วิกฤตไฟป่าออสเตรเลีย คร่าชีวิตสัตว์แล้วกว่า 480 ล้านตัว

อุณหภูมิที่สูงและความแห้งแล้งที่เลวร้ายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้เกิด ไฟป่า ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย โดยไฟป่าดังกล่าวทำลายบ้านเรือนกว่า 1,000 หลัง กินพื้นที่กว่าเก้าล้านเอเคอร์และมีผู้เสียชีวิต 18 คน และคร่าชีวิตสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม นกและสัตว์เลื้อยคลานอีกประมาณ 480 ล้านชีวิต

ตามรายงานของนักนิเวศวิทยาจากมหาวิทยาลัยซิดนีย์ซึ่งระบุว่า จำนวนที่แท้จริงมีแนวโน้มสูงกว่ามาก ขณะที่ประเทศกำลังเผชิญกับฤดูฤดูร้อน ส่งผลให้อากาศร้อนทะลุ 40 องศาเซลเซียส และกระแสลมแรงไร้ทิศทางจะทำให้ไฟโหมหนักขึ้นและลุกลามมากยิ่งขึ้น ดังนั้นคาดว่าจำนวนสัตว์ที่เสียชีวิตจะยิ่งเพิ่มสูงขึ้น

“สัตว์ที่ได้รับผลกระทบจำนวนมากมีแนวโน้มที่จะถูกไฟไหม้ตายโดยตรง และมีโอกาสเสียชีวิตเพราะสูญเสียแหล่งอาหารและที่อยู่อาศัย อีกทั้งยังเกิดจากการสังหารจากสัตว์ที่ดุร้าย” มหาวิทยาลัยนิเวศวิทยาของซิดนีย์กล่าวในแถลงการณ์ในวันศุกร์ที่ผ่านมา

ไฟป่าที่เกิดขึ้น อาจส่งผลให้มีสัตว์บางชนิดเสี่ยงสูญพันธุ์ ขณะที่ออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีอัตราการสูญพันธุ์สูงที่สุดในโลกอยู่แล้ว โดยในช่วง 200 ปีที่ผ่านมามีสัตว์ราว 34 ชนิดรวมทั้งสายพันธุ์ย่อยของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมพื้นเมืองในออสเตรเลียที่สูญพันธุ์

PORT MACQUARIE, AUSTRALIA – NOVEMBER 19: An injured koala receives treatment after its rescue from a bushfire at the Port Macquarie Koala Hospital on November 19, 2019 in Port Macquarie, Australia. (Photo by Tao Shelan/China News Service/VCG via Getty Images)

ในส่วนของประชากร หมีโคอาลา ของออสเตรเลียซึ่งลดลงอยู่แล้ว คาดว่าจากเหตุการณ์ไฟป่าอาจส่งผลให้หมีโคอาลากว่า 30% อาจตายไปแล้ว โดยนักนิเวศวิทยาประเมินว่าโคอาลาประมาณ 8,000 ตัวเสียชีวิตตั้งแต่เกิดเพลิงไหม้ เนื่องจากหมีโคอาลาเคลื่อนไหวช้าไม่สามารถหนีไฟได้

“โคอาล่ามากถึง 30% ของพื้นที่อาจถูกฆ่าตาย เนื่องจากพื้นที่อยู่อาศัยของพวกเขาถูกทำลายไปแล้วมากถึง 30%” Sussan Ley รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมของออสเตรเลีย กล่าว

ศาสตราจารย์ Dieter Hochuli แห่งมหาวิทยาลัยซิดนีย์ กล่าวว่า แม้ไฟป่าเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศของออสเตรเลีย แต่ความถี่และความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นมีผลกระทบอย่างมากต่ออนาคตของพืชและสัตว์

Source