Dyson แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าพรีเมียมจากอังกฤษ ประกาศเลย์ออฟพนักงาน 900 คนทั่วโลก หรือคิดเป็น 6.4% ของพนักงานทั้งหมด เนื่องจากโรคระบาด COVID-19 ทำให้ดีมานด์ลูกค้าตกต่ำ โดยกลุ่มอาชีพที่กระทบหนักสุดคือเซลส์ขายหน้าร้านและบริการลูกค้า จากปัญหาโรคระบาดทำให้หน้าร้านต้องปิดดำเนินการ
โฆษกบริษัท Dyson แจ้งนโยบายบริษัทเตรียมปลดพนักงานรวมทั้งหมด 900 คน แบ่งเป็นพนักงานในอังกฤษ 600 คน และพนักงานในประเทศอื่นๆ ทั่วโลกอีก 300 คน ทั้งนี้ บริษัทมีพนักงานทั้งหมด 14,000 คนทั่วโลก ในจำนวนนี้เป็นพนักงานเฉพาะในอังกฤษ 4,000 คน ทำให้การปลดพนักงานครั้งนี้คิดเป็นสัดส่วน 6.4% ของพนักงานทั้งหมด
แบรนด์ Dyson นั้นโด่งดังจากเครื่องดูดฝุ่นพลังสูง ด้วยดีไซน์แปลกใหม่กับเทคโนโลยีไร้สายทำให้เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าขายดี เด่นเรื่องการขายบนหน้าร้านออฟไลน์ตามศูนย์การค้าที่ให้ลูกค้าได้จับสัมผัสเครื่อง และคุยกับพนักงานขายของ Dyson เอง
แต่ด้วยโรคระบาด COVID-19 ทำให้หน้าร้านต้องปิดบริการ และพฤติกรรมลูกค้าก็เปลี่ยนไปช้อปปิ้งบนโลกออนไลน์แทน บริษัทจึงมีความต้องการพนักงานขายหน้าร้านลดลง ในจำนวนตำแหน่งที่ปลดออก 900 คน จะเป็นพนักงานขายหน้าร้านถึง 600 คน
“วิกฤต COVID-19 เร่งให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมลูกค้า เพราะฉะนั้น เราจึงต้องเปลี่ยนวิธีขายและการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าของเราเช่นกัน” โฆษก Dyson กล่าว “เรากำลังพัฒนาองค์กรเพื่อสะท้อนความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เพื่อให้เราไปได้เร็วขึ้น คล่องตัวขึ้น และสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน โดยเราจะสนับสนุนพนักงานที่ได้รับผลกระทบด้วยตำแหน่งงานใหม่อื่นๆ ทดแทนหากเป็นไปได้”
บริษัทแถลงด้วยว่า ที่ผ่านมาบริษัทไม่มีการให้พนักงานพักงานโดยไม่รับเงินเดือน หรือรับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลใดๆ ระหว่างเกิดโรคระบาดครั้งนี้
นอกจากเครื่องดูดฝุ่นแล้ว Dyson ยังขายไดร์เป่าผม พัดลม เครื่องฟอกอากาศ ไปจนถึงระบบแสงสว่าง บริษัทยังก้าวขาสู่วงการรถยนต์ไฟฟ้าด้วย โดยมีข่าวลือออกมาตั้งแต่ปี 2016 อย่างไรก็ตาม เซอร์ เจมส์ ไดสัน เปิดเผยเมื่อปลายปีก่อนว่า โปรเจกต์รถยนต์ไฟฟ้าที่บริษัทพัฒนา “ไม่สามารถใช้งานในเชิงพาณิชย์ได้” จนบริษัทอาจจะต้องพับแผนไปทั้งที่ลงทุนไปแล้วกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ