การบินไทยประกาศปรับลดเงินเดือนผู้บริการระดับสูงราว 15-25% จำนวนกว่า 40 คน ระยะเวลา 6 เดือน สู้วิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19
สุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดไวรัส COVID-19 ในหลายประเทศ ทำให้ส่งผลกระทบความมั่นใจในการเดินทาง และทำให้ผู้โดยสารลดลงในช่วงนี้ ซึ่งการบินไทยได้มีการปรับลดเที่ยวบินไปหลายเส้นทางโดยเฉพาะประเทศจีน บางเส้นทางปรับลดมากกว่า 50% ญี่ปุ่นลดไปกว่า 10% ทำให้บริษัทได้ปรับลดค่าใช้จ่ายตามไปด้วย
เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ฝ่ายบริหารจึงได้ร่วมกันกำหนดแผนการรับมือกับภาวะวิกฤตดังกล่าว โดยได้วิเคราะห์ผลกระทบในทุกสถานการณ์อย่างรอบคอบ ตั้งแต่ผลกระทบระดับน้อยจนถึงมากที่สุด โดยเริ่มจากการปรับลดค่าใช้จ่ายหลักๆ ที่เกิดจากการปฏิบัติการบิน นอกจากนี้ยังปรับลดและชะลอการลงทุนที่ไม่จำเป็น การปรับลดแรงงานให้สอดคล้องกับปริมาณงาน เป็นต้น ซึ่งมาตรการเหล่านี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินการไปแล้ว
เพื่อเป็นการแสดงความเสียสละของผู้บริหารระดับกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และผู้อำนวยการใหญ่ ได้สมัครใจปรับลดเงินเดือนลง 15-25% และปรับลดค่าพาหนะลง 20-30% เป็นระยะเวลา 6 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมนี้ เป็นต้นไป
ระดับผู้บริหาร ตั้งแต่กรรมการผู้อำนวยใหญ่, รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และผู้อำนวยการใหญ่ ซึ่งมีประมาณ 40 คน โดยการปรับลดดังกล่าวจะไม่เกี่ยวกับพนักงานแต่อย่างใด
และในช่วงนี้การบินไทยและไทยสมายล์ได้ให้ผู้โดยสาร สามารถเลื่อนตั๋วเดินทางได้ 6 เดือน โดยไม่มีค่าธรรมเนียม ซึ่งการบินไทยเป็นสายการบินแห่งชาติ การยกเลิกบินจะกระทบต่อผู้โดยสาร ซึ่งแม้จะมีการแพร่ระบาดของไวรัส แต่ยังมีผู้โดยสารที่มีความจำเป็นในการเดินทางอยู่ ดังนั้นก่อนที่จะมีการยกเลิกเที่ยวบิน จึงต้องประเมินอย่างรอบคอบ โดยพิจารณา ตั้งแต่การปรับลดขนาดเครื่องบิน, ยุบรวมเที่ยวบิน, บินบางวัน จนกระทั่งไม่มีผู้โดยสาร จึงมีการยกเลิก
ขณะนี้เส้นทางที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ จีน ส่วนภาพรวมเส้นทางในเอเชีย มีการปรับลดเที่ยวบินลงประมาณ 10% และประเมินแต่ละเที่ยวบิน หาก Cabin Factor เหลือต่ำกว่า 50% จะพิจารณาลดเที่ยวบิน ซึ่งในช่วงเดือน ม.ค.จำนวนผู้โดยสารยัง ไม่กระทบมากเท่าไร แต่เดือน ก.พ. มีผลกระทบค่อนข้างมากแล้ว
ด้าน วิวัฒน์ ปิยะวิโรจน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการพาณิชย์การบินไทย กล่าวว่า จากผลกระทบการแพร่ระบาดไวรัส COVID-19 ส่งผลต่ออัตราบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin. Factor) ในเดือน ก.พ. ต่ำกว่าคาดที่ 70% ขณะที่เดือน ม.ค. มีมากกว่า 80% หลังจากที่การระบาดขยายไปนอกประเทศจีน เช่น เกาหลี ญี่ปุ่น อิตาลี โดยในเดือน มี.ค.คาด Cabin Factor มีประมาณ 70%
โดยบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากเส้นทาง จีน และเอเชียเหนือ ประมาณ 30% ยุโรป 30% ออสเตรเลีย 10% ที่เหลือเป็นรายได้จากเอเชียใต้ อินเดีย และในประเทศไทย
สำหรับในช่วงสงกรานต์ ขณะนี้ยอดจองตั๋วยังไม่มีการยกเลิกมาก ส่วนใหญ่ผู้โดยสารยังคงรอดูสถานการณ์ไวรัส สำหรับเส้นทางยุโรป ออสเตรเลีย ยังมีความแข็งแกร่งและยังไม่มีการยกเลิก