“อีลอน มัสก์” บริจาคเครื่องช่วยหายใจ 1,000 เครื่อง แต่ผิดประเภท ช่วยผู้ป่วยหนัก COVID-19 ไม่ได้

ไฟแนนเชียลไทม์ส/ซีเอ็นบีซีรายงานว่า อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีนักธุรกิจ และ CEO ของค่ายรถเทสลา ถูกกล่าวอ้างว่าจัดซื้อเครื่องช่วยหายใจบริจาคแก่สถานพยาบาลผิดประเภท ด้วยไม่สามารถใช้กับผู้ป่วยไวรัส COVID-19 ขั้นวิกฤตได้ และหนำซ้ำยังอาจเป็นตัวแพร่กระจายเชื้อโรคอีกต่างหาก

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อีลอน มัสก์ ซีอีโอคนดังของบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าเทสลาและกิจการขนส่งอวกาศสเปซเอ็กซ์ ได้รับการยกย่องชื่นชมจากคนทั่วโลก หลังประกาศจะบริจาคเครื่องช่วยหายใจ 1,000 เครื่อง แก่โรงพยาบาลต่างๆ ในนครลอสแองเจลิส และนครนิวยอร์กของสหรัฐฯ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่ผู้ป่วยโรค COVID-19 เพิ่มขึ้นทุกขณะ

ต่อมาในวันที่ 2 เม.ย. มัสก์ แจ้งว่า เขาได้จัดซื้อเครื่อช่วยหายใจที่ผ่านความเห็นชอบจาก องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA) จำนวน 1,000 เครื่อง ในความพยายามช่วยผู้คนต่อสู้กับโรคระบบทางเดินหายใจ ซึ่งกำลังเล่นเล่นผู้คนทั่วโลก โดยเครื่องช่วยหายใจดังกล่าวผลิตโดย ResMed บริษัทสัญชาติสหรัฐฯ

มิค ฟาร์เรล ประธานของ ResMed ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่า เครื่อช่วยหายใจเหล่านั้น ซึ่งส่งมอบมาจากจีน เป็นเครื่องช่วยหายใจประเภท BiPAP ที่ต้องใช้หน้ากากครอบจมูกผู้ป่วยเพื่อป้อนออกซิเจน ซึ่งปกติมักใช้รักษาคนไข้ที่มีอาการหยุดหายใจขณะหลับ หรือมีความผิดปกติด้านการนอน (sleep disorders)

อุปกรณ์ BiPAP หรือเครื่องช่วยหายใจแบบแรงดันบวกสองระดับ (Bilevel Positive Airway Pressure) จัดเป็นเครื่องช่วยหายใจชนิดที่ไม่สอดท่อเข้าไปในร่างกาย ซึ่งมีหลักการทำงานและประสิทธิภาพต่างไปจากเครื่องช่วยหายใจผ่านท่อ (invasive ventilator) ที่วงการสาธารณสุขกำลังขาดแคลนอย่างหนัก

ผู้ป่วย COVID-19 ที่มีอาการรุนแรงจำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจแบบผ่านท่ออันล้ำสมัย ซึ่งหมายถึงแพทย์จำเป็นต้องสอดท่อลงไปตามลำคอของผู้ป่วยผู้ช่วยหายใจ

นอกจากนี้เครื่องช่วยหายใจแบบไม่สอดท่อเข้าไปในร่างกายยังมีอีกประเด็น โดยพวกผู้เชี่ยวชาญบอกว่ามันอาจทำให้อากาศจากลมหายใจของผู้ป่วยหลุดออกไปได้ ซึ่งจะกลายเป็นการแพร่เชื้อไวรัสสู่อากาศทั่วห้องไอซียู ก่อความเสี่ยงต่อการติดเชื้อของแพทย์และคนอื่นๆ

ทางบริษัท ResMed ผู้ผลิตเครื่อง BiPAP บอกว่า แม้อุปกรณ์ชนิดนี้จะไม่สามารถใช้ช่วยชีวิตผู้ป่วยที่มีอาการของโรคทางเดินหายใจรุนแรงได้ แต่ก็อาจนำไปประยุกต์ใช้กับผู้ป่วยโรค COVID-19 ที่มีอาการในระดับเบาหรือปานกลางแทน

“เรามองว่า เป็นเรื่องดีที่เทสลาซื้อเครื่อง BiPAP ซึ่งเราออกแบบและพัฒนาขึ้นเมื่อ 5 ปีก่อนในเอเชีย เราขอปรบมือให้กับทุกบริษัทที่สามารถจัดหาเครื่องช่วยหายใจ และอุปกรณ์สำหรับทางเดินหายใจทุกชนิดให้แก่ผู้ที่มีความจำเป็นต้องใช้ในตอนนี้ได้” มิก ฟาร์เรลล์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ResMed กล่าว

Source