เจาะลึกแนวคิด ‘วชิระชัย คูนำวัฒนา’ ผู้บริหารธุรกิจ LIVING SOLUTION BUSINESS จาก SCG ยกระดับงานสิ่งปลูกสร้างในยุค Next Normal Living

อาคารที่มีสุขภาพดีต้องดูแลตัวเอง ผู้ใช้งาน ให้แข็งแรงและมีความสุข อาคารในประเทศไทยจำนวนไม่น้อย ที่เข้าใจวิถีความเป็นอยู่ และความต้องการของผู้คนในสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป สู่การตัดสินใจปรับเปลี่ยนจากอาคารในรูปแบบเดิม เป็นอาคารที่ให้สุขภาวะที่ดีขึ้นต่อผู้ใช้งาน ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อการประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมรวมทั้งการดูแล “คน” ในพื้นที่ทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นอาคารพาณิชย์, ห้างสรรพสินค้า, โรงพยาบาล หรือที่อยู่อาศัย ให้อยู่อย่างแข็งแรงและมีความสุข รวมถึงให้ความสำคัญต่อชุมชนโดยรอบด้วยเช่นกัน

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การรักษาสิ่งแวดล้อมและพลังงานถือเป็นเมกะเทรนด์ที่ทั่วโลกต่างให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งประเทศไทยเองก็มีความตื่นตัวในเรื่องสิ่งแวดล้อม รวมถึงการอยู่อาศัยที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตมากขึ้นเรื่อยๆ

กลายเป็นความท้าทายของวิศวกรและนักออกแบบโครงสร้าง และสถาปัตยกรรมที่ต้องคำนึงถึงระบบนิเวศน์สิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนของธรรมชาติในการปลูกสร้างเป็นสำคัญ โดยให้เป้าหมายในการออกแบบต้องส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด และในขณะเดียวกันยังช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่น่าอยู่มีผลดีต่อสุขภาพความเป็นอยู่ของผู้อยู่อาศัย

จะเห็นได้ว่าในปัจจุบันก็มีองค์กรไม่น้อย ที่ให้ความสำคัญต่องานก่อสร้างอาคารและเลือกลงทุนในด้านการพัฒนาอาคารเพื่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้นซึ่งนับเป็นแนวโน้มที่ดีต่อทั้งสิ่งแวดล้อมโดยรวมสังคมและภาคธุรกิจ ที่มีส่วนช่วยสร้างความสมดุลให้เกิดขึ้นจริงอย่างเป็นรูปธรรม

“อาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมไม่ได้มีจุดเด่นเพียงแค่การเป็น “อาคารประหยัดพลังงาน” เท่านั้น แต่ยังเป็นอาคารที่ออกแบบเพื่อสร้างความยั่งยืนโดยคำนึงถึงความสมดุลระหว่างผู้คน สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และความเป็นอยู่โดยรอบ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน จากการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อช่วยให้อาคารสามารถใช้ประโยชน์จากสภาวะแวดล้อมตามธรรมชาติและสร้างสมดุลระหว่างการประหยัดพลังงานและการอยู่อาศัย”

เป็นมุมมองของ ‘วชิระชัย คูนำวัฒนา’ Head of Living Solution Business ในธุรกิจซีเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้างเอสซีจี โดยมีบทบาทใหม่ได้เข้ามาบริหารและพัฒนาธุรกิจLIVING SOLUTION BUSINESSเพื่อยกระดับที่อยู่อาศัย อาคาร และ สิ่งปลูกสร้างด้วยโซลูชั่นที่มีศักยภาพมุ่งเน้นในด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาวะที่ดีเพื่อส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับผู้อยู่อาศัยและชุมชนโดยรอบ

จากความเชี่ยวชาญสู่การนำกลยุทธ์ต่อยอดธุรกิจอาคาร สิ่งปลูกสร้าง ด้วยการมองเห็นโอกาสในวิกฤตที่ผ่านมา ท่ามกลางความท้าทายและได้ศึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในด้านพฤติกรรม ความต้องการ ตลอดจนความเป็นอยู่ในปัจจุบัน ที่คนส่วนใหญ่ต่างให้ความสำคัญ จนกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ของการใช้ชีวิต ในยุค Next Normal Living

ยกระดับคุณภาพชีวิต และ การอยู่อาศัย สู่ยุค Next Normal Living

Next Normal Living นิยามของการให้ความสำคัญตั้งแต่การอยู่อาศัย ตลอดจนการใช้ชีวิตประจำวัน จากการใช้ชีวิตในแบบแผนเดิม ๆ สู่การปรับตัว เพื่อพร้อมรับกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นซ้ำอีกในอนาคต ไม่เพียงตัวเราที่ต้องปรับ แต่ยังรวมถึงสภาพแวดล้อมรอบด้าน ที่ต้องเอื้อต่อความต้องการด้วยเช่นกัน ดังนั้น อาคาร หรือสิ่งปลูกสร้าง ควรตอบโจทย์ให้ตรงกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เพื่อยกระดับด้านคุณภาพชีวิตผู้คนให้ดียิ่งขึ้น ทั้งในด้านความปลอดภัย ความสะอาด และความสะดวกสบาย ด้วยเทคโนโลยีทันสมัยที่เข้ามารองรับ

LIVING SOLUTION BUSINESS จาก SCG ต่อยอดโมเดลธุรกิจเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น

ด้วยนวัตกรรมและโซลูชั่นที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์แนวคิด ‘Living’ ตั้งแต่การให้คำปรึกษาและออกแบบก่อสร้างอาคารสิ่งปลูกสร้าง ทั้งอาคารที่ใช้งานอยู่เดิมและอาคารสร้างใหม่ ตลอดจนชุมชนและสิ่งแวดล้อมโดยรอบอาคารอย่างเป็น Eco-system ตามหลัก Next Normal Living บริบทการใช้ชีวิตในอนาคตโดยพัฒนา 2 โมเดลธุรกิจใหม่ได้แก่ SCG Building & Living Care Consulting ธุรกิจบริการให้คำปรึกษาด้านสิ่งปลูกสร้างโดยผู้เชี่ยวชาญและ Smart Building Solution ธุรกิจผู้ให้บริการโซลูชั่นงานระบบวิศวกรรมอาคารแบบครบวงจรทั้งในด้านคุณภาพอากาศเพื่อความปลอดภัยทั้งยังประหยัดพลังงานเพื่อเสริมด้านคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมให้เกิดความสมดุล

“SCG เรามีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน โดยได้นำองค์ความรู้ ทำการศึกษาและวิจัยอย่างลึกซึ้ง เพื่อค้นหานวัตกรรมโซลูชั่น ผนวกเข้ากับเทคโนโลยี IOT ที่ทันสมัย เพื่อตอบโจทย์ได้ทั้ง eco system ทั้งยังสามารถ ปิด gap ที่เป็น pain point ของลูกค้า อย่างเป็นที่น่าพอใจ”

SCG Building & Living Care Consulting พร้อมยกระดับมาตรฐานการก่อสร้างไทย

ธุรกิจบริการให้คำปรึกษาด้านสิ่งปลูกสร้างโดยผู้เชี่ยวชาญ ช่วยยกระดับมาตรฐานการก่อสร้างไปสู่อาคารที่ลดการใช้พลังงานและทรัพยากรธรรมชาติตั้งแต่ขั้นตอนการก่อสร้างไปจนถึงการใช้งานอย่างคุ้มค่าด้วยบริการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น บริการให้คำปรึกษาเพื่อขอรับรองมาตรฐานอาคารเขียว (Green Building) ตามมาตรฐาน LEED  DGNBและTREES, บริการให้คำปรึกษาเพื่อขอรับรองมาตรฐานอาคารเพื่อการมีสุขภาวะที่ดี (Well-Being Building) ตามมาตรฐาน fitwel และ WELL, บริการให้คำปรึกษาเพื่อทำอาคารประหยัดพลังงานที่มีการวิเคราะห์และปรับปรุงประสิทธิภาพด้านพลังงาน (Energy Management Services) และ การบริการออกแบบและปรึกษาอาคารเพื่อผู้สูงอายุและคนทุกวัย (Universal Design)

“ในช่วงที่ผ่านมา เอสซีจีได้เริ่มแนวคิดธุรกิจที่ปรึกษาอาคาร ซึ่งได้ให้บริการไปแล้ว 130 อาคาร โดย 80 อาคารเป็นเรื่องมาตรฐานอาคารเขียว และ 50 อาคารใช้บริการด้านอาคารเพื่อการมีสุขภาวะที่ดี ประหยัดพลังงานและอาคารเพื่อผู้สูงอายุและคนทุกวัย”

Smart Building Solution ชูโซลูชั่นและเทคโนโลยีเชื่อมต่อทั้งระบบอาคารให้เป็นหนึ่งเดียว

ธุรกิจที่ให้บริการด้านโซลูชั่นงานระบบวิศวกรรมอาคารแบบครบวงจรด้วยเทคโนโลยีและเชื่อมต่อการทำงานต่างๆตั้งแต่การให้บริการออกแบบติดตั้งเทคโนโลยีในหมวดพลังงานในอาคารปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในอาคาร (Indoor Air Quality) รวมทั้งเทคโนโลยีเพื่ออาคารอัจฉริยะ (Smart Building) ด้วยอุปกรณ์ Internet of Things (IoT) โดยเฉพาะเทคโนโลยีในส่วนของระบบปรับอากาศและระบายอากาศเพื่อช่วยยกระดับคุณภาพอากาศภายในอาคารอย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ Energy WELL Series ระบบที่ช่วยลดพลังงานในการปรับอากาศและปรับปรุงสภาพอากาศในเวลาเดียวกันด้วยวิธีการดักจับก๊าซ CO2 และ Indoor Pollutant 30 ชนิด, Energy CARE Series การใช้เทคโนโลยีDigital และ IoT แบบไร้สายมาช่วยควบคุมเครื่องปรับอากาศภายในอาคาร เป็นต้น

“ธุรกิจที่บริหารจากความเชื่อมั่น ที่ต้องการยกระดับอาคารและสิ่งปลูกสร้างในประเทศไทยสามารถช่วยลดผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างเป็นรูปธรรมทั้งยังช่วยประหยัดพลังงานเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้ใช้งานอาคารได้อย่างยั่งยืนและยังช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับเจ้าของอาคารได้อีกด้วย”- วชิระชัย คูนำวัฒนา –

สามารถดูรายละเอียดได้ที่ SCG Building & Living Care Consulting และ Smart Building Solution หรือรับคำปรึกษาและสอบถามข้อมูลได้ที่ E-mail : [email protected] โทร. 065 7197909