แห่งเป็นโครงการที่อยู่ในขั้นตอนการก่อสร้าง

ซึ่งโรงแรมทั้ง 17 แห่งนั้นประกอบไปด้วยโรงแรมแบบบูทีคโฮเต็ลรวมทั้งสิ้น 12 แห่งที่เดิมเป็นแบรนด์อาร์โคน่า และอีก 5 แห่งเป็นโรงแรมที่ปัจจุบันยังดำเนินการอยู่ภายใต้แบรนด์ “สไตเกนเบอร์เกอร์” (Steigenberger) โดยตั้งอยู่ในใจกลางเมืองที่ได้รับการรับรองจากยูเนสโก้ และโรงแรมทั้งหมดนี้จะถูกดำเนินการในลักษณะเช่าบริหารภายใต้แบรนด์ของเวียนนา เฮ้าส์”

หลังจากเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ ทำให้ยู ซิตี้เป็นเจ้าของโรมแรมภายใต้เวียนนา เฮ้าส์จำนวน 57 แห่ง มีห้องพักรวม 9,210 ห้อง และมีโรงแรมในเครือรวมทั้งสิ้น 117 โรงแรม หรือ มากกว่า 30,000 ห้อง ซึ่งในจำนวนนี้มีจำนวนโรงแรมที่เปิดดำเนินการทั้งหมด 78 โรงแรม หรือ 11,720 ห้อง

โรงแรมในยุโรปจะรีแบรนด์ภายใต้ 3 แบรนด์

ทั้งนี้เวียนนา เฮ้าส์ได้มีโรงแรมในเครือมากมายอยู่ในหลายเมืองในยุโรป ได้แก่ ออสเตรีย เยอรมันนี และสวิตเซอร์แลนด์ ไม่ว่าจะเป็น สตุทการ์ท, เว็ตสลาร์, ออสนาบรุค, มิวนิค, เบรเมน, ชาฟเฮาเซ่น, ไลป์ซิก, บาเดน-บาเดน, พ็อตส์ดัม, เบอร์ลิน, สตราลซุนด์, โรสต็อค, บราวน์ชวิค, วิสมาร์ และไอเซอนัค

ซึ่งในปี 2563 เวียนนา เฮ้าส์จะทำการรีแบรนด์โรงแรมเหล่านี้ใหม่ ให้อยู่ภายใต้ 3 แบรนด์ของเวียนนา เฮ้าส์ ได้แก่ “เวียนนา เฮ้าส์” “เวียนนา เฮ้าส์ อีซี่” และ “เวียนนา ทาวน์เฮ้าส์”

สำหรับแผนธุรกิจในอนาคตของเวียนนา เฮ้าส์ ยังคงสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องที่ 7-9% ในแต่ละปี และยังคงเดินหน้าลงทุนซื้อโรงแรมใหม่ๆ เข้ามาเติมพอร์ตให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น เฉลี่ยปีละ 5 โรงแรม และแน่นอนว่ามีแผนที่จะไปปักหมุดใน “เอเชีย” อย่างแน่นอน