‘แกร็บ’ แก้ปมดราม่าด้วย ‘แกร็บแคร์’ ปรับลด GP เหลือ ‘30%’ พร้อมเร่งเวลาเปิดร้านบนแกร็บเหลือ ‘10 วัน’

จากสถิติการใช้งานอินเตอร์เน็ตของคนไทยในปี 2019 การสั่งอาหารออนไลน์ ก็ถือเป็นหมวดหมู่ที่เติบโตอย่างมากถึง 15.1% และยิ่งมีวิกฤติ COVID-19 ที่ทำให้ศูนย์การค้าถูกปิด ร้านอาหารไม่สามารถนั่งทานที่ร้านได้ ดังนั้น ร้านก็ต้องปรับมาเป็นการจัดส่งเดลิเวอรี่กันหมดเพราะไม่มีทางเลือก และด้วยเหตุผลนี้ ส่งผลให้มีดราม่าตามมา เพราะ แกร็บ ได้ขึ้นค่าธรรมเนียมร้านค้า หรือ GP เป็น 35% จากเดิมอยู่ที่ 30% จนล่าสุด แกร็บได้ออกโครงการ แกร็บแคร์ (GrabCares) #เราจะผ่านมันไปด้วยกัน เพื่อแก้สถานการณ์ที่เปราะบางนี้ โดยโครงการดังกล่าวไม่ได้แค่ครอบคลุมพาร์ทเนอร์ร้านอาหารและผู้ขับ แต่ยังรวมไปถึงหน่วยงานราชการ บุคลากรทางการแพทย์ และผู้ใช้บริการ

อ่าน >>> ดราม่ารับวิกฤต “แกร็บ” เพิ่ม GP ร้านค้า เพิ่มค่าส่ง สั่งน้อยเก็บเพิ่ม แต่คนขับไม่ได้เพิ่ม

ร้านอาหาร

แกร็บได้ปรับ ลดค่าคอมมิชชัน จาก 35% เหลือ 30% เท่าเดิม ทั้งร้านค้าเดิมและร้านค้าใหม่ เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนเป็นต้นไป รวมถึงเร่งขั้นตอนการเปิดร้านบนแกร็บฟู้ดให้ได้ภายใน 7-10 วัน จากเดิมใช้เวลา 14-21 วัน โดยสมัครได้ทางเว็บไซต์ https://www.grabmerchantth.com ปัจจุบันมีผู้ประกอบการร้านอาหารรายสมัครเข้ามาเฉลี่ยราว 2,000 ร้านค้าต่อวัน ซึ่งสูงขึ้นกว่าภาวะปกติถึง 3 เท่า

นอกจากนี้ แกร็บฟู้ดได้เปิดบริการเพิ่ม 8 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ระยอง นครปฐม สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ลำปาง อุตรดิตถ์ และมหาสารคาม พร้อมตั้งเป้าเปิดเพิ่มอีก 9 จังหวัดในสามเดือน อาทิ ราชบุรี เพชรบุรี สุรินทร์ หนองคาย เป็นต้น รวมถึงทำแคมเปญ Support Local Restaurants เพื่อช่วยโปรโมตร้านขนาดเล็กหรือรายย่อย เพื่อให้เป็นที่รู้จัก ซึ่งจะช่วยกระตุ้นและสร้างการเติบโตในด้านยอดขายได้ถึง 6 เท่า เมื่อเทียบกับอัตราการเติบโตปกติ

พาร์ทเนอร์จัดส่งอาหาร-พัสดุ

แกร็บเปิดรับเพิ่มอีกกว่า 64,000 อัตรา พร้อมเปิดให้พาร์ทเนอร์คนขับ แกร็บคาร์-แกร็บแท็กซี่ ให้บริการ ส่งอาหาร ได้ เพื่อลดผลกระทบจากการลดจำนวนของผู้โดยสาร ปัจจุบันมีพาร์ทเนอร์คนขับเข้าร่วมแล้วมากกว่า 10,000 คน และมีการผ่อนปรนการชำระหนี้ อาทิ การพักชำระหนี้ การปรับลดค่างวดเป็นแบบขั้นต่ำ การขยายระยะเวลาสินเชื่อ และการชำระคืนเฉพาะดอกเบี้ย เป็นต้น

นอกจากนี้ยังได้ แจกหน้ากากอนามัยกว่า 50,000 ชิ้น สเปรย์ฆ่าเชื้อ และเจลแอลกอฮอล์ล้างมือกว่า 3,000 ชิ้น ให้กับพาร์ทเนอร์ และให้ส่วนลด 50% ในการเข้ารับบริการพ่นอบฆ่าเชื้อภายในรถยนต์ นอกจากนี้ ได้สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการตรวจเชื้อ 500 บาท และมอบเงินช่วยเหลือในกรณีติดเชื้ออีก 2,000 บาท

หน่วยงานราชการและบุคลากรทางการแพทย์

โดยร่วมมือกับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ในการแชร์ข้อมูลการเดินทางของผู้ป่วยต้องสงสัย พร้อมมอบส่วนลดค่าส่ง ให้กับเจ้าหน้าที่ของกรมควบคุมโรค และบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลรัฐ 7 แห่ง ได้แก่ สถาบันบำราศนราดูร สถาบันราชประชาสมาสัย โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลศิริราช และ โรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์ ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคมจนถึง 30 มิถุนายน

ผู้ใช้บริการ

ประกาศใช้มาตรการ ส่งแบบไร้การสัมผัส (Contactless Delivery) โดยให้พาร์ทเนอร์ผู้จัดส่งอาหารต้องเว้นระยะห่างกับลูกค้าอย่างน้อย 2 เมตร และห่าง 1 เมตรระหว่างรออาหาร พร้อมส่งเสริมให้พาร์ทเนอร์ผู้จัดส่งปฏิบัติตามแนวทาง 8 ข้อในการจัดส่งอาหารอย่างปลอดภัย อีกทั้งยังส่งเสริมให้ชำระค่าบริการผ่านบัตรเครดิตหรือกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-Wallet) แทนการใช้เงินสด โดยในช่วงที่ผ่านมายอดสั่งโดยไม่ใช้เงินสด (Cashless Payment) เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว

นอกจากนี้ได้เปิดบริการ แกร็บมาร์ท (GrabMart) เพื่อสั่งซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น โดยจัดส่งสินค้าจากท็อปส์ แฮปปี้เฟรช เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล แฟมิลี่มาร์ท และเตรียมขยายบริการไปสู่ ท็อปส์ เดลี่ ในเร็ว ๆ นี้

#FoodDelivery #Grab #Grabfood #ฟู้ดเดลิเวอร์รี่ #Covid19 #Positoningmag