ยุคนี้ ต้อง “คิดบวก”

หลังจากเหตุการณ์ “เผาเมือง” ในวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนจากโลกออนไลน์คือการแสดงความคิดด้านบวกเพื่อต่อสู้และเยียวยาสังคม เศรษฐกิจ และจิตใจของหลายๆ ฝ่าย งาน “Ignite Thailand” ครั้งนี้ ในหัวข้อ “ปลุกพลังบวก เปลี่ยนประเทศไทย” จึงได้จุดติดขึ้นอย่างรวดเร็ว

จุดเริ่มต้นของงานนี้เกิดจากกลุ่ม “เครือข่ายพลังบวก” ที่คนในแวดวงเอเยนซี่โฆษณารวมตัวกัน นำทีมโดย ภาณุ อิงคะวัต ครีเอทีฟ ไดเรคเตอร์ และเจ้าของเกรย์ฮาวด์ เป็นประธาน มี ชัยประนิน วิสุทธิผล ประธานบริษัท ทีบีดับบลิวเอ ประเทศไทย จำกัด ทำหน้าที่รองประธาน และได้ร่วมมือกับพงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โชว์โนลิมิต จำกัด เป็นหัวหน้าเครือข่ายและเป็นตัวแทนกลุ่มคนออนไลน์ร่วมกับ ปรเมศรว์ มินศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บัณฑิตเซ็นเตอร์ จำกัด เจ้าของเว็บไซต์ Kapook.com รวมทั้งเป็นผู้จัดการเครือข่ายพลังบวก เพื่อกระจายข่าวผ่านโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค ซึ่งมีสมาชิกในหน้าแฟนเพจ http://facebook.com/PositiveNetwork กว่า 4 พันคน รวมทั้งยังมีผู้ติด Twibbon เครื่องหมายบวกไว้ที่รูปในหน้าโพรไฟล์อีกไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นรายด้วย

วัตถุประสงค์ของ Ignite คือให้ผู้คนจากหลายๆ วงการมานำเสนอความคิดสร้างสรรค์ เล่าเรื่องราวที่จะทำให้เกิดแรงบันดาลใจแก่ผู้ฟัง ในรูปแบบที่แต่ละคนถนัด ภายใต้เงื่อนไขคือวิทยากรหรือที่เรียกกันว่า “Igniter” พูดภายใน 5 นาทีเท่านั้น โดยใช้สไลด์จำนวน 20 ภาพที่จะเลื่อนไปเรื่อยๆ ทุก 15 วินาที ดังนั้น Igniter จึงต้อง “ฝึกซ้อม” อย่างดีเพื่อพูดให้สั้น กระชับ และตรงเวลากับสไลด์ได้มากที่สุด

“ที่ผ่านมา เรื่องที่พูดส่วนใหญ่มักเป็นแนวเทคโนโลยีแต่ตอนหลังเริ่มเปิดให้มีการพูดที่หลากหลายขึ้น โดยกระตุ้นให้ผู้จัดเชิญคนพูดที่มีความหลากหลายไม่จำกัดเพศและอายุมาพูดด้วย” ปรเมศวร์อธิบาย ซึ่งคราวนี้นับเป็นครั้งที่ 2 ของการจัดงาน Ignite ในไทย แต่หลายคนกลับเข้าใจว่านี่คือการจัด Ignite Thailand ครั้งแรก เนื่องจากสโลแกนที่จัดในคราวนี้อิงกระแสการเมืองที่ทุกคนมีประสบการณ์ร่วมกันจึงช่วย “จุดประกาย” ให้ Ignite แจ้งเกิดกว่าครั้งก่อน

Igniters ในครั้งนี้ยังเป็น “แม่เหล็ก” โดยเฉพาะ เดียร์-ขัตติยา สวัสดิผล หรือ “ลูกสาวเสธ.แดง” และยังมี รศ.ดร.ปาริชาต สถาปิตานนท์ ผู้สูญเสียครอบครัวไปจากเหตุการณ์สึนามิที่ภาคใต้

กระแสบวกที่แรง ยังทำให้ Ignite Thailand สามารถดึงสปอนเซอร์ได้ถึง 8 ราย คือ เครือข่ายพลังบวก สสส. กระปุกดอทคอม โชว์โนลิมิต ทรูวิชั่นส์ เกรย์ฮาวด์ Change Fusion และ iFox Aircard ซึ่งรายหลังสุดยังขอกระชับพื้นที่จัดบูธในงาน โดยให้ผู้ร่วมงานและลงทะเบียนที่บูธรับซิม iFox 50 Mb ฟรี เพื่อทดลองใช้ Aircard iFox 3G ได้ภายในงานนี้

“เครือข่ายพลังบวก” ยังได้ทำโฆษณาชุด “ต่อไปนี้ ถ้าเธอพูดฉันจะฟัง” เพื่อกระตุ้นให้คนไทยทำความเข้าใจและแก้ไขปัญหา โดยเริ่มต้นเผยแพร่ผ่านทาง Facebook Twitter YouTube และเว็บไซต์ต่างๆ ก่อน จากนั้นจะขอความร่วมมือเผยแพร่ในสื่ออื่นๆ เช่น ทรูวิชั่นส์ ฟรีทีวี สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อวิทยุ เพื่อให้เกิดการรับรู้ในวงกว้าง ส่วนแผนต่อไปจะเป็นการทำโฆษณาเพื่อกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมตามมา

“เรารวมตัววันนี้ก็เป็นเหมือนการเวิร์คช็อปให้คนไทยได้ออกกำลังในการพูด การฟัง และจะถูกเผยแพร่ไปยังสื่อต่างๆ รวมทั้งการทำโพลที่เราจะหยิบเอาผลออกมากระจายข่าวด้วย” ภาณุกล่าวทิ้งท้ายที่ทำให้เห็นชัดว่าการออกแรงครั้งนี้จะไม่ใช่การจุดติดแล้วเงียบหายไป เพื่อที่ว่าอย่างน้อยไม่ว่าจะวงการไอที โฆษณา หรืออุตสาหกรรมอื่นๆ จะได้ไม่ต้องเจ็บปวดกับเหตุการณ์รุนแรงอีกในอนาคต

Profile
Ignite เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2549 ที่เมืองซีแอตเติล สหรัฐอเมริกา โดย O’Reilly Media ซึ่งเป็นสำนักพิมพ์เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต ใช้สื่อออนไลน์เป็นช่องทางติดต่อและนัดหมาย จึงทำให้กลุ่มเป้าหมายแรกเป็นคนที่สนใจในแวดวงนี้ จากนั้น Ignite ก็กลายเป็นงานระดับโลกที่หลายเมืองและหลายประเทศจัดกัน เช่น นิวยอร์ก ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส
Ignite Thailand ครั้งแรกจัดขึ้นเมื่อวันที่ 3 และ 4 มีนาคมที่ผ่านมา ที่ห้อง Auditorium ของศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนการจัดงาน มี Igniter 41 คน ผู้เข้าร่วมฟัง 2 คืนเกือบ 400 คน ส่วนครั้งล่าสุดจัดขึ้นเมื่อวันที่ 16 มิถุนายนเพียงคืนเดียวที่ลุมพินีสถาน มี Igniters 21 คน แต่มีผู้เข้าฟังกว่า 700 คน