กัลฟ์ มอบถุงยังชีพช่วยผู้เดือดร้อนจากพิษ COVID-19 ต่อเนื่อง 4 สัปดาห์ รวมกว่า 9,600 ครัวเรือน

จังหวัดนนทบุรี ร่วมกับ กฟผ. และ กัลฟ์ แจกถุงยังชีพบรรจุข้าวสารอาหารที่จำเป็นช่วยเหลือครอบครัวผู้ป่วยติดเตียง ครอบครัวผู้พิการ และครอบครัวผู้สูงอายุที่ไม่สามารถประกอบอาชีพหาเลี้ยงครอบครัวได้ตามปกติ ซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี เพื่อบรรเทาผลกระทบที่ได้รับจากพิษ COVID-19 รวมกว่า 9,600 ครัวเรือนต่อสัปดาห์ ต่อเนื่อง 4 ครั้งตลอดเดือนพฤษภาคมนี้

วันนี้ (6 พฤษภาคม 2563) นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมกับ นายสิตมน รัตนาวะดี ในนามตัวแทนนายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) นางพรทิพา ชินเวชกิจวานิชย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) นายบุญชัย ถิราติ กรรมการบริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยนายวัชรเดช เกียรติชานน นายอำเภอบางกรวย นายสุรศักดิ์ วิชินโรจน์จรัล นายกเทศมนตรีเมืองบางกรวย และคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่แจกจ่ายถุงยังชีพบรรจุข้าวสารอาหารที่จำเป็นต่อการดำรงชีพให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจาก COVID-19 จำนวน 2,400 ครัวเรือน ภายใต้โครงการ “รวมพลังฝ่าวิกฤต โควิด–19” เป็นครั้งแรกที่วัด 9 แห่งในพื้นที่อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี

นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย เปิดเผยว่า กฟผ. มีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจและเดือดร้อนจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จึงร่วมกับพันธมิตรจังหวัดนนทบุรี และ บมจ.กัลฟ์ จัดทำโครงการดังกล่าว โดยในถุงยังชีพแต่ละถุงบรรจุอาหารที่จำเป็น อาทิข้าวสาร 5 กิโลกรัม น้ำมันพืช 1 ขวด ไข่ไก่ 1 แผง ผักสด 5 ชนิดจากวิสาหกิจชุมชนไทรน้อย กุนเชียงครึ่งกิโลกรัม ปลากระป๋อง 3 กระป๋อง และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 6 ซอง เพื่อแจกจ่ายให้กับครอบครัวผู้ป่วยติดเตียง ครอบครัวผู้พิการ และครอบครัวผู้สูงอายุที่ไม่สามารถประกอบอาชีพหาเลี้ยงครอบครัวได้ตามปกติ เพื่อร่วมช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชุมชนกว่า 9,600 ครัวเรือนในจังหวัดนนทบุรี โดยก่อนหน้านี้ กฟผ. ได้มอบเงิน 30 ล้านบาท เพื่อให้โรงพยาบาลนำไปจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์และเวชภัณฑ์ รวมทั้งยังได้ร่วมกับบริษัทในกลุ่ม กฟผ. สมทบทุนรวม 60 ล้านบาท สำหรับจัดหาแอลกอฮอล์ 70% เพื่อกระจายให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) 76 จังหวัดทั่วประเทศ นอกจากนี้ กฟผ. ยังได้ร่วมกับวัดจัดตั้งโรงทานแจกข้าวกล้องไข่เจียว พร้อมน้ำดื่ม “น้ำใจ” กฟผ. จำนวนกว่า 100,000 ชุด พร้อมแจกเจลอนามัย “น้ำใจ” กฟผ. ให้กับประชาชนกลุ่มต่างๆ ซึ่ง กฟผ. พร้อมอยู่เคียงข้างคนไทยให้ผ่านพ้นวิกฤตไปด้วยกัน

ด้าน นายสิตมน รัตนาวะดี ในนามตัวแทนนายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และนางพรทิพา ชินเวชกิจวานิชย์ กล่าวถึงความร่วมมือครั้งนี้ว่า แม้ว่าตัวเลขของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยจะมีจำนวนลดลงแล้ว แต่ก็มีคนในชุมชนอีกจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบจากการขาดรายได้ในช่วงวิกฤตที่ผ่านมา สำหรับกลุ่มบริษัทกัลฟ์ นอกจากการมุ่งเดินหน้ามอบข้าวกล่องกว่า 120,000 กล่องสู่ชุมชนใน 50 เขตในพื้นที่กรุงเทพฯ รวมถึงบริจาคเงิน อุปกรณ์การแพทย์ และหน้ากากอนามัย เพื่อสู้ภัยโควิด-19 รวมกว่า 49 ล้านบาทแล้ว กลุ่มบริษัทฯ ตั้งใจที่จะร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง กฟผ. มอบถุงยังชีพเพื่อช่วยเหลือกลุ่มผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ และผู้สูงอายุที่ไม่สามารถประกอบอาชีพหาเลี้ยงครอบครัวได้ตามปกติ โดยทางกลุ่มบริษัทฯ ได้สนับสนุนข้าวสาร (5 กก.) 3,000 ถุง และน้ำมันพืช 3,000 ขวด เพื่อนำมาเป็นส่วนหนึ่งของถุงยังชีพ โดยกลุ่มบริษัทกัลฟ์มุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและสนับสนุนประเทศไทยในการบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19 ต่อไป

ทั้งนี้ จะมีการส่งมอบถุงยังชีพต่อเนื่องอีกจำนวน 3 ครั้ง ได้แก่ วันที่ 14, 21 และ 28 พฤษภาคม 2563 โดยมอบให้แก่วัด 9 แห่งในพื้นที่อำเภอบางกรวย ได้แก่ วัดโพธิ์เผือก วัดโตนด วัดบางอ้อยช้าง วัดสักใหญ่ วัดหูช้าง วัดโคนอนมหาสวัสดิ์ วัดศรีประวัติ วัดใหม่ผดุงเขต และวัดซองพลู เพื่อให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน หรือ ผู้ประสานงานที่ได้รับมอบหมายจากนายอำเภอหรือนายกเทศบาลเมืองบางกรวยนำไปแจกจ่ายให้กับลูกบ้านต่อไป เพื่อลดการมารวมตัวกันของประชาชนในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง ตามประกาศของรัฐบาลเรื่องการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing)