เป็นที่ฮือฮาไปทั่วประเทศเมื่อ ‘กระทรวงดีอี’ สั่งให้ระงับการเผยแพร่ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ตาม พ.ร.บ.ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 กับ เว็บโป๊ Pornhub (พอร์นฮับ) จำนวนกว่า 191 URLs ที่มีเนื้อหาลามก อนาจาร ซึ่งผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตและมือถือทุกค่ายต้องปฏิบัติตาม จนเหล่าชาวเน็ตผุด #SavePornhub พร้อมกับหา VPN เพื่อที่จะหาทางเข้าเว็บให้ได้อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม หลายคนคงรู้แค่ว่า Pornhub เป็นเว็บโป๊ฟรี แต่ไม่ใช่แค่นั้น เพราะ Pornhub ทำประโยชน์ให้โลกมากกว่าที่หลายคนจะรู้
Pornhub ผู้ปฏิวัติวงการเว็บโป๊โลก
จุดเริ่มต้นของเว็บ Pornhub ต้องย้อนไปเมื่อปี 2007 หรือ 13 ปีก่อนโน้นที่ประเทศแคนนาดา โดยโปรแกรมเมอร์นาม ‘แมต คีเซอร์’ เป็นผู้ให้กำเนิดเว็บ Pornhub เว็บไซต์โป๊สไตล์ ‘YouTube’ ที่เปิดให้ชมได้ฟรีโดยหารายได้จากค่าโฆษณา แต่ใครจะจ่ายค่าสมาชิกเพื่อชมหนังแบบพรีเมียมก็ได้ และใครใคร่จะอัพโหลดวิดีโอได้ด้วยตัวเองก็ทำได้ จากนั้นในปี 2010 ‘ฟาเบียน ทิลแมน’ แห่งอาณาจักรสื่อ MindGeek ก็ได้ซื้อเว็บไซต์เพื่อพัฒนาเป็นเครือข่ายเว็บไซต์หนังโป๊ โดยมีเว็บในเครือเดียวกันอย่าง YouPorn, RedTubewas และอีกหลายเว็บไซต์ จนในปี 2012 จำนวนคนดูเว็บโป๊ออนไลน์กว่า 80% อยู่บนเว็บโป๊ในเครือของเขา โดยแค่เฉพาะ Pornhub ใน 1 วันมีคนกดคลิกในหน้าเว็บเฉลี่ยกว่า 10 ล้านครั้ง
โดยในปีที่ผ่านมามีผู้เข้าชมประมาณ 42 ล้านคน มีการค้นหาทั้งสิ้น 39 พันล้านครั้งบนเว็บไซต์ มีเนื้อหาใหม่บน Pornhub เพิ่มขึ้นคิดเป็นมากกว่า 1.36 ล้านชั่วโมง หรือต้องใช้เวลา 169 ปีจึงจะดูได้ครบ (โอ้ววววววววววว)
คนไทยดู Pornhub นานอันดับ 1
หลายคนคงสงสัย ทำไมไทยแบน Pornhub ถึงเกิดกระแสขนาดนี้ ทำไมไม่ไปดูเว็บอื่นแทน? อย่างที่รู้ว่า Pornhub เป็นเว็บโป๊ที่ให้ดูฟรี แถมไม่ต้องไปเสี่ยงเจอไวรัสหรือโฆษณาอะไรต่อมิอะไรให้กดข้ามกันจนนิ้วล็อก ดังนั้น ในปี 2019 ประเทศไทยครองแชมป์ที่รับชมวิดีโอนานที่สุดในโลกเฉลี่ย 11 นาที 21 วินาทีต่อการเข้าเว็บ 1 ครั้ง ตามมาด้วยฟิลิปปินส์ เนเธอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา และแคนาดา
อย่างไรก็ตาม Pornhub ยังไม่เปิดเผยตัวเลขสถิติในปี 2020 แต่มีแง้มสถิติในช่วงล็อกดาวน์ที่ผ่านมา โดยผลปรากฏว่าไทยยังคงคว้าแชมป์ติดมือมาได้อีกแล้ว แต่ไม่ใช่แชมป์ดูนาน แต่เป็นยอดผู้เข้าชมที่เป็นผู้หญิงของไทยเพิ่มขึ้นถึง 32% ขึ้นแท่นเบอร์ 1 ของเอเชีย แถมพ่วงด้วยตำแหน่งประเทศที่มีอัตราเข้าเว็บไซต์เพิ่มขึ้นมากที่สุดในโลกอยู่ที่ 15.4% ในช่วงล็อกดาวน์
จากสถิติคงรู้แล้วว่า ชาวไทยได้ผลกระทบจากการแบนแค่ไหน (โดนแบนเเบบนี้ ปีนี้จะเสียสถิติไหมนะ)
การตลาดฉบับ Pornhub
ในช่วงเมษายนที่ผ่านมา Pornhub ก็ได้เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปดูแพ็กเกจ Premium ฟรีทั่วโลก เพื่อสนับสนุนให้คนกักตัวนอนดูหนังโป๊อยู่บ้าน อย่างไรก็ตาม แคมเปญดังกล่าวไม่ใช่แคมเปญแรกการตลาดแรกที่ทำควบคู่ไปกับการช่วยเหลือสังคม เพราะแน่นอนว่า Pornhub เป็นเว็บโป๊ ดังนั้นมุมมองของคนส่วนใหญ่ (หรือส่วนน้อย) ยังไงก็มองว่าไม่ใช่เรื่องถูกต้อง ส่งผลให้การตลาดของ Pornhub จึงมีเรื่องสังคมเข้ามาเกี่ยวข้อง
อย่างในปี Pornhub ได้ผุดแคมเปญ Boob Bus สกรีนรถตู้สีชมพูรอบคันด้วยรูปนักแสดงหนังผู้ใหญ่ขับตระเวนไปทั่วแมนฮัตตัน โดยมีจุดประสงค์ชักชวนให้ผู้หญิงรู้เท่าทันมะเร็งเต้านม โดยใช้ความล่อแหลมของทั้งภาพและข้อความดึงดูดความสนใจ แถมด้วยขบวนรถให้บริการตรวจฟรี พร้อมประกาศว่าทุก ๆ ยอดชมจำนวน 30 วิวในหมวด Big tits และ Small tits ที่เกิดขึ้นในเดือนตุลาคม 2012 Pornhub จะบริจาคเงินให้มูลนิธิด้านมะเร็งเต้านม โดยเมื่อจบแคมเปญ Pornhub ได้บริจาคเงินจำนวน 75,000 เหรียญสหรัฐ ให้มูลนิธิต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ Eileen Stein Jacoby Fund, Cancer Sucks Inc เป็นต้น
หรือแคมเปญอย่าง Pornhub Gives America Wood แคมเปญอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ที่ทุก ๆ 100 วิวในหมวด ‘Big Dick’ (ขอไม่เเปลนะ) จะมีค่าเท่ากับต้นไม้ 1 ต้น ภายในระยะเวลา 7 วันของแคมเปญ Pornhub สามารถปลูกต้นไม้ได้ถึง 15,473 ต้น นอกจากนี้ยังมีแคมเปญช่วยปลาวาฬ โดยทุก ๆ การเข้าชมครบ 2,000 ครั้ง ทาง Pornhub จะบริจาคเงิน 1 cent ให้กับองค์กรพิทักษ์วาฬ
แน่นอนว่าแคมเปญแต่ละอย่างมีจุดประสงค์ลึก ๆ คือการทำให้ชื่อของ Pornhub ติดหูติดตาผู้บริโภค แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าผลทางอ้อมมันก็ยังพอช่วยโลกและสังคมได้บ้าง