Nikon ผู้ผลิตกล้องรายใหญ่จากญี่ปุ่น ประกาศปลดพนักงานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 700 คน เพื่อปรับโครงสร้างธุรกิจกล้องดิจิทัล หลังรายได้เเละยอดขายลดลงต่อเนื่อง ท่ามกลางวิกฤต COVID-19 เตรียมรับขาดทุนในช่วง 2 ปีนี้
ก่อนหน้านี้ “ตลาดกล้องดิจิทัล” ก็อยู่ในช่วงขาลงหนักอยู่เเล้ว เนื่องจากผู้บริโภคหันมาใช้สมาร์ทโฟนในการถ่ายภาพมากขึ้น เหล่าบริษัทกล้องทั้งหลาย จึงพยายามจะปรับตัวโดยหันมามุ่งตลาดกล้อง Mirrorless เเละเจาะตลาดคนรุ่นใหม่ กลุ่มบล็อกเกอร์หรือคนที่ชอบถ่ายวิดีโอ ซึ่งความต้องการใช้กล้องที่มีความละเอียดสูง
การเเพร่ระบาดของ COVID-19 ได้ซ้ำเติมให้ยอดขายกล้องลดฮวบลงไปอีก เพราะผู้คนไม่สามารถออกไปท่องเที่ยวหรือออกไปถ่ายภาพได้ตามปกติ อีกทั้งหลายคนยังต้องประหยัดค่าใช้จ่าย กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง
อ่านเพิ่มเติม : ตลาดกล้อง ขาลงหนักมาก “ฟูจิฟิล์ม” ฮึดสู้รอบใหม่ เน้นถ่ายวิดีโอ หวังพึ่ง Vlogger-Youtuber
Nikkei Asian Review รายงานว่า การปลดพนักงานฝ่ายผลิตในส่วนที่เกี่ยวกับกล้องของ Nikon ครั้งนี้เริ่มมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2019 จนถึงเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งบางส่วนเป็นการให้ออกในรูปแบบสมัครใจ “เกษียณก่อนกำหนด” (Early Retire)
สำหรับในประเทศไทย ได้รับผลกระทบจากการลดจำนวนพนักงานครั้งนี้ จำนวน 500 คน ส่วนอีก 200 คนเป็นพนักงานใน สปป.ลาว คิดเป็นสัดส่วนราว 10% ของจำนวนพนักงานในแต่ละประเทศ
การเเพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อรายได้ของ Nikon ซึ่งหนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดในของวงการกล้อง โดยปีงบประมาณ 2019 ที่สิ้นสุดเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2020 ที่ผ่านมา บริษัทมีผลกำไรสุทธิลดลง 88% เหลือ 7,600 ล้านเยน ( ราว 2.2 พันล้านบาท)
นอกจากนี้ COVID-19 ยังทำให้การเปิดตัวโปรดักต์ใหม่ล่าช้าด้วย อย่างกล้องรุ่น D6 ซึ่งเป็นกล้องดิจิทัลที่มีฐานเเฟนคลับเป็นกลุ่มช่างภาพกีฬา เมื่อผู้คนถูกจำกัดการกิจกรรมต่างๆ จึงทำให้ยอดขายกล้องลดลงไปด้วย
Hiroyuki Ikegami รองประธานอาวุโสฝ่ายธุรกิจถ่ายภาพของ Nikon กล่าวว่า ท่ามกลางผลกระทบของการระบาดที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกในอนาคต “เราจะมีปรับกำลังการผลิตให้มีความเหมาะสม”
อย่างไรก็ตาม Nikon ไม่ได้เปิดเผยคาดการณ์รายได้ในงบการเงินปีนี้ เเละมองว่าการฟื้นตัวของยอดขายกล้องจะเป็นไปอย่างล่าช้า
“เราต้องเตรียมความพร้อม เพื่อรองรับการขาดทุนในธุรกิจการถ่ายภาพ ช่วง 2 ปีนี้” Muneaki Tokunari ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินระบุ