ไฟเซอร์ อิงค์ วางเป้าหมายผลิตวัคซีครักษา COVID-19 ที่พวกเขากำลังพัฒนาร่วมกับไบโอเอ็นเทค (BioNTech) แห่งเยอรมนี ให้ได้ 10-20 ล้านโดส ในช่วงสิ้นปี 2020 สำหรับใช้กรณีฉุกเฉิน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับผลของการทดลอง
ทั้ง 2 บริษัทกำลังพัฒนาวัคซีนตัวทดลอง 4 ตัว และได้ทำการทดลองในมนุษย์ครั้งแรกไปแล้วในเยอรมนี แสดงความหวังว่าจะสามารถเริ่มต้นการทดลองในสหรัฐฯ เร็วๆ นี้ ทันที่ที่ได้รับการอนุมัติจากคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบ
ไบโอเอ็นเทค ระบุในถ้อยแถลงว่าได้เริ่มทำการทดลองวัคซีนป้องกัน COVID-19 ที่ชื่อว่า BNT162 ในมนุษย์กลุ่มแรกแล้ว 12 คนตั้งแต่วันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา โดยอาสาสมัครแต่ละคนจะได้รับปริมาณวัคซีนที่แตกต่างกันออกไปตั้งแต่ 1 ไมโครกรัม ไปจนถึง 100 ไมโครกรัม เพื่อหาปริมาณที่เหมาะสม
ส่วนระยะถัดไปทางบริษัทจะทำการทดลองกับกลุ่มอาสาสมัคร 200 คน ซึ่งมีอายุระหว่าง 18-55 ปี ในปริมาณวัคซีนที่แตกต่างกันออกไปเช่นกัน เพื่อดูความปลอดภัยและการสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมา
ไฟเซอร์, ไบโอเอ็นเทค และบริษัทอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงเหล่านักวิทยาศาสตร์ในทั่วทุกมุมโลก กำลังเร่งมือพัฒนาวัคซีนรักษาไวรัส COVID-19 เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มียา และวิธีการรักษาใดที่ได้รับการอนุมัติ ขณะที่ยาหลากหลายตัวที่อยู่ภายใต้การศึกษา มีผลการทดลองออกมาผสมผสาน
วันที่ 30 เม.ย. ที่ผ่านมา “แอสตราเซเนกา” บริษัทยาของสหราชอาณาจักร ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ดในโครงการพัฒนาวัคซีนตัวหนึ่งก็ได้เริ่มทดสอบในอาสามัครแล้วเช่นกัน
ในการผลิตวัคซีนให้ได้หลายสิบล้านโดสภายในเวลาไม่กี่เดือนตามที่ทางไฟเซอร์ตั้งความหวังไว้ มันจะกลายเป็นปฏิบัติการเร่งผลิตวัคซีนใหม่อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน และทางผู้ควบคุมกฎระเบียบจำเป็นต้องดำเนินการอย่างว่องไว แม้ว่ามันจะถูกนำไปใช้เฉพาะในกรณีฉุกเฉินก็ตาม
“แน่นอนว่าเราต้องการเห็น และตั้งตาคอยที่จะดูว่าการทดลองวัคซีนจะแสดงประสิทธิผลและความปลอดภัยออกมาอย่างไร หวังว่าผลจะออกมาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า” เนเนตเต โคเซโร หัวหน้าฝ่ายวัคซีนของไฟเซอร์กล่าวระหว่างร่วมประชุมทางไกลที่จัดโดยกลุ่มอุตสาหกรรมยา IFPMA
“แต่หากสันนิษฐานว่ามันผ่านการพิสูจน์แล้ว เราเล็งเป้าหมายยกระดับกำลังผลิตอย่างรวดเร็วให้ได้ 10 ถึง 20 ล้านโดสภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งแน่นอนว่าในตอนนั้น คาดหมายว่าน่าจะเป็นการใช้ในกรณีฉุกเฉิน”
นอกจากนี้ไฟเซอร์แล้ว บริษัทยาอื่นๆ ก็กำลังทดสอบวัคซีนที่เป็นไปได้สำหรับใช้รักษา COVID-19 เช่นกัน ในนั้นรวมถึง โมเดอร์นา, จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และโนวาแว็กซ์ เช่นดียวกับโครงการขนาดเล็กกว่าอื่นๆ อย่างเช่น โรงพยาบาลอินเซลสปิตอล ในเมืองเบิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ประเทศต่างๆ ยอมเสี่ยงเดิมพันทุ่มเงินมหาศาลในโครงการต่างๆ ที่อาจไม่ประสบความสำเร็จเลย ท่ามกลางความตะเกียกตะกายดิ้นรนหาแนวทางป้องกัน และรักษาไวรัส COVID-19 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนแล้วมากกว่า 200,000 ศพทั่วโลก