งานมหกรรมการเงินระยอง ครั้งที่ 2 Money Expo Rayong 2020 จัดงานแบบ Hybrid ต่อเนื่อง รวมยอดธุรกรรมออฟไลน์และออนไลน์ 3 วันกว่า 4,000 ล้านบาท สินเชื่อบ้านยอดฮิตกว่า 1,350 ล้านบาท ประชาชนสนใจทำประกันชีวิตเพิ่มมูลค่าเงินออม ซื้อประกันภัย/ประกันสุขภาพเคลมค่ารักษาพยาบาลทุนประกันรวมกว่า 1,300 ล้านบาทโครงการ EEC หนุนยอดกู้เอสเอ็มอีกว่า 400 ล้านบาท
นางสาวภาคนี วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานจัดงานร่วม งานมหกรรมการเงินระยองครั้งที่ 2 Money Expo Rayong 2020 ภายใต้แนวคิด “Wealth Being”วันที่ 4-6กันยายน 2563 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ระยองเปิดเผยว่า งานมหกรรมการเงินระยองซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ได้รับการตอบรับจากประชาชนและนักธุรกิจในจังหวัดระยองและจังหวัดในภาคตะวันออกเป็นอย่างดีอีกครั้งทำให้การจัดงาน 3 วันมียอดธุรกรรมการเงินการลงทุนรวม 4,023 ล้านบาท จากผู้สมัครใช้บริการภายในงานกว่า 10,600 ราย
นางสาวภาคนีกล่าวว่า ผู้ที่เข้ามาใช้บริการในงานมหกรรมการเงินระยอง เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง โดยประชากรในจังหวัดระยองมีรายได้เฉลี่ยสูงเป็นอันดับ 1 ของประเทศกว่า 1,095,000 บาทต่อปี และมีผลิตภัณฑ์มวลรวมของจังหวัดกว่า 984,000 ล้านบาทสูงเป็นอันดับ 2รองจากกรุงเทพฯประกอบกับปีนี้เป็นการจัดงานในรูปแบบHybrid Exhibition ที่ประชาชนสามารถใช้บริการทางการเงินและการลงทุนได้อย่างทั่วถึง ทั้งแบบออฟไลน์ที่เดินทางมาทำธุรกรรมภายในงานและแบบออนไลน์ที่ทำธุรกรรมผ่านแฟลตฟอร์ม Money Expo Onlineส่งผลให้ธนาคารและสถาบันการเงินที่เข้าร่วมงานต่างพอใจในยอดธุรกรรมและได้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ แม้ว่าจะอยู่ในช่วงที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด -19
“ลูกค้าส่วนใหญ่ที่สมัครใช้บริการเป็นกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน มีรายได้ 25,000-100,000 บาทต่อเดือน มีทั้งที่เป็นพนักงานเอกชนในนิคมอุตสาหกรรม และนักธุรกิจ ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของธนาคาร จึงมีโอกาสได้รับการอนุมัติค่อนข้างสูง”
สำหรับธุรกรรมที่มีผู้สมัครใช้บริการสูงเป็นอันดับ 1 คือสินเชื่อบ้านและรีไฟแนนซ์บ้าน รวมวงเงินกว่า 1,350 ล้านบาท จากโปรโมชั่นอัตราดอกเบี้ยต่ำเริ่มต้น 0% พร้อมเงื่อนไขพิเศษเฉพาะในงาน เช่น การยกเว้นค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ ค่าประเมินราคาค่าจดจำนอง เป็นต้นซึ่งประชาชนที่ยื่นขอกู้สินเชื่อบ้านในงานยังสามารถรู้ผลอนุมัติเบื้องต้นได้ทันที
ปีนี้ผลิตภัณฑ์ประกันได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานเป็นอย่างมาก ส่งผลให้มียอดธุรกรรมสูงเป็นอันดับ 2รวมทุนประกันมูลค่ากว่า 1,300 ล้านบาทโดยในส่วนของประกันชีวิต แบบประกันที่ลูกค้าให้ความสนใจมากในปีนี้คือ แบบประกันสะสมทรัพย์ จ่ายเบี้ยระยะสั้น แต่ให้ความคุ้มครองระยะยาวถึงอายุ 90 ปี โดยให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากและสามารถนำไปใช้สิทธิ์ในการลดหย่อนภาษี นอกจากนี้ยังมีแบบประกันยูนิตลิงค์ที่มีการการันตีผลตอบแทนถึง 1% ต่อปีหากทำประกันภายในสิ้นปีนี้ จากนั้นการันตีผลตอบแทนปีละ 1%
สำหรับประกันภัย แบบประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) ที่คุ้มครองกรณีเสียชีวิต ทุพพลภาพและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ รวมทั้งมีการชดเชยรายได้ให้กับครอบครัวมีสัดส่วนมากกว่า 50% รองลงมาคือแบบประกันสุขภาพโรคร้ายแรง ประกันภัยรถยนต์ ประกันอัคคีภัยสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม ขณะเดียวกันได้มีการนำเสนอแบบประกันภัยที่ได้ขยายระยะเวลาความคุ้มครองไปจนถึงอายุ 100 ปีด้วย รวมทั้งยังมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ซื้อประกันในงานโดยเฉพาะ เช่นรับฟรีGift Voucher 1 แสนบาท,iPhone11Pro, ทองคำแท่งหนัก 1 บาท, บัตรของขวัญเทสโก้ โลตัส ตามเบี้ยประกันที่กำหนด เป็นต้น
สินเชื่อเอสเอ็มอี มีผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ยื่นขอกู้ในงานสูงเป็นอันดับ 3 รวมวงเงินกว่า 430 ล้านบาทซึ่งได้รับอานิสงส์จากโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ทำให้มีความต้องการลงทุนในหลายประเภทธุรกิจ เช่น ธุรกิจบริการอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตต่างๆโดยธุรกิจเอสเอ็มอีในพื้นที่ภาคตะวันออกถือว่ากลับมาฟื้นตัวได้ค่อนข้างดี
ภายในงานมีผู้สมัครทำบัตรเครดิตกว่า 4,000 ราย รวมวงเงินกว่า 360 ล้านบาท ด้านสินเชื่อบุคคลและสินเชื่อเงินสดมียอดรวมกว่า 170ล้านบาท จากผู้สมัครจำนวนกว่า 1,200 ราย
ส่วนผลิตภัณฑ์การออมและการลงทุนก็ได้รับความสนใจเช่นเดียวกัน โดยมีการฝากเงิน/ซื้อสลากออมทรัพย์/ลงทุนในกองทุนรวมกว่า 70 ล้านบาทผู้เข้าชมงานยังได้เปิดบัญชีซื้อขายหุ้น/ตราสารอนุพันธ์/ทองคำกว่า 300 บัญชีและสมัครใช้บริการออนไลน์และดิจิทัล เช่น บริการอินเทอร์เน็ตแบงกิ้ง โมบายล์แบงกิ้ง บริการพร้อมเพย์อีกกว่า 400 ราย
สำหรับงานมหกรรมการเงินครั้งต่อไป คือ งานมหกรรมการเงินอุดรธานี ครั้งที่ 8 Money Expo Udonthani 2020ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 9-11 ตุลาคม 2563ที่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา อุดรธานี