Muji เปิดขายใน Amazon ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ หนีตายพิษสินค้าค้างสต็อก

Muji ผ่าทางตันในช่วง COVID-19 หันมาเปิดร้านบน Amazon.com ครั้งแรกในประวัติศาสตร์เพื่อเข้าถึงกลุ่มนักช้อปทั่วโลกที่ไม่อาจออกนอกบ้านมาจับจ่ายซื้อของได้อย่างใจต้องการ ชัดเจนว่าการปิดร้านสาขา Muji ทั่วโลกช่วงล็อกดาวน์เป็นแรงกระตุ้นให้ Muji ขยายช่องทางจำหน่ายสินค้าออนไลน์ เพื่อหนีภาวะกำไรติดลบที่กำลังจ่อคอหอยเจ้าพ่อค้าปลีกญี่ปุ่นในขณะนี้

ก้าวใหม่ของ Muji ถูกประกาศตามหลังจากนักวิเคราะห์ประเมินสถานการณ์ว่า COVID -19 ส่งผลกระทบกับ Muji อย่างจัง โดยเฉพาะประเด็นสินค้าคงคลังที่สูงกว่าคาดการณ์มาก ภาวะนี้อาจบีบให้ต้นสังกัด Muji ลดราคาสินค้าลงเพื่อระบายสินค้าในสต็อก ทำให้ Muji ต้องดิ้นและเร่งหาทางบริหารจัดการสินค้าที่มีให้ได้กำไรมากที่สุด 

Muji นั้นมีชะตากรรมไม่ต่างจากแบรนด์ค้าปลีกรายอื่นที่ต้องปิดร้านสาขาลงในช่วงล็อกดาวน์เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของไวรัส ตั้งแต่ช่วงกุมภาพันธ์ 63 ต้นสังกัด Muji อย่าง Ryohin Keikaku Co. ต้องปิดบริการร้านสาขาหลายร้อยแห่งในหลายประเทศ ปัญหาคือ Muji ยังไม่มีร้านออนไลน์ในหลายตลาด ทำให้การซื้อขายสินค้าสะดุดแบบ 100% เช่นในสิงคโปร์ที่ Muji Singapore ไม่มีร้านออนไลน์อย่างเป็นทางการ และต้องสื่อสารผ่าน Instagram

ลุยออนไลน์ ควบเร่งเปิดร้าน

Muji Singapore ประกาศบน Instagram ว่าการปิดร้านค้าและคาเฟ่ในสิงคโปร์จะครอบคลุมตั้งแต่ 7 เมษายนถึง 4 พฤษภาคม เช่นเดียวกับ Muji ที่ออสเตรเลียที่เตรียมเปิดร้านในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมเหมือนอีกหลายแบรนด์ที่ต้องเร่งเปิดร้านให้เร็วที่สุด นอกจากการเร่งเปิดร้าน Muji กำลังดิ้นสุดขีดเพื่อให้บริษัทยังมีตัวเลขกำไรที่สวยงาม ด้วยการเริ่มขายผลิตภัณฑ์จากเครือ Muji บน Amazon.com เป็นครั้งแรกเมื่อวันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา

แม้จะไม่พูดตรงๆ แต่การขยายช่องทางการขายครั้งนี้ถูกมองว่า Muji ต้องการตัวเลขมาชดเชยกับรายได้ที่เสียไประหว่างการปิดร้านชั่วคราว ย้อนไปเมื่อกุมภาพันธ์ 63 สื่อญี่ปุ่นย้ำว่า Muji ต้องปิดประตูชั่วคราว 140 ร้านจากทั้งหมด 270 ร้านในจีนตามคำสั่้งรัฐบาล สำหรับในญี่ปุ่น Muji ปิดร้าน 280 แห่งจากทั้งหมด 440 แห่งลงชั่วคราว ท่ามกลางร้านค้าอื่นที่เลือกใช้วิธีลดเวลาเปิดทำการร้านลง

แน่นอนว่าการเปิดร้านบน Amazon.com จะเป็นการขยายช่องทางจำหน่ายให้ Muji โดยสินค้าที่เปิดจำหน่ายบน Amazon.com นั้นมีมากกว่า 250 รายการ ประกอบด้วยสินค้าหมวดเครื่องสำอาง ภาชนะที่เก็บของ และเครื่องครัว เชื่อว่าจะสามารถดึงดูดนักช้อปที่ติดอยู่กับบ้าน รวมถึงสินค้ายอดนิยมกลุ่มดูแลผิว Clear Care และกล่องเก็บเครื่องสำอางวัสดุพลาสติกโพลีโพรพีลีน

ช่องทางใหม่ที่บริษัทแม่ Ryohin Keikaku จัดร้านค้าออนไลน์ให้ Muji ผ่าน Amazon นั้นถูกจับตาอย่างมากเพราะ Amazon มีฐานผู้ใช้ขนาดใหญ่ ทำให้มีโอกาสที่ Muji จะสามารถดึงดูดผู้บริโภคที่ไม่ได้จงใจต้องการซื้อสินค้านั้นโดยเฉพาะ แถม Amazon ยังมีกลุ่มลูกค้าใหญ่มากในยุโรป ซึ่งจะช่วยให้ Muji สามารถระบายสินค้าได้ในเวลาที่ร้านยังปิดอยู่

ต้องทลายสต็อก

การปิดร้านทำให้นักวิเคราะห์มองว่า Muji มีสินค้าค้างในสต็อกมากจนน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสื้อผ้ากลุ่มฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนที่ตรงกับช่วง COVID-19 ระบาด อย่างไรก็ตาม Ryohin Keikaku ย้ำว่าบริษัทจะไม่ลดราคาสินค้าค้างสต็อก เพราะต้องการควบคุมไม่ให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทลดลง

ตั้งแต่ช่วงก่อนโควิด หุ้นของ Ryohin Keikaku ร่วงระนาวเกิน 19% ซึ่งเป็นสถิติที่สูงที่สุดหลังจากต้นสังกัด Muji ปรับลดคาดการณ์กำไร โดยอ้างความไม่แน่นอนในการดำเนินงานในเอเชียตะวันออก เวลานั้น Muji ลดเป้าหมายกำไรจากการดำเนินงานตลอดทั้งปี 63 ลง 17% เป็น 37,800 ล้านเยน จากที่ทำได้เกิน 40,000 ล้านเยนในปี 62

ประเด็นที่นักลงทุนมองคือ Muji จะพยายามทำกำไรได้ดีขึ้นด้วยการลดปริมาณสินค้าคงเหลือในคลังลง ดังนั้นอัตรากำไรขั้นต้นหรือมาร์จิ้นของ Muji จึงอาจจะลดลงในไตรมาส 3 และเสี่ยงที่จะลดลงต่อเนื่องไปอีกในไตรมาสอื่น แต่การตัดสินใจลดขนาดสาขา Muji ในญี่ปุ่นและจีนในช่วงครึ่งหลังของปี อาจจะผลักดันกำไรต้นสังกัด Muji ให้เพิ่มขึ้นในปี 64 ทั้งหมดเป็นสถานการณ์ก่อนยุคโควิด

แต่หลังจากโควิดมา นักวิเคราะห์ประเมินว่า กำไรจากการดำเนินงานของ Muji อาจติดลบช่วงครึ่งแรกของปีนี้หากยอดขายลดลง 25-30% ซึ่งนอกจากการระบาดของ COVID-19 งานใหญ่ที่รอถล่ม Muji อยู่คือนโยบายคว่ำบาตรญี่ปุ่นในสังคมเกาหลีใต้ ยังมีเหตุประท้วงทางการเมืองในฮ่องกง และการขึ้นภาษีในญี่ปุ่น ที่สำคัญคือสภาพอากาศที่ไม่เอื้อให้ลูกค้าซื้อเสื้อกันหนาวเพิ่ม ล้วนส่งผลให้ยอดขายและกำไรจากการดำเนินงานของต้นสังกัด Muji ลดลงเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน

นอกจากจะระบายสินค้า Muji วางแผนผลิตสินค้าให้น้อยลงสำหรับคอลเลกชันในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว ทั้งหมดนี้ ซาโตรุ มัตสึซากิ (Satoru Matsuzaki) ประธานบริษัท Ryohin Keikaku มั่นใจว่าสินค้าคงคลังของ Muji จะถูกปรับให้อยู่ในระดับเหมาะสมภายในสิงหาคม 64 เร็วกว่าที่เคยประเมินไว้ก่อนหน้านี้

อาการโคม่าของสต็อก Muji จะดีขึ้นหรือไม่ คงต้องรอลุ้นกัน.


ที่มา :