ในอดีต การแข่งขันของโอเปอเรเตอร์หรือผู้ให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคม ก็จะวัดกันที่สัญญาณใครดีกว่า เร็วกว่า ครอบคลุมกว่า เพื่อที่จะขายซิมกับมือถือ แต่ในยุคของ ‘5G’ ไม่ได้แข่งขันกันเพียงเรื่องนั้น แต่ต้องเป็น complete digital lifestyle ecosystem หรือต้องมีทั้งเทคโนโลยีนวัตกรรม และแพลตฟอรมอัจฉริยะ ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นสิ่งที่ ‘ทรู’ พยายามจะสื่อสารมาโดยตลอด
คลื่นพร้อม นวัตกรรมพร้อม พรีเซ็นเตอร์พร้อม
หากพูดถึงเรื่องคลื่นความถี่ของทรู แน่นอนว่ามีครบและครอบคลุมมากที่สุดรวม 7 ย่านความถี่ โดยมีคลื่น 700 MHz, 850 MHz และ 900 MHz ที่เป็นคลื่นย่านต่ำ คลื่น 1800 MHz, 2100 MHz, 2600 MHz ที่เป็นย่านกลาง และ 26 GHz ที่เป็นคลื่นย่านสูง สามารถใช้งาน 5G ได้ครบ 77 จังหวัด
พร้อมกับมีรางวัลการันตีว่าเป็น ‘ผู้ให้บริการอันดับ 1 ในเอเชียแปซิฟิก’ 4 ปีซ้อนจาก nPerf และนอกจากนี้ ครอบคลุมกว่า ด้วยผลิตภัณฑ์และบริการที่ครอบคลุม digital lifestyle เช่น True ID, True Money Wallet, true VWORLD, TrueYou, ฯลฯ
ด้วยความพร้อมในทุก ๆ ด้าน การจะยกระดับประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะนั้นไม่ใช่แค่ภาพความฝันอีกต่อไป โดยทรูพร้อมให้คนไทยได้สัมผัสประสบการณ์ของชีวิตอัจฉริยะ Come True with TRUE5G ผ่านคอนเซ็ปท์ภาพยนตร์โฆษณา THE INVITATION TO THE INTELLIGENT 5G WORLD ผ่านพรีเซ็นเตอร์ทั้ง 3 คน ได้แก่
‘เฌอปราง อารีย์กุล’ ตัวแทนของความรู้ไม่รู้จบ (Infinite Knowledge #ComeTRUE)
‘ไอซ์-พาริส อินทรโกมาลย์สุต’ แรงบันดาลใจแบบไร้ขอบเขต (Limitless Inspiration #ComeTRUE)
‘ไบร์ท-วชิรวิชญ์ ชีวอารี’ กับการค้นพบประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่ทุกอย่างเป็นจริงได้ (New Discovery #ComeTRUE
เมืองอัจฉริยะ ที่เป็นแล้วในปัจจุบัน
หากลองแกะตัวภาพยนตร์โฆษณา แม้ภาพจะสื่อสารถึงความล้ำสมัยของเทคโนโลยี แต่ในความเป็นจริงนั้น ทุกเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นล้วนแล้วแต่ ‘ใช้ได้จริง’ อย่างในพาร์ทแรกที่สื่อสารถึงความเป็นสมาร์ทซิตี้ที่เราได้เห็นนวัตกรรมล้ำ ๆ มากมาย ซึ่งสามารถใช้ได้จริงแล้วทั้งสิ้น
อาทิ True 5G PatrolBot หุ่นตรวจความปลอดภัย และสามารถใช้ในการเตือนคนให้สวมหน้ากากอนามัยได้, True 5G Temi Connect & CareBot คัดกรองผู้ป่วยเบื้องต้น พร้อมให้ข้อมูลและบริการที่เป็นประโยชน์, True 5G Security Drone โดรนตรวจสอบเรื่องความปลอดภัยและสุขอนามัย, True 5G Security Camera ที่จะช่วยรักษาความปลอดภัยได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ความเร็วอัจฉริยะ ที่ช่วยให้เข้าถึงได้มากกว่า
เป็นที่รู้กันว่าศักยภาพของ 5G นั้นมีความเร็วกว่า 4G 10-20 เท่า มีความหน่วงต่ำกว่า 10 มิลลิเซคคั่น (MS : Millisecond) และ 5G สามารถรองรับปริมาณดีไวซ์ได้มากกว่า 4G ที่จะทำให้ทุกอย่างเร็วขึ้นมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการโหลดเนื้อหาหรือทำธุรกรรมเองก็ตาม ส่งผลให้การใช้งานคอนเทนต์ที่ต้องการความเร็วสูงอย่าง VR, AR สามารถทำได้อย่างลื่นไหล โดยทรูเองก็มี True 5G VR คอนเทนต์ VR ให้ชมฟรีถึงสิ้นปีเลยทีเดียว
และในด้านของ AR ทางทรูและพาร์ทเนอร์เองก็ได้เตรียมพร้อมเอาไว้ให้ลูกค้าได้ใช้งานผ่าน True 5G AR Application ที่เพียงแค่เอามือถือส่องโลโก้ร้าน ก็จะขึ้นสิทธิประโยชน์มากมาย เช่น ทรูคอฟฟี่ และร้านค้าอื่น ๆ ที่ร่วมรายการอีกมากมาย เรียกได้ว่า ง่ายและสะดวกเหมือนในหนังเลยทีเดียว
การเกษตร และปศุสัตว์อัจฉริยะ
เพราะ 5G ไม่ได้เข้ามาช่วยแค่ชีวิตคนเมืองให้ง่ายขึ้น แต่สามารถประยุกต์ใช้ได้อย่างหลากหลาย โดยที่ผ่านมาทรูร่วมกับ ม.ขอนแก่น เพื่อพัฒนาระบบเกษตรอัจฉริยะ ทำงานร่วมกับ 5G เข้ากับอุปกรณ์ IoT ในการตรวจสอบสภาพดินฟ้าอากาศ การใช้โดรนใช้บริหารจัดการแปลงข้าวโพด ตรวจสอบคุณภาพ ฯลฯ
นอกจากนี้ ในส่วนของการทำปศุสัตว์ ทางทรูก็ได้ทำ Cow Monitoring ผ่านอุปกรณ์ติดใบหูของสัตว์ และส่งข้อมูลมาเพื่อวิเคราะห์พฤติกรรม เช่น รอบการผสมพันธุ์, รูปแบบการเคี้ยวเอื้อง, อารมณ์ของวัว, ฯลฯ ทำให้เจ้าของฟาร์มหรือสัตวแพทย์ สามารถวิเคราะห์สุขภาพของสัตว์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การศึกษาอัจฉริยะ
ในช่วงเวลา COVID-19 ที่หลายคนต้องหยุดอยู่บ้าน ทางทรูเองก็ได้เปิดตัว VROOM ระบบห้องประชุมเสมือนจริง ที่สามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ตั้งแต่เรื่องงาน, เรื่องเรียน, ความบันเทิงและไลฟ์สไตล์ และการมาของ 5G จะทำให้ไม่ต้องพึ่งพา Wi-Fi อีกต่อไป
นอกจากนี้ยังมีแอปพลิเคชั่น Bookful by True Vbook หรือจะเป็นแพลตฟอร์มเพื่อการศึกษาอย่าง Vlearn ที่สามารถบริหารจัดการการศึกษา และการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ผู้เขียนและผู้สอนสามารถ ส่งไฟล์งาน สั่งงาน ส่งการบ้าน และนำเสนองานได้ผ่านในช่องทางเดียว
จากทุกบริการที่เห็นในโฆษณานั้นแสดงให้เห็นว่า ‘ทรู’ ในปัจจุบันไม่ใช่เพียงแค่ผู้ให้บริการเครือข่าย แต่กำลังยกระดับสู่การเป็นการเชื่อมต่ออัจฉริยะที่พร้อมยกระดับประเทศไทยอย่างแท้จริง