ช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ‘การ์ทเนอร์’ ได้ออกมาประเมินถึงภาพรวมการลงทุนด้านไอทีของไทยและทั่วโลก โดยคาดว่าจะติดลบเพราะพิษ COVID-19 ดังนั้นลองไปดูตลาดในมุมของแบรนด์อย่าง ‘เอเซอร์’ (Acer) กันบ้าง ว่าตลาดไอทีปีนี้จะเป็นอย่างไร เมื่อมีปัจจัยในฝั่งของผู้บริโภคทั่วไปเข้ามาเกี่ยวข้อง
ครึ่งปีแรกติดลบ แต่ได้ครึ่งปีหลังช่วยกลบ
ในปีที่ผ่านมาภาพรวมตลาดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กมียอดขายราว 2.3 ล้านเครื่อง เติบโตประมาณ 3% แต่ในปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับเดิมไม่เติบโต เนื่องจากกลุ่มลูกค้าองค์กรหรือ B2B ทั้งภาครัฐและเอกชนอาจติดปัญหาเรื่องจัดซื้อจัดจ้าง รวมถึงชะลอการลงทุน ส่งผลให้ครึ่งปีแรกตลาดติดลบ -7% แต่ด้วยอานิสงส์ของเทรนด์ Work from Home การเรียนออนไลน์ และเกมมิ่ง ที่ยังมีอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเห็นสัญญาณการลงทุนจากภาคการศึกษา ดังนั้นเชื่อว่ายอดขายในช่วงครึ่งปีหลังจะช่วยทดแทนส่วนที่หายไปในช่วงครึ่งปีแรกได้
“เอเซอร์เองคงไม่ได้จะสามารถเติบโตไปกว่าตลาดได้ เพราะแม้ว่าเราจะเห็นความต้องการ แต่ต้องยอมรับว่าเรื่องซัพพลายมีปัญหา โดยในช่วง COVID-19 ระบาดใหม่ ๆ ซัพพลายลดเหลือ 25% และแม้ปัจจุบันจะฟื้นในระดับ 80% แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ” นิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าว
ไม่มีสงคราม ราคา แน่นอน
เนื่องจากซัพพลายที่ยังไม่พร้อม 100% แต่ตลาดยังมีความต้องการ ดังนั้น ไม่มีความจำเป็นต้องมาตัดราคากัน สงครามราคาจึงไม่เกิดขึ้นแน่นอน ขณะที่ราคาเฉลี่ยของสินค้าในปีนี้ก็อยู่ที่ 22,000 บาท สูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาเล็กน้อยราว 1,000 บาท เนื่องจากลูกค้าเลือกสินค้าที่ตรงตามการใช้งาน ซึ่งจุดแข็งของเอเซอร์ คือ มีสินค้าตอบโจทย์ในทุก segment ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่วไป, กลุ่มบางเบา, เกมมิ่งแบบเริ่มต้น, เกมมิ่งแบบฮาร์ดคอร์ ปัจจุบันสัดส่วนรายได้มาจากเครื่องทั่วไป 25% กลุ่มบางเบา 50% และเกมมิ่ง 25% ซึ่งเกมมิ่งสามารถเติบโตกว่า 50% ในช่วง COVID-19
“บางบ้านปกติจะมีคอมพิวเตอร์กลางไว้แบ่งกันใช้งาน แต่พอต้องอยู่บ้านพร้อมกัน คอมฯ เครื่องเดียวก็ไม่พอ ดังนั้นเขาจึงต้องซื้อเพิ่มโดยเลือกใช้จากความต้องการของแต่ละคน ดังนั้นพนักงานเราจะถามทุกครั้งว่าต้องการซื้อไปใช้งานด้านไหน”
เกาะกระแส Work from Home ผุดแคมเปญ Work Anywhere
ต้องยอมรับว่าเพราะ COVID-19 ทำให้บริษัทต้องลดงบทำการตลาดลง 15% แต่ล่าสุดได้ออกแคมเปญใหม่ ‘Work Anywhere, Travel Together’ ซึ่งเป็นแคมเปญระดับโลก โดยเอเซอร์จับมือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภายใต้โครงการ Amazing Thailand โดยชวนคนไทยออกเที่ยวทั่วไทย วันไหนก็เที่ยวได้ ทำงานได้ในทุกที่ ทุกเวลาในแบบดิจิทัลไลฟ์สไตล์ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้างสีสันให้แก่การท่องเที่ยวไทย เนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเข้ามาท่องเที่ยวในเมืองไทยลง ส่งผลให้ GDP ลดลงอีก 0.5%
นอกจากนี้ยังร่วมกับอินเทล จัดโปรโมชันลุ้นโชคสำหรับผู้ที่ซื้อผลิตภัณฑ์ Acer, Predator หรือ ConceptD ที่มี Intel Processor และลงทะเบียนสินค้าผ่าน Inbox Facebook : Acer Thailand สามารถรับสิทธิลุ้นรางวัลแพ็กเกจตั๋วเครื่องบินไป-กลับ พร้อมที่พัก 3 วัน 2 คืน ณ DEVASOM Sky Villa จ.พังงา พร้อมดินเนอร์สุดหรู (สำหรับ 4 ท่าน) จำนวน 1 รางวัล มูลค่า 120,000 บาท รางวัลรองลงมาเป็น Acer Swift 3 โน้ตบุ๊ก จำนวน 20 รางวัลๆ ละ 23,990 บาท และรางวัลบัตรกำนัล Voucher ที่พักรถบ้าน (สำหรับ 2 ท่าน) จำนวน 100 รางวัลๆ ละ 6,000 บาท
“นี่ไม่ใช่แคมเปญ CSR เป็นแคมเปญการตลาด ซึ่งเราก็หวังผลและมองว่าคนไทยปรับตัวได้ดีกับเทรนด์ Work from Home ดังนั้นเชื่อว่า Workcation ทำได้จริง แต่ขึ้นอยู่กับองค์กรจะปรับตัวแค่ไหน และสุดท้าย ถ้าเฟืองไม่หมุน คนไม่มีกำลังซื้อทุกส่วนก็กระทบหมด ดังนั้นต้องช่วยกันกระตุ้น”
ทั้งนี้ กำหนดจับรางวัล วันที่ 5 พฤศจิกายน 2563 เวลา 14.00 น. ณ ศูนย์บริการเอเซอร์ ศูนย์การค้าเซียร์รังสิต ประกาศผลทาง www.acerthailand.com ในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2563 ตั้งแต่เวลา 10.00 น