ดัชนีเชื่อมั่นราคาทองคำเดือนมิถุนายน ลดลงครั้งแรกในรอบปี!

ร้านทองเยาวราช
ดัชนีเชื่อมั่นราคาทองคำ มิ.ย.ลดลงครั้งแรกในรอบปี อยู่ที่ระดับ 60.19 จุด จากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ของหลายประเทศ แนะจับตา COVID-19 ระบาดรอบใหม่-ความตึงเครียดสหรัฐฯ กับจีนกระทบราคาทองคำ

พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยว่า

“ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำเดือนมิถุนายน 2563 อยู่ที่ระดับ 60.19 จุด ปรับลดลง 8.14 จุด หรือคิดเป็น 11.92% จากเดือนพฤษภาคม 2563 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 68.33 จุด โดยลดลงเป็นเดือนแรกของปี ปัจจัยที่ทำให้ดัชนีฯ ปรับลดลงมานั้น มาจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ของหลายประเทศ ความคาดหวังต่อการพัฒนายาต้านเชื้อไวรัส COVID-19 และรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ปรับตัวดีขึ้น นอกจากนี้ คาดการณ์ความต้องการซื้อทองคำช่วงเดือนมิถุนายน 2563 จากกลุ่มตัวอย่าง 314 ตัวอย่าง พบว่า 40.45% ยังไม่ซื้อทองคำเดือนมิถุนายน 2563 ขณะที่ 35.98% ไม่แน่ใจว่าจะซื้อทองคำหรือไม่ และ 23.57% คาดว่าจะซื้อทองคำในช่วงเดือนนี้”

สำหรับการคาดการณ์ราคาทองคำเดือนมิถุนายน 2563 ของผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่มีมุมมองดังนี้ Gold Spot ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 1,668-1,774 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ด้านราคาทองคำแท่งในประเทศความบริสุทธิ์ 96.5% ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 25,100-26,600 บาทต่อน้ำหนัก 1 บาททองคำ และด้านค่าเงินบาทไทยให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 31.22-32.12 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

ด้านการลงทุนทองคำเดือนมิถุนายน 2563 ผู้ค้าทองคำรายใหญ่ให้ความเห็นว่า ราคาทองคำเดือนที่ผ่านมาปรับตัวสูงขึ้นในรอบหลายปี จึงแนะนำให้ลงทุนด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากเมื่อราคาทองคำสร้างระดับสูงสุดใหม่ มักจะมีแรงเทขายทำกำไรทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลง ทั้งนี้ หากราคาทองคำสามารถเคลื่อนไหวอยู่เหนือบริเวณแนวรับที่ 1,668 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ได้ ราคาทองคำอาจมีโอกาสกลับไปทดสอบบริเวณแนวต้านสำคัญที่ 1,765 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์อีกครั้ง

สำหรับปัจจัยราคาทองคำที่ต้องติดตาม ได้แก่

1. สถานการณ์ไวรัส COVID-19 ที่กลุ่มตัวอย่างเห็นว่า นโยบายการผ่อนคลายล็อกดาวน์ เพื่อควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อ ที่เร็วกว่ากำหนดของสหรัฐฯ อาจเพิ่มความเสี่ยงในการระบาดระลอก 2 หรือไม่ ทั้งนี้ ภาวะเศรษฐกิจที่ชะงักงันจากมาตรการปิดเมืองก่อนหน้านี้ ทำให้ปัจจุบันประเทศต่างๆ รวมถึงสหรัฐฯ กลับมาเปิดดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจอีกครั้ง โดยจะทำให้ภาวะทางเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวขึ้นได้หรือไม่

2. สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีน ซึ่งกลุ่มตัวอย่างเห็นว่าสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นของ 2 ประเทศ เป็นผลเกี่ยวเนื่องมาจากสงครามการค้าซึ่งเป็นปัญหาเดิม รวมถึงกรณีสหรัฐฯ กล่าวพาดพิงถึงประเทศจีนว่าเป็นต้นตอการแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งเป็นเหตุให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาตรการทางเศรษฐกิจที่แข็งกร้าวมากขึ้นต่อจีน ขณะที่จีนออกมาปฏิเสธและพร้อมโต้กลับ ซึ่งสร้างความกังวลให้แก่นักลงทุน

Source