“ฝรั่งเศส” ติดเชื้อ COVID-19 ทะลุ 1 ล้านรายประเทศที่ 7 ของโลก ออกเคอร์ฟิวคุมการระบาด

17 ตุลาคม 2020 : บรรยากาศร้านอาหารแห่งหนึ่งในปารีส ต้องเก็บร้านก่อนเวลาเนื่องจากการประกาศเคอร์ฟิวของภาครัฐ เพื่อควบคุมการระบาดระลอกสอง (Photo: Adnan Farzat/NurPhoto via Getty Images)
การระบาดรอบสองเริ่มเกิดขึ้นชัดเจนทั่วทวีปยุโรปเมื่อต้นเดือนตุลาคม และ “ฝรั่งเศส” กลายเป็นประเทศที่ 7 ของโลกที่มีผู้ติดเชื้อโรค COVID-19 สะสมทะลุ 1 ล้านราย ทำให้ประธานาธิบดีมาครงต้องสั่ง “เคอร์ฟิว” พื้นที่ราว 2 ใน 3 ของประเทศ ห้ามประชาชนออกนอกบ้านช่วง 21.00 – 06.00 น.

ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ฝรั่งเศสรายงานมีผู้ติดเชื้อโรค COVID-19 เพิ่มขึ้น 42,032 ราย ทำให้แดนน้ำหอมมีผู้ติดเชื้อโรค COVID-19 สะสมแล้ว 1,041,075 รายตั้งแต่เกิดการระบาดครั้งแรก

สถิตินี้ทำให้ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่ 7 ที่มีผู้ติดเชื้อโรค COVID-19 เกิน 1 ล้านราย ตามหลัง 6 ประเทศแรก คือ สหรัฐอเมริกา ผู้ติดเชื้อ 8.4 ล้านราย อินเดีย 7.8 ล้านราย บราซิล 5.3 ล้านราย รัสเซีย 1.5 ล้านราย ปิดท้ายคือ อาร์เจนตินาและสเปน ซึ่งเพิ่งมีผู้ติดเชื้อเกิน 1 ล้านรายไปเมื่อเร็วๆ นี้

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ฝรั่งเศสมีการบังคับใช้นโยบายล็อกดาวน์อย่างเข้มข้น ห้ามประชาชนออกจากบ้านโดยไม่จำเป็น และเคยมีผู้ติดเชื้อเพิ่มภายในวันเดียวสูงสุดคือ 7,578 คนเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2020 (ทั้งนี้ แพทย์ให้ความเห็นด้วยว่า ตัวเลขจริงอาจมากกว่าที่รายงาน เพราะระบบการตรวจหาผู้ติดเชื้อ ณ ขณะนั้นยังจำกัดอยู่เฉพาะในโรงพยาบาลกับบ้านพักคนชราเท่านั้น)

(Photo by Pascal Le Segretain/Getty Images )

จากนั้นมีการผ่อนคลายล็อกดาวน์ และดูเหมือนการติดเชื้อจะลดลง จนกระทั่งวันที่ 9 กันยายน 2020 มีผู้ติดเชื้อเพิ่มเกิน 10,000 รายภายในวันเดียว ต่อด้วยวันที่ 9 ตุลาคม 2020 มีผู้ติดเชื้อเพิ่มเกิน 20,000 รายในวันเดียว นอกจากการระบาดซ้ำแล้ว ยังเป็นเพราะฝรั่งเศสมีการตรวจแบบปูพรมมากขึ้นด้วย ทำให้พบผู้ติดเชื้อจำนวนสูง

“สถานการณ์สาธารณสุขของประเทศเราแย่ลงเรื่อยๆ” ฌ็อง กัสแต็กซ์ นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสกล่าว พร้อมอธิบายสถิติการติดเชื้อว่าเพิ่มขึ้น 40% ภายในเวลาสัปดาห์เดียว และเคสผู้ติดเชื้อมีมากขึ้นเป็นเท่าตัวทุกๆ 15 วัน

 

เคอร์ฟิว 2 ใน 3 ของประเทศ

สถานการณ์ที่เริ่มวิกฤต ส่งให้ “เอ็มมานูเอล มาครง” ประธานาธิบดีฝรั่งเศส สั่งการยกระดับคำสั่งเคอร์ฟิวครอบคลุม 2 ใน 3 ของประเทศ จากเมื่อสัปดาห์ก่อนเริ่มการเคอร์ฟิวก่อนในเขตเมืองใหญ่ทั้งหมด 9 เมือง รวมปารีสด้วย

การเคอร์ฟิวจะบังคับใช้ระหว่างเวลา 21.00 – 06.00 น. ของเช้าวันรุ่งขึ้น ทำให้ชาวฝรั่งเศสส่วนใหญ่ต้องงดกิจกรรมยามค่ำคืนในช่วงนี้

นอกจากการเคอร์ฟิว ฝรั่งเศสยังมีแอปพลิเคชันช่วยติดตามผู้ติดเชื้อ COVID-19 เพื่อใช้แจ้งเตือนคนที่อยู่ในบริเวณเดียวกันให้ทราบว่าตนมีความเสี่ยง และขอความร่วมมือให้ร้านอาหารลงทะเบียนลูกค้า เพื่อแจ้งเตือนในภายหลังหากมีเคสติดเชื้อเกิดขึ้นในร้าน

(Photo by Aurelien Meunier/Getty Images)

“ในห้วงเวลาที่เราอยู่นี้ เราไม่มีทางเลือกอื่น จากจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นแต่ละวัน เราจำต้องลดการทำกิจกรรมทางสังคมให้มากที่สุดที่เป็นไปได้ ถ้าหากเราต้องการจะรักษาสุขภาพของเพื่อนร่วมชาติและระบบสาธารณสุขของเราไว้” มาครงกล่าว

เขายังกล่าวด้วยว่า ต้องติดตามจนถึงสัปดาห์หน้าว่ามาตรการนี้จะช่วยหยุดยังการระบาดได้มากน้อยแค่ไหน รวมถึงประเมินสถานการณ์ล่วงหน้าว่า ฝรั่งเศสจะยังต้องต่อสู้กับไวรัสโคโรนาไปอย่างน้อยจนถึงฤดูร้อนปี 2021

กัสแต็กซ์เสริมว่า เดือนพฤศจิกายนน่าจะเป็นช่วงที่สาหัสที่สุด และรัฐบาลอาจจะต้องใช้มาตรการที่เข้มข้นขึ้นในช่วงนั้น

สำหรับการเยียวยาผู้ประกอบการในฝรั่งเศสที่ได้รับผลกระทบจากเคอร์ฟิว รัฐบาลจะอัดฉีดเงิน 115 ล้านยูโรให้กับอุตสาหกรรมบันเทิง เช่น โรงละคร โรงภาพยนตร์ สถานที่จัดดนตรี ซึ่งจะได้รับผลกระทบทางตรงเนื่องจากเคอร์ฟิว

Source: Reuters, Euronews