หนึ่งในสินค้าขายดีสวนทางเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาคือ “ต้นไม้” อานิสงส์จากการกักตัวอยู่บ้านเลี่ยง COVID-19 ทำให้ผู้บริโภคหันมาสนใจการทำบ้านให้น่าอยู่ ผนวกกับกระแสการแต่งห้องสไตล์เกาหลีมินิมอลที่ควรมีต้นไม้เป็นองค์ประกอบ ทำให้เทรนด์ “ปลูกต้นไม้” มาแรง วัดได้จากคำค้นใน Google Trends และปากคำของพ่อค้าแม่ค้าตลาดต้นไม้จตุจักรที่ขายดีขึ้นเป็นเท่าตัว
สถานการณ์บีบบังคับให้ช่วงที่ผ่านมาทุกคนต้องหาความสุขจากการอยู่ในบ้าน ด้วยเหตุนี้บรรดาของแต่งบ้านโดยเฉพาะ “ต้นไม้” จึงเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคสนใจมากขึ้น
วัดได้จากการค้นคำว่า “ปลูกต้นไม้” “กระบองเพชร” “กระถางต้นไม้” และ “แต่งห้อง” ด้วยเครื่องมือ Google Trends ทั้ง 4 คำมีการค้นหาที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดช่วงหลังวันที่ 28 มีนาคม 63 หลังจากมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศ และขึ้นไปพีคสูงสุดช่วงวันที่ 3-9 พฤษภาคม 63 ซึ่งเป็นช่วงเริ่มคลายล็อกดาวน์ระยะ 1 ผ่อนปรนเปิดตลาดได้
หากเทียบระหว่างก่อนประกาศล็อกดาวน์พื้นที่ชุมนุมชนกับช่วงที่คำค้นเหล่านี้ขึ้นไปพีคสูงสุด อัตราการค้นหาสูงขึ้น 25-100% เลยทีเดียว
ขายดีเท่าตัว ขายออนไลน์ขึ้นราคาได้อีก 50%
วันที่ 20 พฤษภาคม 63 Positioning ลงพื้นที่ “ตลาดต้นไม้จตุจักร” ที่ได้รับอนุญาตให้กลับมาเปิดทำการเป็นสัปดาห์ที่สอง เพื่อสอบถามยอดขายที่แท้จริงเทียบกับกระแสในอินเทอร์เน็ตว่าสอดคล้องกันหรือไม่ ปรากฏว่า ร้านค้าทุกร้านขายดีขึ้นกว่าช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายก่อนปิดตลาดป้องกันการแพร่ระบาดของโรค โดยส่วนใหญ่บอกว่า “ขายดีขึ้นเท่าตัว” และสำหรับร้านที่เปิดขายออนไลน์ควบคู่ยิ่งได้ประโยชน์
นุชนาฏ ศรีสุวรรณ เจ้าของร้าน CACTUSHOME_X เปิดขายในตลาดต้นไม้จตุจักรมา 1 ปี จำหน่ายเฉพาะต้นกระบองเพชร บอกกับเราว่า “เซอร์ไพรส์” มากที่คนสนใจต้นไม้มากขึ้น จากเดิมเกรงว่าจะมียอดขายต่ำลงเพราะลูกค้าอาจจะประหยัดค่าใช้จ่าย ในทางตรงข้าม ตั้งแต่มีการกักตัวอยู่บ้านเธอมีรายได้ดีขึ้นอย่างน้อย 1 เท่าตัว จากปกติทำกำไรได้วันละ 5,000 บาท ขึ้นมาเป็น 10,000 บาท บางวันมากกว่าปกติ 2-3 เท่า
ช่วงที่ตลาดต้นไม้จตุจักรปิดไป นุชนาฏหันไปขายผ่านหน้าร้าน “ออนไลน์” แทน โดยสามารถทำกำไรได้เพิ่มขึ้นด้วยจากการปรับราคาขึ้น 50% เช่น เดิมขายอยู่ที่ตลาดในราคา 100 บาท ปรับเป็น 150 บาท แต่กลับขายดีกว่าเดิม แม้ตลาดจะกลับมาเปิดทำการแล้วแรงซื้อก็ยังไม่ตก
ส่วนร้านที่เน้นขายส่งในตลาดที่ได้สอบถามมาพบว่า ไม่มีการปรับไปขายออนไลน์แทนในรอบเกือบ 2 เดือนที่ปิดตลาดจตุจักรไป ทำให้ไม่มีรายได้หรือมีน้อยมาก โดยมาจากคำสั่งซื้อล่วงหน้าที่ยังให้จัดส่งอยู่ แต่หลังจากเปิดตลาดอีกครั้งพบว่ายอดขายพุ่งจากช่วงก่อนปิดตลาดเช่นกัน
“เปิดมาก็ขายดีเลย ไม่ถึงกับเพิ่มเท่าตัวแต่ก็ดีขึ้น ส่วนใหญ่เป็นขาประจำที่รับไปขายต่อ คาดว่าหน้าร้านเขาคงจะขายหมดแล้ว กลุ่มนี้จะมารับไปเยอะมาก” ข้อมูลจากร้านพี่มะยมที่เปิดขายต้นไม้และกระถางในจตุจักรมานานกว่า 10 ปี
อย่างไรก็ตาม พ่อค้าแม่ค้าก็มีความกังวลว่ากระแสอาจจะเริ่มลดลงหลังจากนี้ โดย “สมนึก หรุ่นรุ่งเรือง” เจ้าของ ร้านสมนึกพฤกษา เปิดขายไม้ดอกมานานกว่า 35 ปี กล่าวว่า สัปดาห์แรกหลังเปิดตลาดทำยอดขายเพิ่มขึ้นกว่าเดิมเท่าตัว จากวันละ 10,000 บาทเป็น 20,000 บาท แต่มาถึงสัปดาห์ที่สองเริ่มซาลงไป เหลือวันละ 17,000-18,000 บาท
สมนึกกล่าวว่า ลูกค้าขาจรเริ่มลดลงในสัปดาห์ที่สอง อาจเพราะศูนย์การค้าเริ่มเปิดทำการแล้ว ทำให้ลูกค้าเลือกเดินห้างฯ มากกว่าเดินตลาด
จากการเดินสำรวจตลาดต้นไม้จตุจักร เราพบว่า กลุ่มวัยรุ่น วัยหนุ่มสาว ที่มาเดินเลือกซื้อมีไม่น้อยเลยทีเดียว และพ่อค้าแม่ค้าต่างยืนยันว่าพบคนหนุ่มสาวเข้ามาเดินหาซื้อเพิ่มขึ้น จากปกติส่วนใหญ่เป็นกลุ่มพ่อค้าแม่ค้ามาซื้อราคาส่งเพื่อไปขายต่อ
ไลฟ์สไตล์แต่งห้องแบบเกาหลี-มินิมอลช่วยส่ง
แล้วทำไมจึงเป็น “ต้นไม้” เมื่อพูดถึงการแต่งห้อง? กระแสหนึ่งที่มาแรงในหมู่วัยรุ่น-วัยหนุ่มสาวในช่วงที่ผ่านมาคือ การแต่งห้องสไตล์เกาหลีแบบมินิมอลๆ ประกอบด้วยห้องสีเอิร์ธโทน สีขาว เบจ น้ำตาล เทา และมักจะใช้ต้นไม้สีเขียวประดับห้องให้ดูสดชื่น ใกล้ชิดธรรมชาติ
กระแสแต่งห้องสไตล์นี้มีมาแล้ว 1-2 ปี แต่เมื่อการแต่งห้องเป็นไลฟ์สไตล์ใหม่ที่นิยมในช่วงกักตัว ยิ่งทำให้เทรนด์ห้องแนวเกาหลี/มินิมอลมาแรง
โดยมีคอนเทนต์ประเภท “Room Tour” หรือการที่อินฟลูเอนเซอร์/คนดังในโลกออนไลน์พาชมการแต่งห้องของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบวิดีโอหรือรูปถ่าย และมักจะมีต้นไม้อยู่ในนั้น ทำให้วัยรุ่นหันมาสนใจ “ปลูกต้นไม้” มากกว่าเดิม โดยเฉพาะต้นไม้กลุ่มที่เลี้ยงง่ายและปลูกไว้ในห้องได้ เช่น กระบองเพชร พลูด่าง มอนสเตร่า กวักมรกต ฯลฯ
เทรนด์ผู้บริโภคแบบนี้อาจจะยังเป็นที่สนใจอีกระยะหนึ่ง เมื่อชีวิตคนยังไม่กลับมาเป็นปกติและต้องอยู่ในบ้านเป็นหลัก เป็นโอกาสของพ่อค้าแม่ค้าและนักการตลาดที่อาจจะปรับสินค้าให้เข้าเทรนด์ฮิตแบบนี้กันได้!