จากประธานอาวุโสเครือซีพี นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประกาศว่าจะใช้เวลา 5 สัปดาห์สร้างโรงงานด้วยเงินทุน 100 ล้านบาท เพื่อผลิตหน้ากากอนามัย “แจกฟรี” แก่ประชาชนชาวไทย และเมื่อจบช่วงเวลาวิกฤต Covid-19 จะยกให้ รพ.จุฬาฯ ดังนั้น เหล่ามดงานก็เริ่มภารกิจเพื่อชาติทันที ตลอดทั้งเช้าค่ำจนเข้าสู่ช่วงสัปดาห์ที่สอง เรียกได้ว่าเห็นความคืบหน้าไปมากสำหรับการก่อสร้างโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยฟรี CP Mask เพื่อคนไทย
ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา งานก่อสร้างโรงงานหน้ากากอนามัยคืบหน้าไปอย่างรวดเร็ว เพราะการวางแผนทางวิศวกรรมอย่างมีระบบ งานหลายๆ อย่างเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง จากพื้นที่โล่งๆ ตอนนี้เริ่มได้เห็นหน้าตาของ Corridor ที่งานโครงสร้างและงานปูพื้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับติดตั้งผนังกั้นห้องและฝ้าเพดานเพื่อจัดทำห้อง Clean Room และยังมีงานอื่นๆ เช่น งานโครงสร้างภายในของลิฟต์โดยสาร งานรื้อถอนเดิมยังคงมีอยู่เพื่อติดตั้งหน้าต่างรูปแบบใหม่ งานติดตั้งระบบรางไฟฟ้า พร้อมงานผลิต Pipe bridge สำหรับเดินสายไฟข้ามถนน เป็นต้น
งานนี้ต้องขอชื่นชมทีมงานทุกคนที่มากันด้วยใจ ในระหว่างที่ส่วนของโรงงานเดินหน้าไปอย่างรวดเร็วนั้น ส่วนของฝ่ายไอทีก็ต้องทำงานคู่ขนาน ภายใต้โจทย์ที่ว่า ทุกขั้นตอนต้องโปร่งใส โดยมีการออกแบบระบบตรวจนับหน้ากากหลังจากผ่านเครื่องตรวจสอบคุณภาพเพื่อให้รู้จำนวนที่ผลิตได้แบบเรียลไทม์ และการจัดเก็บสต๊อกว่าผลิตแล้วเสร็จกี่อัน คงเหลือในสต๊อกกี่อัน เพื่อรองรับการออกแบบระบบแจกจ่ายที่จะต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้
คาดว่าจะใช้เวลาเขียนซอฟต์แวร์ประมาณ 3 สัปดาห์ ซึ่งจะเสร็จทันส่วนของเครื่องจักรพอดี ถือเป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่ต้องมีการผนึกกำลังจากกลุ่มทรู แอสเซนต์กรุ๊ป ในการนำผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีมาสุมหัวผนึกกำลังกัน ในขณะที่กลุ่มทรูประกาศ Work at home ทำงานที่บ้านกันกว่า 80% แล้ว ทำให้การเขียนซอฟต์แวร์ครั้งนี้ทำงานและประชุมกันผ่านระบบ VDO Conference กลายเป็นความท้าทายอีกอย่างหนึ่ง ว่าจะเขียนโปรแกรมกันได้ทันเวลาหรือไม่
อีกส่วนหนึ่งที่ดูเหมือนเล็กๆ แต่สำคัญมาก นั่นคือ ลวดที่ใช้หนีบจมูกไม่ให้เกิดช่องเวลาสวมหน้ากากอนามัยให้คลุมทั้งจมูกและปาก ขอบที่มีลวดอยู่ด้านบนสันจมูกและรอยจีบพับคว่ำลงใช้แล้วทิ้ง หากใครสั่งซื้อหน้ากากอนามัยต้องดูส่วนนี้ให้ดี หากเลือกวัสดุมาทำส่วนหนีบจมูกไม่ดีเวลาใส่จะไม่แนบสนิท ซึ่งซีพีได้ศึกษาเรื่องวัสดุทางเลือกหลายชนิดเพื่อให้กดแนบจมูกได้สนิท ไม่มีอากาศเล็ดลอด ซึ่งได้ทดสอบ และสั่งซื้อลวดที่ใช้ในส่วนหนีบจมูกไว้แล้ว
ทั้งนี้ รศ.ศิริเดช บุญแสง คณบดีคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า ซีพีเลือกใช้ลวดที่มีตัวล็อกหัวท้ายเพื่อป้องกันไม่ให้แกนเหล็กเลื่อนไปมา ป้องกันอันตรายจากผู้ใช้งาน โดยระบบจะตรวจสอบอัตโนมัติว่าลวดอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องหรือไม่ จะเห็นได้ว่าแม้เรื่องเล็กๆ ก็สำคัญ
ล่าสุดซีพีได้เข้าไปขอความรู้ และวางแผนร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง (สจล.) ในการใช้ AI ตรวจสอบคุณภาพการผลิตหน้ากากอนามัย เรียกว่ารีบเร่งทำงานกันเต็มที่ อัพเดตกันทุกระยะ เพื่อให้แน่ใจว่าโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยแจกฟรีเพื่อประชาชนจะเสร็จสมบูรณ์ สะอาด มีคุณภาพ พร้อมเปิดทำการได้ตามกำหนด จึงต้องเอาใจช่วยซีพีกันเต็มที่เพื่อคนไทยทุกคน