“เทสโก้ โลตัส” เดินหน้า 3 พันธกิจฝ่าวิกฤต COVID-19 ดูแลครบ “ลูกค้า พนักงาน คู่ค้า ชุมชน”


เทสโก้ โลตัส เดินหน้า 3 พันธกิจหลัก ในการขับเคลื่อนธุรกิจ เพื่อฝ่าวิกฤต COVID-19 โดยที่ยืนยันว่าให้ความช่วยเหลือทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ลูกค้า พนักงาน คู่ค้า ไปจนถึงชุมชน ย้ำเป็นช่วงเวลาที่ต้องช่วยเหลือกัน ทุกคนต้องชนะ และผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน

สร้างความอุ่นใจ คลายกังวลให้ประชาชน

การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือเป็นที่คุ้นเคยกันในชื่อ COVID-19 สร้างผลกระทบต่อชีวิต และเศรษฐกิจอย่างมากมายมหาศาล เรียกว่าเป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่สุดของหลายๆ ธุรกิจเลยก็ว่าได้ ทุกอุตสาหกรรมต้องหยุดชะงัก รวมถึงการใช้ชีวิตของประชาชนทั่วไปด้วยเช่นกัน

อุตสาหกรรมค้าปลีกก็ได้รับผลกระทบไม่แพ้ธุรกิจอื่นๆ เพราะวิกฤตนี้สร้างแรงกระเพื่อมเป็นวงกว้างจริงๆ

“เทสโก้ โลตัส” หนึ่งในยักษ์ใหญ่วงการการค้าปลีกในประเทศไทย ได้เดินหน้าสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคหลังจากการผ่อนปรนล็อกดาวน์เดินหน้าช่วยเหลือประชาชนทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น การตรึงราคาสินค้าอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยประชาชนลดค่าครองชีพ ผ่อนปรนค่าเช่าเพื่อช่วยคู่ค้า รับซื้อสินค้าเกษตรเพิ่มเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร และเดินหน้าโครงการมอบอาหารเพื่อช่วยชุมชนที่ได้รับผลกระทบ

จากผลการสำรวจความกังวลของประชาชนโดย Mintel ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา พบว่า 3 ปัจจัยที่ประชาชนมีความกังวลมากที่สุดคือ

1. ค่าครองชีพที่สูง 57%

2. สุขภาพ 55%

3. อาชีพ 42%

3 พันธกิจใหญ่ ในการฝ่าวิกฤตโควิด-19 ของ เทสโก้ โลตัส ได้ตอบโจทย์คลายข้อกังวลใจเหล่านั้นของประชาชน ได้แก่

1. การดูแลสุขภาพ และความปลอดภัยของลูกค้า และพนักงาน

2. การจัดหาสินค้าที่จำเป็นและอาหารให้เพียงพอในราคายุติธรรมสำหรับประชาชน

3. การช่วยเหลือชุมชนที่ได้รับผลกระทบ

สมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานกรรมการบริหาร เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า

“ในขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ในประเทศไทยเริ่มคลี่คลาย จำนวนผู้ติดเชื้ออยู่ในระดับที่ดูแลได้ และภาคธุรกิจสามารถเริ่มกลับมาเปิดให้บริการได้ในวิถีใหม่ เทสโก้ โลตัส จะยังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนพันธกิจ 3 ประการของเรา ได้แก่ ดูแลสุขภาพและความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงาน จัดหาสินค้าที่จำเป็นและอาหารให้เพียงพอในราคายุติธรรมสำหรับประชาชน และช่วยเหลือชุมชนที่ได้รับผลกระทบ เพื่อช่วยให้ประเทศไทยสามารถก้าวไปข้างหน้า เราเชื่อมั่นว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ จะต้องตั้งอยู่บนความอยู่รอดของทุกภาคส่วน และเราจะชนะ COVID-19 ได้ ก็ต่อเมื่อไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เทสโก้ โลตัส จะเดินหน้าช่วยเหลือเพื่อนพนักงาน ลูกค้า คู่ค้า และชุมชน ให้ผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปได้ด้วยกัน”

ดูแลทุกภาคส่วน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

พันธกิจทั้ง 3 ประการของเทสโก้ โลตัส ได้ตอบโจทย์ในข้อกังวล 3 เรื่องดังกล่าวของประชาชน ในขณะที่ประเทศไทยกำลังเริ่มฟื้นฟูธุรกิจ เทสโก้ โลตัสจึงออกมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือผู้บริโภค ครอบคลุมทั้ง 4 กลุ่มด้วยกัน

ลูกค้าและประชาชน

• จำหน่ายสินค้าคุณภาพสูง ปลอดภัย ในราคาที่เป็นธรรม โดยเน้นอาหารสด และอาหารพร้อมปรุง รวมทั้งอุปกรณ์เครื่องครัวที่ครบครัน ในยามที่ประชาชนส่วนใหญ่ยังทำอาหารรับประทานเองที่บ้าน

• เพิ่มอาหารที่หลากหลายในพื้นที่ศูนย์การค้าสำหรับการซื้อไปรับประทานที่บ้าน และโปรโมชั่นลดราคามากมายในฟู้ดคอร์ทและร้านอาหารในพื้นที่ เพื่อช่วยลูกค้าลดค่าครองชีพ

• พัฒนาสินค้าเพื่อสุขภาพ มาตรฐานแบรนด์เทสโก้ จำหน่ายในราคาที่เอื้อมถึง อาทิ หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ และสบู่ล้างมือ

• บริการผ่านช่องทาง omni-channel สะดวก ปลอดภัย รวดเร็ว

• รักษามาตรการคัดกรองและทำความสะอาดภายในร้านค้าอย่างเคร่งครัด ตามนโยบายภาครัฐ

พนักงาน

• ไม่มีการปลดพนักงานหรือลดค่าจ้าง

• จ่ายรางวัลพิเศษและคูปองส่วนลดเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของพนักงาน

• ทำประกันสุขภาพ COVID-19 ให้พนักงานที่ให้บริการลูกค้าโดยตรง

• ให้พนักงานทำงานจากที่บ้านหากไม่มีความจำเป็นต้องเข้าสำนักงานใหญ่หรือสาขา โดยมีระบบไอทีรองรับ และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คให้พนักงานสำนักงานใหญ่ทุกคน

คู่ค้า

• ยกเว้นหรือลดค่าเช่าให้กับผู้เช่าพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการที่ภาครัฐให้ปิดบริการชั่วคราว

• เปิดพื้นที่เช่าในศูนย์การค้าฟรีให้เกษตรกรและผู้ประกอบการเอสเอ็มอี

• รับพนักงานร้านค้าเช่าที่ปิดให้บริการเข้าเป็นพนักงานชั่วคราว

• เพิ่มปริมาณการรับซื้อสินค้าเกษตร อาทิ ผลไม้ตามฤดูการเพิ่ม 50% จากปีที่ผ่านมา

ชุมชน

• ขยายโครงการตู้ปันอิ่ม ซึ่งตั้งอยู่หน้าร้านเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส

• บริจาคอาหารและสิ่งของที่จำเป็นสำหรับประชาชนที่เดือดร้อนและผู้ยากไร้

• เดินหน้ามอบอาหารให้กับชุมชนให้ครบ 1 ล้านมื้อ

เดินหน้าลงทุนตามแผนเดิม

นอกจากมาตรการที่มีส่วนช่วยในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศแล้ว เทสโก้ โลตัสยังยืนยันว่าแผนการลงทุน การขยายสาขายังคงเดิม ไม่มีการปรับลดแต่อย่างใด โดยที่มีแผนในการเปิดสาขาใหม่ที่เป็นโมเดลไฮเปอร์มาร์เก็ต พื้นที่เฉลี่ย 3,000-4,000 ตารางเมตร 4 สาขา และโมเดลเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรสอีก 150 สาขา อีกทั้งยังพัฒนาช่องทางใหม่ๆ ในการสร้างความสะดวกให้ลูกค้ามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Chat & Collect หรือ Chat & Shop ให้แชทผ่านช่องทางออนไลน์ เลือกว่าจะมารับเองที่สาขา หรือให้ไปส่งที่บ้านก็ได้

“วิกฤต COVID-19 มีผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อทุกภาคส่วน เทสโก้ โลตัส เชื่อว่า เราจะชนะได้ก็ต่อเมื่อไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ซึ่งเทสโก้ โลตัส จะเดินหน้าดูแลเพื่อนพนักงาน ลูกค้า คู่ค้า และชุมชน ให้ผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้ด้วยกันอย่างแข็งแกร่ง” นายสมพงษ์กล่าวสรุป