สรุปร่างคลายล็อกเฟส 4 ดื่มเหล้าในร้านอาหาร-จัดคอนเสิร์ต แต่งดอาบอบนวด รอเคาะ 12 มิ.ย.

เปิดร่างกิจการคลายล็อกเฟส 4 เปิด ..นานาชาติ เปิดให้ดื่มเหล้าในร้านอาหาร ภัตตาคารได้ ศูนย์เด็กเล็กผู้สูงอายุเปิดบริการไปกลับได้ อนุญาตจัดงานอีเวนต์ คอนเสิร์ต ต้องลดแออัด จำกัด 5 ตารางเมตรต่อคน ขนส่งสาธารณะให้นั่ง 2 เว้น 1 จุไม่เกิน 70% เพิ่มจำนวนคนเข้ากองถ่าย ไฟเขียวอบไอน้ำสมุนไพร แข่งกีฬาได้ทุกประเภท แต่ห้ามมีคนดู เผย ยังห้ามผับบาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด รอเคาะอีกครั้ง 12 มิ..นี้ อาจเริ่มได้ 15 มิ..

วันนี้ (10 มิ..) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวว่า คณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณากำหนดมาตรการผ่อนคลายการบัคบใช้บางมาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ได้มีการพิจารณากิจการกิจกรรมที่จะผ่อนคลายในระยะที่ 4 ซึ่งขณะนี้ยังเป็นฉบับร่าง โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ

1. การผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียน หรือ สถาบันการศึกษา

ให้โรงเรียนนานาชาติ และสถาบันกวดวิชาเปิดได้แล้ว ซึ่งเป็นคนละส่วนกับการเปิดเทอมของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) วันที่ 1 .. ตามปกติ นอกจากนี้ ให้หน่วยงานราชการกำกับของรัฐ อบรมสัมมนาในหลักสูตรฝึกอบรมที่หน่วยงานจัดขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องมีการดูแลนักเรียน มีระบบพื้นที่พอสมควร ให้นั่งเรียนห่างกันได้ เป็นต้น

2. กิจกรรมด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิต

  • การจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม โดยในภัตตาคาร สวนอาหาร โรงแรม ร้านอาหารหรือเครื่องดื่มทั่วไป ไม่รวมสถานบริการผับบาร์ คาราโอเกะ การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เป็นไปตามกฎหมายกำหนด ด้วยความมีระเบียบ และงดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ภายใต้การควบคุมกำกับของหน่วยงานที่รับผิดชอบ ต้องไม่มีการเชียร์เบียร์ โดยมาตรการหลัก 5+1 คือ อยู่ห่าง ใส่มาสก์ หมั่นล้างมือ ทำความสะอาดพื้นผิว ไม่แออัด และต้องลงทะเบียนไทยชนะ ส่วนมาตรการเสริม คือ กิจกรรมยังไม่ให้เสียงดัง บุฟเฟ่ต์งดตักอาหารส่วนกลางด้วยตัวเอง เป็นต้น โดยจะมีคู่มือปฏิบัติออกมาเพื่อให้หน่วยงานกำกับเข้าไปดูแลได้ และผู้ประกอบการใช้ในการทำกิจการ
  • สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยหรือศูนย์เด็กเล็ก และสถานดูแลผู้สูงอายุ ที่เคยอนุญาตให้เฉพาะพักค้างคืน ตอนนี้ให้เป็นแบบไปกลับได้ อย่างไรก็ตาม เด็กเล็กมักจะมีการมาเล่นกัน ครูพี่เลี้ยงต้องคอยดูแล โดยเด็กต้องมีพื้นที่ต่อคน คือ 2 ตารางเมตรต่อคน
  • ห้องประชุมโรงแรม ศูนย์ประชุม ศูนย์แสดงสินค้า สถานที่จัดนิทรรศการ โรงมหรสพ โรงภาพยนตร์ สถานที่ราชการเพื่อจัดประชุม อบรม สัมมนา เปิดขึ้นได้แล้ว โดยประชุมอบรมสัมมนา คิดเกณฑ์ 4 ตารางเมตรต่อคน จัดงานเลี้ยง อีเวนต์ เปิดตัวสินค้า ประกวด แข่งขันกีฬาที่ไม่มีคนดูทำได้ แต่ต้องมีระยะห่าง 1 เมตร และงานแสดงดนตรี คอนเสิร์ต ให้มีได้ แต่ต้องลดความหนาแน่น ต้องมีระเบียบ เกณฑ์คือ 5 ตารางเมตรต่อคน ซึ่งต้องระวังเรื่องการกระจายของละอองฝอยน้ำลายด้วย นอกจากนี้ ต้องลดแออัด งดกิจกรรมส่งเสริมการขายที่จะไปอยู่ใกล้ชิดกัน มีการจัดเว้นที่นั่ง
  • ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา เช่น ท้องฟ้าจำลอง จะอนุญาตให้เปิด
  • การขนส่งสาธารณะ อาจให้นั่งติดกัน 2 ที่นั่ง เว้น 1 ที่นั่ง โดยจำกัดไม่เกิน 70% ของความจุผู้โดยสารตามมาตรฐาน

3. กิจกรรมด้านออกกำลังกาย

  • กองถ่าย เพิ่มจำนวนคนได้ รวมทุกแผนกไม่เกิน 150 คน มีผู้เข้าชมไม่เกิน 50 คน โดยฝากเรื่องของการใส่เฟซชิลด์อย่างเดียวไม่ใส่หน้ากากป้องกัน แต่ยืนใกล้กัน ตรงนี้ไม่ช่วยป้องกันอะไร
  • สถานประกอบการด้านสุขภาพ สปา ออนเซ็น อบตัว สมุนไพร อบไอน้ำแบบรวมสามารถเปิดได้ แต่ยังยกเว้นกิจการอาบอบนวด ยังไม่ได้ และจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการต่อรอบคิดตามเกณฑ์ 5 ตารางเมตรต่อคน
  • สวนสุนก สนามเด็กเล่น สวนน้ำ สระว่ายน้ำสาธารณะ เปิดได้แล้ว ไลฟ์การ์ดต้องคอยดูแลคำแนะนำ แต่ยังยกเว้นเครื่องเล่นที่มีผิวสัมผัสมาก เช่น บ้านบอล เพราะสารคัดหลั่งจะไปอยู่กีบลูกบอล ทำความสะอาดยาก และเป็นที่หมักหมมของเชื้อโรค ส่วนสวนน้ำและสระว่ายน้ำ คิดเกณฑื 8 ตารางเมตรต่อคน
  • สนามกีฬาประเภทกลางแจ้ง โรงเรียนศิลปะการต่อสู้ โรงยิม และสถานที่ออกกำลังกาย คือ ทุกประเภทกีฬาสากล เพื่อออกกำลังกาย ฝึกซ้อม การเรียนการสอน ทำได้หมด โดยแข่งได้แต่ยังไม่มีผู้ชม อาจจะถ่ายทอดสดได้ และต้องไม่มีกิจกรรมอื่นมาร่วมด้วย เช่น การส่งเสริมการขายต่างๆ
  • สวนสาธารณะ ลานกีฬา ก็สามารถจัดกิจกรรมรวมกลุ่ม เช่น เต้นแอโรบิก ได้ รวมกลุ่มโดยคิดเกณฑ์ 5 ตารางเมตรต่อคน รวมกันไม่เกิน 50 คน
  • ตู้เกม เครื่องเล่นหยอดเหรียญ ในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ โรงมหรสพ สวนสนุก สามารถเปิดได้ ยกเว้นร้านเกมภายนอกนี้ยังไม่ได้ จำกัดเวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมงต่อคน

ตรงนี้เป็นเพียงฉบับร่าง อาจจะมีการปรับเปลี่ยน ยกเลิก หรือเพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการ ศบค.ชุดใหญ่ ที่จะมีการประชุมกันในเช้าวันศุกร์ที่ 12 มิ.. แต่เบื้องต้นมีประมาณนี้ โดยท่านอาจจะช่วยกันจำแนกวิเคราะห์หรือช่วยกันออกแบบ หากอยากมีกิจการกิจกรรมต่างๆ เหมือนก่อนที่จะมีโควิด เราจะต้องการทุกอย่างอย่างนั้นไม่ได้ นิวนอร์มัลที่ว่าจะต้องเข้ามาตรงนี้ ต้องคำนึงถึงไปกิจกรรมนี้ หากติดเชื้อขึ้นมาจะจัดการตัวเองและคนอื่นได้อย่างไร และทำอย่างไรให้ปลอดเชื้อไปเรื่อยๆ เพื่อให้เศรษฐกิจต่างๆ หมุนเวียนไปได้นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

ยังไม่เปิดผับบาร์

ถามต่อว่าร่างผ่อนคลายนี้ การผ่อนปรนในร้านอาหารให้ดื่มแอลกอฮอล์ได้ แต่เหตุใดยังไม่เปิดบริการผับบาร์ คาราโอเกะ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ผับบาร์ คาราโอเกะ เราจัดกลุ่มไว้ที่เสี่ยงสูง และมีการรายงานมาก่อนหน้านี้มีกลุ่มก้อนติดเชื้อเยอะช่วงหนึ่ง เช่น กรณีทองหล่อ ก็มีบทพิสูจน์แล้วว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง และกลุ่มก้อนนี้ก็มีส่วนผลักดันเศรษฐกิจระดับหนึ่ง ซึ่งไม่ได้สำคัญสูงเท่าด้านอื่นๆ แต่กลุ่มก้อนร้านอาหารมีความสำคัญดำรงชีวิตประจำวัน แต่การนั่งร้านอาหารไม่ได้นั่งยาวแบบผับบาร์ เป็นมื้อๆ แล้วก็กลับ การอนุญาตให้ขายสุรา ก็จะดูเรื่องความเหมาะสม และประวัติการเป็นเหตุให้ติดเชื้อ จึงมีความแตกต่างกัน ร้านอาหารมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจและดำรงชีวิต

ถามว่า จะเริ่มผ่อนคลายเมื่อไร นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ระยะที่ 4 ก็น่าจะอยู่ในช่วงกลาง มิ..ถึงสิ้นเดือน มิ.. ก็อาจจะเป็นวันที่ 14 หรือ 15 มิ.. ก็จะเข้าสู่ระยะที่ 4 เต็มที่ ต้องขอบคุณประชาชนที่ให้การติดเชื้อในประเทศไทยยังไม่พบการรายงานมาติดต่อกัน 2 สัปดาห์กว่าๆ แล้ว ก็ขอให้ยาวต่อไปอีก ตอนนี้ก็มีข่าวว่าประเทศจีนยังปิดอยู่ แต่จะให้ท่องเที่ยวกันในประเทศ อย่างประเทศไทยเรา ไทยเที่ยวไทยกันเอง เม็ดเงิน 30% โดยประมาณ ก็สามารถใช้ช่วยกันกระตุ้นเศรษฐกิจได้ คนไทยปราศจากเชื้อ อยู่ด้วยกันเจอกันก็สบายใจ ดีกว่าเห็นคนจากนอกเข้ามาก็ไม่รู้ว่าเอาเชื้อเข้ามาหรือไม่ ถ้าเลยไปเป็นเดือนไปไหนมาไหนก็สบายได้เหมือนเดิม