Tinder แอปพลิเคชันหาคู่ชื่อดัง เตรียมปลดล็อกให้สมาชิก ‘ทุกราย’ สามารถใช้ฟังก์ชัน Passport ได้ฟรี! ตั้งแต่สัปดาห์หน้าจนถึง 30 เมษายน 2563 ให้กำลังใจผู้ใช้ผ่านพ้นการกักตัวรับมือไวรัส COVID-19 โดยฟังก์ชันนี้จะทำให้ผู้ใช้สามารถ “ปัดหน้าจอ” และจับคู่กับผู้ใช้รายอื่นได้ทั่วโลก
การตัดสินใจของ Tinder เกิดจากทีมงานมองว่าผู้ใช้น่าจะต้องการเชื่อมสัมพันธ์กับมนุษย์คนอื่นมากขึ้นเมื่อต้องกักตัวอยู่แต่ในบ้าน และเหตุการณ์นี้ยังเกิดขึ้นหลายแห่งทั่วโลก ทำให้หลายคนน่าจะได้ใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อเรียนรู้ รับฟัง และแบ่งปันประสบการณ์เดียวกันได้
ฟังก์ชัน Passport จะทำให้ผู้ใช้สามารถค้นหาคู่ในเมืองต่างๆ ได้ทั่วโลก เพียงแค่ปักหมุดบนแผนที่ ระบบจะดึงผู้ใช้ในพื้นที่นั้นขึ้นมาให้เลือกปัดซ้ายปัดขวา จากปกติ Tinder จะสุ่มเลือกผู้ใช้ที่อยู่ในรัศมีรอบตัวเราหรือเป็นเพื่อนของเพื่อนเราในสื่อโซเชียลอื่นๆ เช่น Facebook
เมื่อเลือกปักหมุดในเมืองใดเมืองหนึ่งแล้ว จะเหมือนว่าเครื่องของคุณไปอยู่ที่แห่งนั้นแทนและจะปัดหน้าจอเจอเฉพาะคนในเมืองดังกล่าว แต่ผู้ใช้สามารถย้ายหมุดไปโลเคชันใหม่ได้ไม่จำกัด โดยโปรไฟล์ของคุณจะยังทิ้งอยู่ในเมืองเดิมไปอีก 24 ชั่วโมง ฟังก์ชัน Passport นี้ปกติจะมีในแพ็กเกจ Tinder Gold ราคา 279 บาทต่อเดือน หรือ Tinder Plus ราคา 169 บาทต่อเดือน
“เราหวังว่าคุณจะใช้ฟังก์ชัน Passport เพื่อทำให้คุณเสมือนได้เดินทางพ้นจากการกักตัวไปอยู่ที่ไหนก็ได้ในโลก” เป็นคำประกาศแนวคิดจากแถลงการณ์ของบริษัท
นอกจากนี้ Match Group บริษัทเจ้าของ Tinder ยังเปิดฟังก์ชันใหม่ในแอปฯ หาคู่อีกตัวหนึ่งของบริษัทคือ Plenty of Fish เป็นฟังก์ชัน Live ให้ผู้ใช้สามารถสตรีมสดในแพลตฟอร์ม ทำให้ผู้ใช้รายอื่นเข้ามาพูดคุยมีปฏิสัมพันธ์ได้ (จะค้นหาพบเมื่ออยู่ในรัศมีใกล้กัน) โดยแอปฯ หวังว่าจะทำให้คนอยากมีคู่ได้เจอกันและก้าวไปสู่การคุยกันส่วนตัว
ในหลายประเทศ ผู้คนอยู่ระหว่างกักตัวเองในบ้านหรือกำลังเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ความเหงาและโดดเดี่ยวนั้นเกิดขึ้นได้ ดังนั้นหากได้คุยกับใครสักคนแม้จะเป็นโลกออนไลน์ ก็อาจจะช่วยให้เราข้ามผ่านสถานการณ์โรคระบาดนี้ได้ง่ายขึ้น