เศรษฐกิจเวียดนาม ยังโตสวนกระเเสโลก GDP ไตรมาส 3 เติบโต 2.62% จากอานิสงส์การส่งออก ทำให้ช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้เฉลี่ยโตที่ 2.12% เกินเป้าที่รัฐบาลคาดไว้ที่เเค่ 2% อย่างไรก็ตาม ไตรมาสนี้ถือว่าเป็นอัตราการขยายตัวต่ำที่สุด นับตั้งเเต่ปี 2011
สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 3 ขยายตัว 2.62% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ของบลูมเบิร์กคาดไว้ที่ 2.7% เเต่ก็ยังโตกว่าที่รัฐบาลคาดไว้ที่ 2%
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจของเวียดนามยังขยายตัวได้ท่ามกลางพิษ COVID-19 เนื่องจากอุตสาหกรรมการผลิต และการส่งออกเริ่มกลับมาฟื้นตัว โดยในส่วนการส่งออกเพิ่มมากถึง 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้น 11.6%
นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อในช่วง 9 เดือนแรกของเวียดนามยังอยู่ที่ 3.85% ใกล้เคียงกับเป้าหมายของรัฐบาลที่ตั้งไว้ที่ระดับ 4%
มาตรการควบคุม COVID-19 ที่มีประสิทธิภาพของเวียดนาม ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ กลับมาดำเนินการได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป หลังจากที่ไตรมาส 2 นั้น GDP ขยายตัวเพียง 0.36% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่เเล้วที่ขยายตัวถึง 6.73% โดยถือว่าเป็นการเติบโตที่ต่ำที่สุดในรอบ 3 ทศวรรษ นับตั้งเเต่มีการเริ่มเผยแพร่ตัวเลข GDP ในปี 1991 อย่างไรก็ตาม ก็ยังถือว่าสวนกระเเสเศรษฐกิจโลกที่หลายประเทศต้องติดลบหนัก
เศรษฐกิจเวียดนามนั้น พึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก เเละได้ประโยชน์อย่างมากจาก “สงครามการค้าจีน–สหรัฐฯ” ในช่วงตลอด 2 ปีที่ผ่านมา โดยในไตรมาสที่ 4 รัฐบาลเตรียมที่จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เพื่อทดเเทนภาคการท่องเที่ยว ที่คิดเป็นน้อยกว่า 10% ของ GDP ซึ่งกำลังอยู่ในสถานการณ์ย่ำเเย่ หลังต้องห้ามนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศมาในเดือนมีนาคม และยังไม่มีวี่แววจะเปิดรับชาวต่างชาติในขณะนี้
ธนาคารโลกคาดการณ์ไว้ว่า เศรษฐกิจเวียดนามจะขยายตัว 2.8% ในปีนี้ ขณะที่รัฐบาลเวียดนามตั้งเป้าไว้ก่อนการแพร่ระบาดของ COVID-19 ไว้ที่ 6.8%
ทั้งนี้ เวียดนามมียอดผู้ป่วยโรค COVID-19 สะสมล่าสุดเพียง 1 พันคนเท่านั้น มียอดผู้เสียชีวิต 35 คน และไม่มีการติดเชื้อในพื้นที่ชุมชนมาเกือบหนึ่งเดือนแล้ว
ที่มา : Nikkei Asian Review , Bloomberg