คนจีนยังรักชาติแรง! เทศกาล “วันคนโสด” งดซื้อแบรนด์อเมริกัน แบรนด์ยุโรปโดนหางเลข

เทศกาลช้อปปิ้ง “วันคนโสด” ปี 2020 ชาวจีน 57% ตั้งใจจะเลี่ยงซื้อแบรนด์อเมริกัน โดยตัวเลขนี้ลดลงมากจากปีก่อน อย่างไรก็ตาม 39% จะเลี่ยงซื้อแบรนด์ยุโรป ต่างจากปีก่อนที่ชาวจีนยังซื้อสินค้ายุโรปตามปกติ จุดโฟกัสปีนี้คือ “สินค้าลักชัวรี” เพราะคนจีนที่ไปเที่ยวต่างประเทศไม่ได้ มีแนวโน้มจะซื้อสินค้ากลุ่มนี้สูงขึ้น

เลือดรักชาติของคนจีนยังแรงอยู่ โดยบริษัท AlixPartners จัดสำรวจความคิดเห็นผู้บริโภคจีน 2,029 คน ก่อนถึง เทศกาลวันคนโสด 11.11 เทศกาลลดราคาช้อปปิ้งออนไลน์ครั้งใหญ่ โดยพบความคิดเห็นที่น่าสนใจดังนี้

  • 66% จะเลือกแบรนด์จีนมากกว่าแบรนด์ต่างชาติ
  • 57% จะลดการซื้อสินค้าแบรนด์อเมริกัน
  • 39% จะลดการซื้อสินค้าแบรนด์ยุโรป
  • 62% ระบุสาเหตุที่เลือกแบรนด์จีนมากกว่าเพราะประเด็น “ชาตินิยม”

เมื่อเปรียบเทียบกับการสำรวจเดียวกันเมื่อปี 2019 ปีก่อนนั้นชาวจีนถึง 78% ตอบว่าจะเลี่ยงการซื้อสินค้าแบรนด์อเมริกัน สะท้อนให้เห็นว่าความรู้สึกต่อต้านอเมริกันในปีนี้ลดลงจากปีก่อน ส่วนแบรนด์ยุโรปเป็นในทางตรงข้าม จากปีก่อนชาวจีนยังคงสนใจแบรนด์ยุโรป ปีนี้กลับมีชาวจีนที่จะเลี่ยงการซื้อถึง 39%

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมการเลือกซื้อของคนจีนก็ยังเลือกแบรนด์จีนมากกว่าเหมือนเดิม และเป็นเพราะ “ชาตินิยม” เหมือนกับปีก่อน

ในแง่ของกำลังซื้อ ปีนี้ 39% ของชาวจีนที่สำรวจตอบว่าจะใช้จ่ายมากขึ้นในวันคนโสด ขณะที่มี 15% ที่จะใช้จ่ายน้อยลงเทียบปีก่อน เนื่องจากภาวะโรคระบาด COVID-19 ทำให้กังวลในการใช้จ่าย

“ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา สินค้าอเมริกันเคยได้รับความสนใจอย่างสูง” เดวิด การ์ฟิลด์ กรรมการผู้จัดการ AlixPartners กล่าว “แต่ผู้บริโภคจีนเริ่มรู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าพวกเขาสามารถได้คุณสมบัติสินค้าอย่างเดียวกันในแบรนด์อื่นได้ สิ่งนี้เป็นเหตุผลที่เหนือไปกว่าเรื่องภูมิรัฐศาสตร์หรือผลกระทบจากสงครามการค้า”

Nike เป็นแบรนด์อเมริกันที่บูมมากในจีน เมื่อปี 2018 Nike รายงานยอดขายในจีนเติบโตถึง 21% เทียบกับปีก่อนหน้า

นอกจากนี้ ประเด็นที่น่าจับตาของเทศกาล 11.11 ปีนี้คือ “สินค้าลักชัวรี” เพราะตั้งแต่มีการปิดพรมแดนทั่วโลก ชาวจีนไม่สามารถบินออกไปเที่ยวและจับจ่ายสินค้าลักชัวรีนอกประเทศได้ ทำให้ประเทศจีนกลายเป็นตลาดใหญ่ของสินค้าลักชัวรีไปแล้ว โดยกินส่วนแบ่งตลาดถึง 43% รองลงมาคือญี่ปุ่น 30%

ไม่เพียงแต่สินค้าลักชัวรีแบรนด์ตะวันตก แต่การ์ฟิลด์กล่าวว่า แบรนด์ลักชัวรีจีนเองก็พัฒนามากจนต้องจับตามอง โดยยกระดับการทำตลาดให้หรูหราได้ดียิ่งขึ้น ดังนั้น ปีนี้ผู้ที่น่าจะได้รับผลกระทบรุนแรงน่าจะเป็นแบรนด์หรูอเมริกันที่พึ่งพิงชาวจีนมากในระยะหลัง เช่น Tiffany’s

สำหรับยอดใช้จ่ายเฉพาะของชาวจีนในเทศกาล 11.11 วันคนโสด ทำยอดขายไปมากกว่า 3.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ต้องมาลุ้นกันว่าปีนี้แรงซื้อของคนจีนจะยังไม่ตกหรือเปล่า ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจโลก

Source