After you…ต่อแถวให้อินเทรนด์

ท่ามกลางกระแสนิยมของหวานที่มีผู้ประกอบการหลายรายหันมาเปิดร้านแข่งขันกันเป็นจำนวนไม่น้อย นาทีนี้ต้องได้ยินชื่อร้าน After you มาเป็นอันคับต้นๆ ด้วยความฮิตจากการบอกปากต่อปากถึงความอร่อยทั้งบนโลกออนไลน์และออฟไลน์จนทำให้ใครต่อใครยอมลงทุน “ต่อแถว” เพื่อรอชิมชิบูย่า ฮันนี่ โทสต์ หนึ่งใน 3 เมนูยอดฮิตของที่นี่ และที่สำคัญคือเพื่อไม่ให้ “ตกเทรนด์”

กุลพัชร์ กนกวัฒนาวรรณ หรือ เม เจ้าของร้าน “After you” วางแผนเข้าสู่ธุรกิจนี้ด้วยการเขียนหนังสือสอนทำขนมที่ชื่อ “May Made” เพื่อให้ชื่อเป็นที่รู้จักก่อนเปิดร้านสาขาแรกเมื่อปี 2550 ที่ทองหล่อ ซอย 13 ใกล้กับเจ อเวนิว หลังจากนั้นเพียงหนึ่งปีก็เปิดสาขาสองที่ลา วิลล่า พหลโยธิน และตามด้วยสาขาสามที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์เมื่อเร็วๆ นี้

“เมคิดอยากเปิดร้านตั้งแต่ตอนเรียนม.5 แล้ว” เมบอกว่าเธอรู้ตัวว่าชอบทำขนมตั้งแต่ตอนเรียนมัธยมต้น จากที่ได้ติดตามดูรายการ Caprial Cafe ของอเมริกาทางเคเบิลทีวีของ IBC จนถึงขั้นตั้งเวลาบันทึกเทปไว้เพื่อไม่ให้พลาดตอนสำคัญ และการเป็นนักเรียนในโครงการแลกเปลี่ยนของ AFS ที่ทำให้เธอมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น เมื่อรู้สึกว่าอยากเปิดร้านของตัวเองจึงเดินหน้าและไม่คิดเรื่องการเรียนต่อ แต่สุดท้ายก็ต้องเรียนที่คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคอินเตอร์ ตามคำขอร้องของคุณพ่อ ซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจส่งออกอาหารทะเลแช่แข็ง

เมื่อเรียนจบเมได้รับคำชวนจาก ”แม่ทัพ ต.สุวรรณ” หรือ พี่หนิง ญาติสนิทและเป็นผู้อำนวยการบริหาร บริษัท พรีมา พับบลิชชิง จำกัด ให้มาเขียนหนังสือสอนทำขนม “May Made”

เพราะจุดเด่นของเมที่ไม่เคยเรียนทำขนมมาก่อน แต่เพราะ “ความชอบ” จึงทำให้การทำขนมดูเป็นเรื่องง่ายและสนุก จนออกมาเป็นหนังสือสอนทำขนม 3 เล่ม และหลังจากเปิดร้าน After you สาขาแรกได้สักระยะ May Made เล่ม 4 ก็วางแผง ซึ่งเธอยอมรับว่าการเขียนหนังสือก่อนเปิดร้านเป็นแผนที่เธอวางไว้ตั้งแต่แรก โดยส่วนหนึ่งของแฟนหนังสือก็มาเป็นแฟนของร้านด้วยเช่นกัน

“ก่อนหน้านี้เมเคยลงทุนทำร้านอาหารทะเลกับญาติๆ แต่ไม่สำเร็จก็เลยเป็นบทเรียนทำให้รู้ว่าเราต้องทำยังไงต่อ” เมื่อมาถึง After you เธอจึงต้องวางแผนอย่างดี ตั้งแต่การจัดซื้อวัตถุดิบที่ต้องยึดหลักความจำเป็นและการบริหารที่รอบคอบ เพื่อไม่ให้เจอเหตุการณ์แบบเดิมอีก โดยมี “พี่หนิง” ช่วยดูแลเรื่องการบริหารจัดการ ขณะที่เธอทำหน้าที่คิดเมนู ดูแลการตลาดและลูกค้า โดยวาง Positioning ของร้านให้เป็น Desert Cafe เป็นกันเอง เหมือนทานขนมที่บ้านกับครอบครัว ทำให้ลูกค้ารู้สึกเข้าถึงง่าย ด้วยการตกแต่งร้านสีเอิร์ธโทนดูผ่อนคลายและสบายตาไม่หวือหวา

สำหรับที่มาของชื่อร้านนั้นเมบอกว่าเป็นเพราะตั้งใกล้กับร้าน You ของพี่หนิงและด้วยความหมายที่แปลว่า “เชิญคุณก่อนค่ะ” ซึ่งฟังดูสุภาพและไม่ได้สื่อถึง “ขนม” อย่างชัดเจนแต่ก็ฟังดูหวานในคราวเดียวกัน และที่สำคัญคือเพื่อรองรับอนาคต ที่เมมีแผนทำสินค้าแบบค้าปลีกภายในร้านและส่งออก เธอจึงต้องการใช้แบรนด์ที่ทำตลาดได้กว้างขึ้น

ช่วงแรกที่เปิดร้าน เมไม่ได้ทำตลาดเพื่อโปรโมตร้าน เพราะต้องการให้ทุกอย่างลงตัวก่อน แต่ด้วยทำเลที่เธอตั้งใจเลือกว่าต้องเป็นทองหล่อ และมีลักษณะสแตนอโลน เป็นกระจก ใกล้กับลานจอดรถ จุดของ After You ในบริเวณเจอเวนิว ทองหล่อ 13 จึง To be Seen ทำให้ร้านแจ้งเกิดเร็วภายใน 6 เดือนก็ถึงจุด “พลิก” เพราะการรบอกปากต่อปาก รวมทั้งมีกรุ๊ปของ After you บนเฟซบุ๊ก ที่ช่วยเป็นช่องทางพีอาร์ของร้านได้เป็นอย่างดี

“ทำกรุ๊ปได้เพียง 2 เดือนก็มีลูกค้ามาที่ร้านเยอะมาก” เมบอกถึงศักยภาพของช่องทางนี้ โดยตอนนี้มีสมาชิกเกือบ 3 พันคนแล้ว ซึ่งเมทำหน้าที่ตอบคำถามทุกอย่างเองทั้งหมด เพราะต้องการเข้าถึงลูกค้าและแสดงถึงความเป็นกันเองเช่นเดียวกับคอนเซ็ปต์ของ After you ที่เธอวางไว้ตั้งแต่แรกเริ่ม

ลูกค้าของร้านมีตั้งแต่เด็กมากับผู้ปกครองไปจนถึงคนแก่ที่ลูกหลานจูงมาทานที่ร้าน และที่น่าแปลกใจสำหรับเธอคือมีผู้ชายมาทานเยอะกว่าที่คาดไว้มากเพราะไม่กลัวอ้วน แต่ลูกค้าส่วนใหญ่ก็ยังเป็นผู้หญิงตั้งแต่วัยรุ่นถึงวัยทำงานอยู่ดี ถึงแม้ว่าเมนูหนึ่งราคาไม่ต่ำกว่า 100 บาท แต่เมื่อคิดเป็นอัตราเฉลี่ยต่อหัวแล้วเมบอกว่าอยู่ที่ 100 บาทเท่านั้น เพราะพฤติกรรมการบริโภคต่างจากอาหารที่ทานกันคนละจาน แต่ขนมมักจะสั่งมาแล้วช่วยกันทานหลายคน ซึ่งเมนูสุดฮิตของร้านได้แก่ ชิบูย่า ฮันนี่ โทสต์ ชอคโกแลต ลาวา และฟิกกี้ พุดดิ้ง

ด้วยกระแสของการทานขนมหวานที่มาแรงในตอนนี้ทำให้ After you เป็นที่รู้จักได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเมยอมรับว่า “เกินคาด” กว่าที่ตั้งเป้าไว้มาก จากเดิมที่คิดว่าจะสามารถคืนทุนจากสาขาแรกได้ภายใน 2 ปีก็ลดลงมาเหลือเพียงปีเดียวและยังนำกำไรที่ได้ไปขยายสาขาที่ 2 และ 3 ได้อีกในเวลาไม่นาน ซึ่งภายในปีนี้เธอมีแผนเปิดสาขาที่คริสตัลปาร์คและอาจจะเปิดที่เซ็นทรัลลาดพร้าวหลังจากปรับปรุงใหม่ด้วยเช่นกัน โดยใช้งบลงทุนสาขาละไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม เธอยอมรับว่ากลัวเรื่องการเป็นกระแสเที่มาเร็วไปเร็ว จึงไม่ต้องการโปรโมทร้านมากนัก แต่ใช้วิธีการบอกปากต่อปากเพื่อให้ร้านอยู่ได้ด้วยตัวเองดีกว่า ขณะเดียวกันก็ต้องหาแผนอื่นมารองรับนั่นคือการผลิตสินค้าปลีกประเภทขนมออกมาจำหน่ายในร้านและวางแผนส่งออกไปทำตลาดในต่างประเทศด้วย

แม้วันนี้ After you จะเริ่มต้นจากความชอบและพัฒนาสู่ธุรกิจแล้ว แต่เมก็ไม่เคยรู้สึกเบื่อกับการคิดเมนูใหม่ๆ ซึ่งวันนี้มีไม่ต่ำกว่า 50 เมนูแล้ว “เมว่าการทำขนมคือศิลปะอย่างหนึ่ง” ซึ่งเธอมักได้แรงบันดาลใจจากการไปท่องเที่ยวในต่างประเทศ อย่างอเมริกาที่มีวัฒนธรรมหลากหลาย และญี่ปุ่นที่มีความพิถีพิถันในการทำขนมได้อย่างสวยงามโดยมีฝรั่งเศสเป็นไอดอล ซึ่งเธอก็มีแผนเดินทางไปที่นั่นเพื่อหาแรงบันดาลใจเช่นกัน นอกจากนี้การเข้าบล็อกต่างประเทศเพื่อดูข้อมูลต่างๆ ก็เป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้เธอได้ด้วย ส่วนเรื่องการเขียนหนังสือเธอก็ยังไม่ทิ้ง โดยมีแผนออก May Made เล่ม 5 ที่เมจะพาทัวร์ชิมร้านขนมในญี่ปุ่นได้ในอีกไม่นานนี้

Profile

Name : กุลพัชร์ กนกวัฒนาวรรณ
Age : 28 ปี
Education :
มัธยมปลาย เซนต์โยเซฟ คอนแวนต์
ปริญญาตรี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ภาคภาษาอังกฤษ (BBA) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
Carrier Highlights
Position : เจ้าของร้าน After you Desert Cafe
Role Model :
Caprial Pence เจ้าของรายการ Caprial Cafe
ณัฐธยาน์ ปางพุฒิพงศ์ กรรมการ บริษัท ดาวคอฟฟี่บีนส์ จำกัด
พล ตัณฑเสเถียร เชฟและเจ้าของร้านอาหาร Spring & Summer
พลอย จริยะเวช นักเขียนสไตล์ Informative Entertaining นักแปล และนักออกแบบคอนเซ็ปต์ ที่ยังเป็นคนเขียนคำนิยมให้ May Made ด้วย
Lifestyle/Hobby : เที่ยวต่างประเทศ โดยเฉพาะ ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา ประเทศที่เธอเลือกไปหาประสบการณ์และแรงบันดาลใจในการคิดค้นเมนูใหม่ๆ หาข้อมูลต่างๆ ผ่านอินเทอร์เน็ต ไม่นิยมไปสำรวจร้านขนมอื่นๆ ในประเทศเพราะไม่อยากมีกรอบในการคิด พักผ่อนด้วยการดูหนัง อ่านหนังสือ และสังสรรค์กับเพื่อนๆ