การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 กลับทำให้บริษัทผู้ผลิตของเล่นปังแบบงง ๆ เนื่องจากมีมาตรการล็อกดาวน์และเลื่อนเปิดเทอม ทำให้เด็ก ๆ ต้องอยู่ที่บ้านมากขึ้น พ่อแม่จึงต้องต่อกรกับเด็ก ๆ ที่บ้าน ซึ่งส่งผลให้ยอดขายตัวต่อเลโก้, ตุ๊กตาบาร์บี้ และเกมกระดานต่าง ๆ เพิ่มสูงขึ้น
อุตสาหกรรมของเล่นของสหรัฐฯ เติบโตขึ้น 16% ในช่วงหกเดือนแรกของปีตามรายงานของบริษัท วิจัยตลาด NPD Group และคาดว่าการเติบโตจะยังคงดำเนินต่อไป เนื่องจากเกือบตลอดทั้งปีเด็ก ๆ ถูกกันไม่ให้เจอเพื่อนหรือออกไปเล่นในสวนสาธารณะ รวมถึงต้องงดจัดงานวันเกิด ส่งผลให้พ่อแม่ต้องพยายามทำให้เต็มที่ในช่วงวันหยุด
“เมื่อถึงเวลาปิดเทอมพ่อแม่จะลดความสำคัญของตัวเอง และไปทุ่มความสำคัญกับลูก ๆ เพื่อให้พวกเขาทำสิ่งต่าง ๆ ให้เป็นปกติที่สุด” จิม ซิลเวอร์ ซีอีโอและหัวหน้าบรรณาธิการของอุตสาหกรรมของเล่นกล่าว
ปีที่แล้วยอดค้าปลีกในช่วงวันหยุดเพิ่มขึ้น 3.7% เมื่อเทียบกับปี 2018 ซึ่งมีสูงกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรกตามรายงานของบริษัทวิจัยตลาด eMarkerter ที่เผยแพร่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และคาดการณ์ว่ายอดขายในช่วงวันหยุดปี 2020 จะเพิ่มขึ้นประมาณ 14% หรืออย่างเลวร้ายที่สุดก็เท่ากับปีที่แล้ว แม้ว่าจะมีปัจจัยเรื่องคนตกงานก็ตาม
ทั้งนี้ ร้านค้าปลีกส่วนใหญ่กำลังขยายเวลาโปรโมชันอย่าง Black Friday และ Cyber Monday ให้นานขึ้นหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน ทำให้ผู้ซื้อมีโอกาสมากขึ้นในการเลือกซื้อสินค้ารับวันหยุด ขณะที่ร้านขายของกำลังเดินตามผู้ค้าปลีกรายใหญ่ในการกระตุ้นให้ครอบครัวอย่าพลาดการช้อปปิ้งในช่วงวันหยุดผ่านช่องทางออนไลน์แทน เนื่องจากการช้อปปิ้งออนไลน์กลายเป็นกระแสหลักมากขึ้นกว่าเดิม
“คุณจะเห็นยอดขายออนไลน์ถึงระดับที่ไม่เคยมีมาก่อนในอุตสาหกรรมของเล่น” ซิลเวอร์ กล่าวเพิ่ม
อย่างปีที่แล้ว “Frozen II” และ “Star Wars: The Rise of Skywalker” เข้าฉายทั่วประเทศในช่วงเทศกาลวันหยุดซึ่งกระตุ้นยอดขายของเล่นสำหรับเด็กที่เป็นแฟนแฟรนไชส์ทั้งสอง แต่ในปีนี้สตูดิโอได้เลื่อนวันเปิดตัวสำหรับภาพยนตร์ภาคต่ออย่าง “Wonder Woman 1984” ,“Minions: Rise of Gru” และ “Black Widow” แต่นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าตัวละคร Marvel ในภาพยนตร์ Avengers EndGame ยังคงทำได้ดีพอสมควรเนื่องจากไม่มีสิ่งใหม่ ๆ ที่เบนดึงความสนใจของเด็ก ๆ