“เอสซี แอสเสท” เปิดแผนปี’63 ลุยธุรกิจโรงแรม 5 แห่ง 1,000 ห้อง เร่งเจาะตลาดบ้านต่ำ 10 ล้าน

  • กลยุทธ์ “เอสซี แอสเสท” ปี 2563 พอร์ตที่อยู่อาศัยเน้นโครงการแนวราบมากยิ่งขึ้น บุกหนักกลุ่มบ้านต่ำกว่า 10 ล้าน หวังชิงมาร์เก็ตแชร์
  • ด้านพอร์ตอสังหาฯ เพื่อเช่า ต้องการคงสัดส่วนรายได้ 20% จากรายได้รวม ทำให้เอสซีฯ เลือกเปิดธุรกิจใหม่ โรงแรมระดับ 3-4 ดาว วางเป้าเปิด 5 ทำเล รวม 1,000 ห้อง
  • เป้าหมายยอดขายปีนี้หวังโตสูง 25% ขณะที่เป้ารายได้วางเสมอตัวไม่เติบโต จากปัจจัยเศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวย

เป็นอีกปีที่ท้าทายสำหรับอสังหาริมทรัพย์ “ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ฉายภาพรวมอสังหาฯ ปีที่ผ่านมาว่า ทั้งโครงการเปิดใหม่และยอดขายในตลาดต่างลดลง โดยยอดขายอสังหาฯ ทั้งตลาดมูลค่ากว่า 4.4 แสนล้านบาท ลดลงไปถึง 23% และเชื่อว่าปีนี้น่าจะยังลดลงอีก 10-20% เนื่องจากตลาดยังอยู่ในภาวะปรับตัวระบายสต็อก และเศรษฐกิจไม่อำนวย จีดีพีประเทศอาจเติบโตน้อยกว่า 2%

ดังนั้น ปี 2563 นี้ เอสซีฯ จะดำเนินแผนธุรกิจแบบยืดหยุ่น พร้อมปรับตัว และทบทวนแผนตามสถานการณ์รายไตรมาส โดยแยกออกเป็น 3 ส่วนธุรกิจ คือ

1.พอร์ตที่อยู่อาศัยเพื่อขาย

The Crest Park Residences ทำเลห้าแยกลาดพร้าว มูลค่าโครงการ 3,500 ล้านบาท

ปัจจุบันพอร์ตนี้คิดเป็น 80% ของรายได้รวม ปีนี้เอสซีฯ เตรียมเปิดตัว 13 โครงการ มูลค่ารวม 16,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 12 โครงการ มูลค่ารวม 12,500 ล้านบาท และมีคอนโดมิเนียมใหม่ 1 แห่งเท่านั้น คือ The Crest Park Residences ทำเลห้าแยกลาดพร้าว มูลค่าโครงการ 3,500 ล้านบาท ราคาเฉลี่ย 2-2.5 แสนบาทต่อตร.ม. เริ่มต้น 5.9 ล้านบาท

ปีนี้เอสซีฯ จะบุกโครงการแนวราบมากขึ้น เน้นหนักที่กลุ่มบ้านเดี่ยวหรูราคา 20-50 ล้านบาท และกลุ่มบ้านเดี่ยว-บ้านแฝด-ทาวน์โฮม กลุ่มราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท โดยเฉพาะแนวราบราคาต่ำกว่า 10 ล้านเป็นกลุ่มที่เอสซีฯ พยายามตีตลาดมานาน 4 ปี จนปัจจุบันมีมาร์เก็ตแชร์อันดับ 4 ของกลุ่มนี้ ปีนี้จะเพิ่มสัดส่วนในพอร์ตขึ้นเป็น 50% จากปีก่อนอยู่ที่ 40%

ส่วนคอนโดมิเนียมเลือกเปิดเพียงโครงการเดียว แม้ว่าจะมีที่ดินในมือ 4-5 แปลง โดยเลื่อน 2 โครงการทำเลทองหล่อและสุขุมวิท 39 ของ บริษัท สโคป จำกัด (บริษัทลูก) ออกไปก่อน

2.พอร์ตอสังหาฯ เพื่อเช่า

อีก 20% ที่เหลือของรายได้เอสซีฯ อยู่ในกลุ่มนี้ ปัจจุบันรายได้ค่าเช่ามาจากออฟฟิศบิลดิ้ง แต่เมื่อต้องการให้สัดส่วนรายได้เช่ายังคงระดับนี้ต่อไปเมื่อบริษัทเติบโต ทำให้เอสซีฯ ต้องหาช่องทางลงทุนใหม่ๆ

การลงทุนอสังหาฯ เช่าของเอสซีฯ ได้แก่ ธุรกิจโรงแรม ในนาม บริษัท เอสซี เอ็กซ์เพดิชั่น จำกัด และ ธุรกิจอพาร์ตเมนต์ในสหรัฐอเมริกา ผ่านบริษัทลูก SC Alpha Inc.

ณัฐพงศ์กล่าวว่า ธุรกิจโรงแรมของเอสซีฯ วางเป้าลงทุน 5 แห่ง ห้องพักรวม 1,000 ห้อง ภายในปี 2566 จะเป็นโรงแรมระดับ 3-4 ดาว ระดับราคา 1,500-2,000 บาทต่อคืน และสร้างแบรนด์ของตนเองขึ้นมาบริหาร (ขณะนี้ยังไม่คอนเฟิร์มชื่อแบรนด์) คอนเซ็ปต์ของโรงแรมเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยว F.I.T. ดีไซน์โรงแรมที่เข้ากับท้องถิ่นและมีฟังก์ชันที่เหมาะกับย่านนั้นๆ

โดยเปิดตัว “เยี่ยม เศรษฐบุตร” มานั่งตำแหน่งกรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจโรงแรม เป็นผู้บริหารที่ดึงตัวมาจาก บมจ.แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้

โรงแรมเอสซีฯ แห่งแรกที่จะเกิดขึ้นอยู่ในทำเลราชวัตร รีโนเวตออฟฟิศเก่าเป็นโรงแรมขนาด 79 ห้อง มีฟังก์ชันที่เหมาะกับท้องถิ่น เช่น ครัวกลาง ให้แขกสามารถซื้อวัตถุดิบในตลาดสดใกล้เคียงมาทำอาหารได้ เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการปลายปีนี้

ส่วนแห่งต่อๆ มา เอสซีฯ มีที่ดินหรือมีดีลไว้แล้วเรียบร้อย ในทำเลรัชดาภิเษก สุขุมวิท วิภาวดี และเมืองพัทยา โดยจะมีขนาด 130-400 ห้อง เปิดที่รัชดาภิเษกก่อนช่วงปลายปี 2564 และแห่งอื่นๆ จะครบสมบูรณ์ในปี 2566 คาดว่าในปีดังกล่าว โรงแรมจะทำรายได้ให้เอสซีฯ ราว 800 ล้านบาท

อพาร์ตเมนต์ 2 แห่งที่เอสซีฯ จะเข้าซื้อปีนี้ แห่งแรกจะปิดดีลภายในไตรมาส 1/63

ส่วนการลงทุนในอพาร์ตเมนต์ที่สหรัฐฯ วางเป้าลงทุนไว้ปีละ 30 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากมองเห็นโอกาสที่อพาร์ตเมนต์ในสหรัฐฯ มีอัตราการเช่าสูงถึง 95% ยิ่งในเมืองบอสตันซึ่งเอสซีฯ พุ่งเป้าลงทุน มีอัตราการเช่าถึง 97% และราคาเติบโตเฉลี่ย 5.9% ต่อปี

ภาพการลงทุนอพาร์ตเมนต์มองว่าจะเป็นการลงทุน รีโนเวต เปิดให้เช่าประมาณ 5 ปี และขายทำกำไรก่อนหาทรัพย์สินเพื่อลงทุนใหม่ต่อไป

3.ธุรกิจใหม่ “Living Solutions”

พอร์ตกลุ่มนี้ถือเป็น “plus” ในรายได้บริษัท เพราะเป็นความหวังอนาคต ขณะนี้ยังไม่สร้างรายได้แบบมีนัยสำคัญ แนวคิดคือการเป็นตัวกลางจัดหาบริการที่เกี่ยวกับบ้านและการใช้ชีวิตให้ลูกบ้าน เอสซี แอสเสท เช่น ล้างแอร์ แม่บ้าน ทำสวน ตัดผม อาบน้ำสัตว์เลี้ยง ล้างรถ ส่งแก๊ส ส่งน้ำดื่ม ไปจนถึงรีไฟแนนซ์สินเชื่อบ้าน

บริการเหล่านี้ลูกบ้านสามารถสมัครใช้ได้ผ่านแอปพลิเคชัน “รู้ใจคลับ” มีทั้งคิดราคาครั้งเดียวและแพ็กเกจสมาชิกรายเดือน และเอสซีฯ ผู้บริหารแพลตฟอร์ม จะจัดหาซัพพลายเออร์ที่เชื่อถือได้มาบริการให้ในราคาตลาด

“รู้ใจคลับจะทำงาน 2 เรื่องคือ ช่วยเรื่องบ้าน และ จัดการเรื่องชีวิต เป็นธุรกิจเพื่อหา New S-curve ของเรา” ณัฐพงศ์กล่าว “ปัจจุบันเรามีลูกบ้านเกือบ 6 หมื่นรายที่จะเป็นฐานลูกค้าบริการนี้”

สรุปตัวเลขเป้าหมายของเอสซีฯ ปีนี้ พอร์ตที่อยู่อาศัยตั้งเป้าพรีเซล 18,000 ล้านบาท ซึ่งสูงขึ้นจากปีก่อนถึง 25% อย่างไรก็ตาม เป้าหมายรายได้ตั้งเป้า 17,800 ล้านบาท เท่ากับปีก่อนหน้า โดยมีแบ็กล็อกที่จะโอนในปีนี้อยู่แล้วประมาณ 4,000-5,000 ล้าน ที่เหลือจะเป็นการเร่งขายและโอนจากสต็อกที่มีอยู่ 15,000 ล้านบาท รวมถึงโครงการใหม่ที่จะเปิดตัว และรายได้อสังหาฯ เพื่อเช่า