“โครงการแบ่งปันความอิ่ม” สืบสานพระราชปณิธานการทำความดีของในหลวงรัชกาลที่ 9

ศ. ดร. นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมด้วย นายวรรณเทพ หรูวิจิตร Founder & Chief Executive Officer บริษัท ไอคอน เฟรมเวิร์ค จำกัด  อ.นพ.อัครินทร์ นิมมานนิตย์ประธานคณะกรรมการดำเนินการหน่วยพัฒนางานประจำสู่งานวิจัย คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล นางประภาวดี  ธานีรณานนท์ รองกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายกิจการองค์กร บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) นางสาวอริสา โพธิ์ชัยสาร  หน่วยพัฒนางานประจำสู่งานวิจัย คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล  มหาวิทยาลัยมหิดลและผู้ริเริ่มโครงการแบ่งปันความอิ่ม  Pay it forward Thailand ร่วมล้อมวงเล่า แบ่งปันความอิ่ม ส่งต่อความช่วยเหลือสู่ชุมชนทั่วประเทศสืบสานพระราชปณิธานการทำความดีของในหลวงรัชกาลที่ 9

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 ที่ส่งผลกระทบต่อทุกคนบนโลกเป็นจำนวนมาก หลายคนนับว่ายังโชคดีที่มีงานมีเงินซื้ออาหาร  เพื่อเลี้ยงชีวิตและครอบครัวต่อไปแต่ยังมีอีกหลายคนที่เหมือนจะมองไม่เห็นหนทางการใช้ชีวิตต่อได้ ไม่มีแม้กระทั่งเงินซื้ออาหารสักมื้อเสียงของความเดือดร้อนเหล่านี้  จึงก่อให้เกิด “โครงการแบ่งปันความอิ่ม Pay it forward Thailand” ภายใต้แนวคิด “มีน้อยกินฟรี…พอมีร่วมแบ่งปัน”

โดย Pay it forward เป็นแนวคิดที่เชื่อว่าเราทุกคนสามารถสร้างโลกให้น่าอยู่ได้  เป็นการสร้างสังคมแห่งการแบ่งปันความรักและความปรารถนาดีให้ผู้อื่นก่อนแล้วส่งต่อไปเรื่อยๆ ไม่สิ้นสุดด้วยการส่งต่อความดี ช่วยเหลือคนรอบข้างที่เดือดร้อน ขณะผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือก็มีหน้าที่ตอบแทนโดยการส่งมอบความช่วยเหลือให้แก่ผู้อื่นต่อไปเรื่อยๆ เมื่อมีโอกาส เพียงเท่านี้การทำความดีก็จะเพิ่มขึ้นทวีคูณไม่สิ้นสุด

ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดลเปิดเผยว่า

“ ในวันนี้พวกเราทุกคนกำลังสืบสานพระราชปณิธานของในหลวงรัชการที่ 9 ถึงแม้ว่าเราอาจจะมี physical distancing แต่เราไม่มีระยะห่างในแง่ของจิตใจ เรื่องแรกท่านเป็นองค์ที่สนพระทัยเรื่องความอดอยากของพสกนิกรของพระองค์ท่านมาก  ทรงทำทุกวิถีทาง  สิ่งที่พระองค์ท่านทำไม่ใช่เพียงแค่ทำอย่างไรให้หายหิว   และทรงคิดว่าจะทรงทำในสิ่งที่ถูกต้องอย่างไรเพื่อให้หายหิว  เรื่องที่สองคือ   การสร้างการมีส่วนร่วมของ  พ่อค้า แม่ค้า   ที่อยู่ในพื้นที่ต่างๆ ที่สามารถทำให้เขาได้เป็นทั้งผู้ให้และผู้รับ   เรื่องที่สามคือ ทำให้เกิดการมีส่วนร่วมในการทำความดี   และการสร้างให้คนเหล่านั้นเข้าใจความหมายของคำว่าให้ ในหลวงรัชกาลที่ 9  ทรงตรัสว่า ประเทศไทยจะไม่ล่มสลายถ้าคนไทยยังมีความสุขกับการให้   เรื่องที่สี่การรู้รักษาสามัคคีอันเกิดจากการให้  และทุกคนมีความสุขกับการให้   เรื่องที่ห้า คือการเข้าใจในสมดุลระหว่างการจัดสรรแบ่งปันการทำความดีให้กับคนอื่นซึ่งเป็นการให้ที่งดงาม  เรื่องสุดท้าย คือความไว้เนื้อเชื่อใจโครงการแบบนี้เกิดขึ้นไม่ได้ถ้าคนไทยไม่ไว้ใจกัน   สังคมที่งดงามคือสังคมที่ไว้ใจกัน  เรื่องดี ๆ เหล่านี้จะหล่อหลอมสิ่งดี ๆ ให้เกิดขึ้นกับตัวคุณและขยายวงต่อไปเรื่อย ๆ

โครงการแบ่งปันความอิ่มที่ถูกเริ่มขึ้น โดยบุคลากรศิริราชกลุ่มเล็ก ๆ บุคลากรเหล่านี้เป็นผู้ที่ทำงานเบื้องหลัง  ทำงานด้านงานวิจัย แม้จะไม่ได้มีโอกาสไปช่วยสังคมในการดูแลรักษาผู้ป่วยโดยตรง
แต่ก็มีแรงขับเคลื่อนภายในที่อยากจะช่วยเหลือผู้อื่น ด้วยใจ ด้วยพลังเล็ก ๆ ของแต่ละคน รวมตัวกัน
เป็นพลังอันยิ่งใหญ่ ไม่ด้อยไปกว่าแพทย์ พยาบาล ที่ดูแลผู้ป่วยที่ด้านหน้าเลย ผมรู้สึกนี่คือ คนศิริราชตัวจริง เขาเหล่านี้ได้แสดงออกถึงวัฒนธรรมศิริราช  คือ altruism อย่างชัดเจน”

นางสาวอริสา โพธิ์ชัยสาร ผู้ริเริ่มโครงการ “แบ่งปันความอิ่ม Pay it forward Thailand” ปัจจุบันปฏิบัติหน้าที่ในสังกัดหน่วยพัฒนางานประจำสู่งานวิจัย(R2R)คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดลเปิดเผยว่า

“จากการมองเห็นคนเดือดร้อนมากมายในวิกฤตโควิด– 19 บางคนตกงาน ไม่มีรายได้หลายคนตัดสินใจจบชีวิตเพื่อหนีปัญหา เราในฐานะคนตัวเล็กๆคนหนึ่งแม้จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงนโยบายได้
แต่เราควรจะลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่าง เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่กำลังเดือดร้อนเหล่านั้น
จากความคิดสู่การลงมือทำโครงการแบ่งปันความอิ่มจึงได้เกิดขึ้น“เพราะความหิวมันทรมาน”
ด้วยความตั้งใจอย่างแน่วแน่ในการช่วยเหลือคนหิวโครงการแบ่งปันความอิ่มจึงได้รับการตอบรับจากผู้ปันอิ่มทั่วไทย   โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมโครงการมากขึ้นเรื่อยๆเพราะวิธีการที่ง่าย ใครๆก็ทำได้  ทุกคนสามารถช่วยให้คนที่กำลังเดือดร้อนได้อิ่มท้องกันแบบฟรีๆ ผ่าน “คูปอง” ที่“ผู้ปันอิ่ม” ได้ชำระเงินไว้ก่อนแล้วกับทางร้านปันอิ่มที่ร่วมโครงการโดยกำหนดราคาไว้อิ่มละ 20 – 40 บาทเพียงเท่านี้ ผู้รออิ่ม ที่กำลังเดือดร้อนก็สามารถหยิบคูปองได้จากหน้าร้านเพื่อนำไปแลกเป็นอาหารหนึ่งมื้อกับทางร้านค้าได้ฟรี และร้านค้าจะบอกกับผู้รออิ่มว่า ในวันหน้าเมื่อสามารถดูแลตัวเองได้แล้ว ก็สามารถกลับมา “แบ่งปัน” ให้คนอื่นได้ด้วยการกลับมาซื้อคูปองเพื่อส่งต่อความอิ่มให้กับคนเดือดร้อนคนอื่นๆต่อไปแบ่งปันความอิ่มจึงเป็นการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตครั้งนี้ได้ 2 ฝ่ายพร้อมกัน คือ ผู้รออิ่ม และร้านปันอิ่มและที่สำคัญยังเป็นการสร้างรูปแบบการทำบุญแบบใหม่ที่เราไม่จำเป็นต้องมีเงินมาก เพียง 20 บาทและมีใจก็เป็นผู้ให้ได้แล้ว”

อ.นพ. อัครินทร์ นิมมานนิตย์ ประธานคณะกรรมการหน่วยพัฒนางานประจำสู่งานวิจัย (R2R)  คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดลเปิดเผยว่า

“เมื่อแนวคิดของโครงการได้รับการเผยแพร่ไปในวงกว้างมากขึ้น ก็มีผู้ปันอิ่มจำนวนมากต้องการให้การสนับสนุนโครงการ  ทีมทำงานซาบซึ้งในน้ำใจคนไทยเป็นอย่างมาก และพยายามตกผลึกหาระบบบริหารจัดการ เพื่อให้การสนับสนุนจากผู้ปันอิ่มสามารถกระจายเข้าถึงผู้ที่เดือดร้อนได้อย่างรวดเร็ว และทั่วถึง พวกเราระดมความคิด จนได้ข้อสรุปสองประการประการแรกเพื่อให้กระจายความช่วยเหลือให้ทั่วถึง เราต้องสอนให้คนที่อยากช่วยสามารถเริ่มทำได้ในชุมชนของตนเอง โดยหลีกเลี่ยงการรับการสนับสนุนแบบรวมศูนย์ และประการที่สอง คือ เราต้องมุ่งเน้นกระบวนการกระตุ้นให้คนที่พอมีร่วมแบ่งปันต่อจากผู้ที่เริ่มต้นไว้ในชุมชน เพื่อให้การแบ่งปันต่อเนื่องกันไปเป็นวัฏจักรด้วย จากการเปิด Facebook เพจเพื่อสื่อสารแนวคิดและวิธีการของโครงการนี้ ร่วมกับทำการรวบรวมข้อมูลร้านปันอิ่ม ตามภูมิภาคต่างๆทั่วประเทศเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ปันอิ่มที่ต้องการร่วมสนับสนุนการแบ่งปัน ต่อมาเพื่อให้ครอบคลุมร้านปันอิ่มจำนวนมากขึ้นจึงได้การสนับสนุน จากบริษัท ไอคอน เฟรมเวิร์ค จำกัด  สร้าง application @payitforward (แบ่งปันความอิ่ม) ที่จะมีระบบหลังบ้านในการตรวจสอบ ติดตามรวมทั้งวิเคราะห์ภาพรวมของโครงการ”

ผมขอเชิญชวนทุกท่านร่วมในโครงการนี้ ร่วมเป็นผู้ปันอิ่ม อาสาสานอิ่ม หรือ ร้านปันอิ่มเพื่อช่วยเหลือผู้รออิ่มที่กำลังยากลำบากร่วมกันสร้างสังคมแห่งการแบ่งปันร่วมกันครับ”

ปัจจุบันโครงการแบ่งปันความอิ่ม Pay it forward Thailandเติบโตขึ้นอย่างอบอุ่น
จากการช่วยเหลือของผู้คนรอบข้าง คนรู้จักใกล้ชิด ขยายสู่การช่วยเหลือที่กว้างขึ้นอย่างรวดเร็ว
ล่าสุดโครงการได้มีการพัฒนารูปแบบการเข้าถึงความช่วยเหลือ ผ่านApplicationชื่อLINE@payitforward (แบ่งปันความอิ่ม)เพื่อให้ผู้ที่ต้องการช่วยเหลือเข้าถึงร้านค้า และชุมชนได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น  โดยผู้ที่อยากช่วยเหลือสามารถร่วมแบ่งปันได้ทันทีในเมนูร่วมแบ่งปัน หากเป็นร้านค้าก็สามารถร่วมโครงการได้โดยลงทะเบียนเป็นร้านปันอิ่มซึ่งระบบออนไลน์นี้ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทไอคอน เฟรมเวิร์ค จำกัดในการช่วยกันพัฒนาและบริหารจัดการระบบทั้งหมดให้มีประสิทธิภาพ มีความโปร่งใสและสามารถคัดกรองร้านค้าที่เชื่อถือได้ ที่จะมั่นใจได้ว่าเงินทุกบาทจากผู้ร่วมบริจาค ได้ช่วยเหลือถึงผู้เดือดร้อนอย่างแท้จริง

นายวรรณเทพ หรูวิจิตรFounder & Chief Executive Officerบริษัท ไอคอน เฟรมเวิร์ค จำกัดในฐานะเครือข่ายอาสาสานอิ่ม ผู้ร่วมพัฒนาระบบใน Application LINE@payitforwardเปิดเผยว่า

“การทำให้คนๆ หนึ่งได้หายหิว มีแรงสู้ต่อก็เยี่ยมยอดแล้ว โครงการนี้สามารถเข้าถึงคนที่ลำบาก ในช่วงโควิด – 19 ได้จริงๆ เพราะอย่างน้อยก็ยังมีอาหารกิน 3 มื้อ เลยคิดว่าโครงการนี้แก้ปัญหาปากท้องได้ถูกจุด เลยสนใจเข้ามาร่วมงานและเมื่อวิเคราะห์ดูแล ความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาระบบของบริษัท ไอคอน เฟรมเวิร์ค จำกัด  น่าจะช่วยแก้ไขข้อจำกัด และช่วยต่อยอดโครงการได้  จึงได้เข้ามาร่วมพัฒนาโครงการซึ่งกระบวนการทำงานที่ผ่านมา ก็ได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อน ๆ และคู่ค้าหลายท่าน ได้แก่ บริษัท Internet Thailand ที่ให้ความอนุเคราะห์ Server และยังมีน้องๆจาก Lineมาช่วย Design อีกด้วยการได้เข้ามาร่วมพัฒนา Application แบ่งปันความอิ่ม ก็ทำให้พวกเราได้อิ่มใจไปด้วย ทำให้พวกเราได้เห็นความหวังที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมสร้างสังคมแห่งการแบ่งปันครับ”

นอกจากนี้โครงการยังได้รับความร่วมมือจากบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน)  หนึ่งในเครือข่ายอาสาสานอิ่ม  ที่มาร่วมสานต่อโครงการนี้ให้แพร่หลายมากยิ่งขึ้น

นางประภาวดี ธานีรณานนท์ รองกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายกิจการองค์กร บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน)   เปิดเผยว่า

“ ด้วยเจตนารมณ์ของ  บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน)  และกลุ่มบริษัทในเครือ มีความพร้อมในการสนับสนุนและร่วมมือกับโครงการการกุศลเสมอมา  สำหรับโครงการแบ่งปันความอิ่ม  ทางบริษัทฯ เล็งเห็นว่า  เป็นโครงการที่ดี  สามารถช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนจากสถานการณ์โควิดได้ครอบคลุมทั่วประเทศ  โดยศิลปิน,  นักร้อง,  นักแสดงและดีเจ  สามารถร่วมแบ่งปันเรื่องราวดีๆของโครงการนี้  ทั้งรูปแบบของการเป็นอาสาสานอิ่ม  โดยการลงพื้นที่ไปเชื่อมโยงกับร้านค้าในชุมชนต่างๆ  ตลอดจนการเป็นกระบอกเสียงส่งต่อเรื่องราวของโครงการนี้ไปถึงกลุ่มแฟนคลับทั่วประเทศ  นอกจากนี้  บริษัท วัน สามสิบเอ็ด จำกัด (ช่องวัน 31)  ได้นำเงินบริจาคจากโครงการ “วันสร้างสุข : สู้ภัยโควิด-19”จากคนไทยทั้งประเทศ สมทบช่วยเหลือโครงการนี้ด้วย  รวมทั้งการร่วมเผยแพร่โครงการให้แพร่หลายขึ้น

ทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน)  หวังเป็นอย่างยิ่งว่า  การช่วยเหลือเหล่านี้จะทำให้เกิดการแบ่งปันอย่างกว้างขวางและทั่วถึงมากยิ่งขึ้น  ตลอดจนร่วมสร้างให้โครงการนี้ยั่งยืนตลอดไป”

นางสาวอริสา โพธิ์ชัยสารกล่าวเสริมว่า  “จากแนวคิดการส่งต่อความดี หรือ Pay it forwardที่อยากให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างยั่งยืนจากคนในสังคม เป็นโครงการของกลุ่มคนเล็กๆ ที่ต้องการให้สังคมเรียนรู้ที่จะแบ่งปันให้แก่กันในยามวิกฤต ณ วันนี้มันได้ขยายตัวไปในชุมชน และเริ่มจะขยายความช่วยเหลือเป็นวัฏจักรต่อเนื่องกันไปตามที่ทีมงานได้ตั้งใจแล้วทีมงานทุกคนขอขอบคุณน้ำใจจากผู้ปันอิ่ม อาสาสานอิ่ม และผู้ใหญ่ใจดีทุกๆท่านที่เห็นถึงความตั้งใจดีของโครงการและร่วมแรงร่วมใจสานต่อโครงการนี้ให้ดำเนินต่อไปได้  ทีมงานทุกคนหวังเพียงว่าเราจะร่วมกันแบ่งปันสิ่งดีๆเหล่านี้ให้ส่งต่อสู่พี่น้องคนไทยที่เดือดร้อนได้ทั่วถึง และยั่งยืนต่อไปในอนาคต”

สำหรับผู้ปันอิ่ม และร้านปันอิ่มที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถลงทะเบียนผ่าน Application  LINE@payitforwardและสามารถติดตามข้อมูล ข่าวสารต่างๆของโครงการได้ทางwww.facebook.com/แบ่งปันความอิ่ม-Pay-it-forward-Thailand-105166591170355/?epa=SEARCH_BOX