ชวนอ่านประวัติศาสตร์กว่าร้อยปีก่อนมาเป็นแอร์ “Mitsubishi Heavy Duty” แอร์สัญชาติญี่ปุ่นที่ผลิตโดยคนไทย


โลโก้ขนมเปียกปูนสีแดงสามชิ้นนี้เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะเป็นโลโก้ของ Mitsubishi แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าอันดับต้นๆ จากญี่ปุ่น โดยมีหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เป็นที่ใช้กันอย่างแพร่หลายคือ “เครื่องปรับอากาศ” ผู้ทำความเย็นให้กับบ้านและอาคารในประเทศไทยมานานหลายสิบปี ถึงแม้หลายคนจะรู้จักแอร์ Mitsubishi Heavy Duty แต่บางคนอาจไม่ทราบว่าฐานผลิตอยู่ในไทยนี้เอง และเป็นการร่วมทุนกันระหว่าง MHI จากญี่ปุ่นกับกลุ่มบริษัท มหาจักร ของไทย

ย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์มากกว่าหนึ่งศตวรรษ ก่อนที่ Mitsubishi จะเป็นบริษัทยักษ์ระดับไซบัตสึและมาผลิตเครื่องปรับอากาศ บริษัทและแบรนด์นี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2427 โดย ยาตาโร อิวาซากิ ซามูไรระดับล่างในแคว้นโทสะ ในยุคที่ญี่ปุ่นยังใช้ระบอบโชกุนปกครอง

แม้จะเป็นคนจนแต่ยาตาโรมีความทะเยอทะยานในการสร้างเนื้อสร้างตัว และยังมีทักษะด้านการเงิน ทำให้เขาเข้ารับใช้เจ้าเมืองโทสะ เริ่มจากเป็นเสมียนและไต่เต้าจนได้รับมอบหมายให้ไปคุมสถานีการค้าที่เมืองนางาซากิ

ชีวิตยาตาโรพลิกผันเมื่อเจ้าเมืองโทสะถูกลอบสังหาร เขาจึงต้องกลับเป็นซามูไรระดับล่างอีกครั้ง แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้และหันไปรับใช้ขุนนาง โกโต้ ซาบุโร่ และได้เป็นประธานสมาคมพาณิชย์โทสะประจำเมืองนางาซากิ ระหว่างนั้นเขาสร้างสายสัมพันธ์ทั้งทางการเมือง และกับชาวต่างชาติที่เข้ามาค้าขาย เพื่อเรียนรู้วิทยาการตะวันตก และเป็น “คอนเน็คชัน” ที่แข็งแกร่งสำหรับทำการค้า

หลังจากนั้นเกิดการปฏิรูปเมจิขึ้น การยกเลิกระบอบโชกุนทำให้แคว้นต่างๆ ถูกห้ามดำเนินธุรกิจกันเอง สุดท้ายยาตาโรจึงใช้โอกาสนี้ประกาศว่าสมาคมพาณิชย์โทสะประจำนางาซากิจะขึ้นตรงบริหารโดยเขาคนเดียวเท่านั้น เหตุนี้ทำให้ยาตาโรรวบอำนาจได้ ซามูไรระดับสูงที่ไม่พอใจจึงลาออกจนเหลือเพียงชนชั้นชาวนาที่ยังทำงานให้เขาอยู่

จากสมาคมกลายเป็นบริษัท Mitsubishi Shokai ที่เติบโตด้วยธุรกิจชิปปิ้งทางทะเล โดยได้เป็นคู่ค้ากับรัฐบาลในการขนส่งอาวุธเมื่อญี่ปุ่นทำสงครามกับไต้หวัน รวมทั้งเมื่อญี่ปุ่นร่วมสงครามโลกครั้งที่สอง กลายเป็นรากฐานที่ทำให้ Mitsubishi สามารถขยายไปสู่อุตสาหกรรมอื่น เริ่มจากอู่ต่อเรือ เหมืองแร่ และธุรกิจธนาคาร

บริษัทมาเปลี่ยนชื่อเป็น Mitsubishi Heavy Industries (MHI) ในปี 2477 และยังคงขยายการผลิตไปสู่อีกหลายอุตสาหกรรม ทั้งส่วนประกอบเครื่องบิน จรวด ก่อสร้างสะพานแขวน โรงไฟฟ้า จนถึงการผลิตเครื่องพิมพ์ และเครื่องปรับอากาศ โดยปัจจุบันมีการผลิตสินค้ามากกว่า 700 ประเภท

ความก้าวหน้าของ MHI ครอบคลุมทั้งพื้นดิน ทะเล อากาศ และอวกาศ! โดยมีภารกิจที่ภาคภูมิใจคือการพัฒนาฐานปล่อยจรวดและภารกิจการปล่อยจรวด โดยเป็นผู้รับผิดชอบภารกิจ H-IIB F4 ฐานปล่อยจรวด HTV ขึ้นสู่สถานี ISS สะท้อนความแข็งแกร่งทางเทคโนโลยีของบริษัท

“มหาจักร” ไม่ได้มีแค่เครื่องเสียง

ฝั่งบริษัทไทยคือกลุ่มบริษัท มหาจักร ผู้บริโภคส่วนใหญ่น่าจะคุ้นเคยกับชื่อนี้ในฐานะผู้นำเข้าและติดตั้งระบบแสง สี เสียงรายใหญ่ เพราะเป็นผู้จัดจำหน่ายเครื่องเสียงแบรนด์ดังทั้ง Shure, JBL, Denon, Geneva ฯลฯ แต่มหาจักรไม่ได้มีเพียงธุรกิจนี้เท่านั้น

กลุ่มบริษัทมหาจักร ก่อตั้งปี 2501 (อายุ 62 ปี) เริ่มจากเป็นร้านนำเข้าสกรูและน็อตจากจีน โดยร้านดั้งเดิมตั้งอยู่ย่านคลองถม ต่อมาจึงหันมาผลิตสกรู น็อต และชิ้นส่วนอุตสาหกรรมเอง ระหว่างนั้น ผู้ก่อตั้งรุ่นแรกมีพี่น้อง 7 คน จึงมีพี่น้องบางส่วนไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น และได้ไอเดียการนำเข้าสินค้าเข้ามาขายในไทยด้วย เป็นจุดเริ่มต้นของการนำเข้าเครื่องเสียง รวมถึง “เครื่องปรับอากาศ” นอกจากนี้กลุ่มมหาจักรยังขยายฐานธุรกิจอื่นๆ ออกไปอีกในระยะหลัง เช่น อสังหาริมทรัพย์ เหล็กรีดเย็น ระบบทำความเย็นรถบรรทุก

สำหรับธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องปรับอากาศ เริ่มแรกมหาจักรนำเข้าสินค้าแอร์รถยนต์เมื่อปี 2514 ก่อนจะขยับมาสู่แอร์บ้าน และได้เป็นผู้จัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวของแอร์ Mitsubishi Heavy Duty จนถึงปัจจุบัน และต่อมายังมีการร่วมทุนกับฝั่งญี่ปุ่นเพื่อตั้งฐานผลิตแอร์ Mitsubishi Heavy Duty เพื่อขายในไทยและส่งออกไปทั่วโลก กลายเป็นอีกหนึ่งเสาสำคัญของกลุ่มบริษัท

MACO ฐานผลิตแอร์ 28 ล้านเครื่อง

การร่วมทุนดังกล่าวเกิดขึ้นในปี 2531 ภายใต้ชื่อโรงงาน Mitsubishi Heavy Industries – Mahajak Air Conditioners หรือ MACO ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง มีกำลังผลิตแอร์บ้าน 1 ล้านชุดต่อปี และแอร์โรงงาน-อาคาร 4 แสนชุดต่อปี ตั้งแต่ก่อตั้งถึงปัจจุบันได้ผลิตเครื่องปรับอากาศออกสู่ตลาดไปแล้ว 28 ล้านเครื่อง

โรงงานนี้ออกแบบระบบผลิต MACO Production System (MPS) ได้มาตรฐาน ISO 9001, ISO 9002 และ ISO 14001 และยังลงทุนหลักร้อยล้านบาทเพื่อตั้งศูนย์ทดสอบเครื่องปรับอากาศคุณภาพสูง ภายในศูนย์ฯ นี้มีทั้งเครื่องตรวจสอบรอยรั่วโดยใช้ก๊าซฮีเลียมความดันสูง การทดสอบระดับเสียง ทดสอบสมรรถนะการใช้งานและการใช้ไฟฟ้า ฯลฯ ทำให้มั่นใจได้ว่า เครื่องปรับอากาศที่จะออกโรงงานผลิตนี้ไปจะต้องได้มาตรฐาน

แอร์เดินเงียบไม่รบกวนการนอน

แม้มหาจักรจะจำหน่ายเครื่องเสียง แต่แอร์ Mitsubishi Heavy Duty นั้นโดดเด่นที่ความเงียบไร้เสียงรบกวน แอร์รุ่นยอดฮิตของแบรนด์นี้คือแอร์อินเวอร์เตอร์รุ่น ZSXS ใช้คอมเพรสเซอร์และมอเตอร์กระแสตรง ทำงานร่วมกับแผงวงจรอัจฉริยะ PAM และวาล์วอิเล็กทรอนิกส์ EEV ทำให้การปรับเปลี่ยนความเร็วรอบมอเตอร์ทำได้แม่นยำตรงกับอุณหภูมิความเย็นในห้องขณะนั้น ช่วยประหยัดพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพซึ่งเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคเลือกใช้แอร์อินเวอร์เตอร์

ที่เหนือกว่าแบรนด์อื่นๆ นอกจากเรื่องประหยัดไฟคือ Mitsubishi Heavy Duty รุ่น ZSXS นั้นเดินเครื่องได้เงียบเพียง 19 เดซิเบลซึ่งเบากว่าเสียงกระซิบของคน และยังมีการออกแบบรูปลักษณ์เครื่องปรับอากาศที่ดูดีเหมาะกับติดตั้งในบ้าน โดยได้การันตีรางวัลด้านงานดีไซน์จากเวที A’Design Award ประเทศอิตาลี นอกจากรุ่นฮิตอย่าง ZSXS ปีนี้ Mitsubishi Heavy Duty ยังออกแอร์อินเวอร์เตอร์รุ่นน้องใหม่แต่ประสิทธิภาพไม่แพ้กันคือรุ่น YXP และ YXS ซึ่งมีจุดเด่นคือมีระบบฟอกอากาศประจุไอออนในตัว เหมาะกับสภาพอากาศเมืองไทยยุคนี้อย่างยิ่ง

ทั้งหมดคือความเป็นมาของแอร์ Mitsubishi Heavy Duty ผลผลิตจากบริษัทเจ้าของเทคโนโลยีระดับอวกาศจากญี่ปุ่น และบริษัทคนไทยที่มีรากฐานด้านการผลิตและติดตั้งยาวนานหลายสิบปี สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคในการซื้อ “เครื่องปรับอากาศ” เครื่องใช้ไฟฟ้าสำคัญของบ้านในหน้าร้อนนี้