“แกรนด์ แอสเสทฯ” ฉีกแนวลงทุนจากโรงแรม-อสังหาฯ เข้าสู่ธุรกิจ “ถุงมือยาง” ร่วมทุนกับ “วัฒนชัย รับเบอร์เมท” ตั้งโรงงาน “แกรนด์ โกลบอล โกลฟ” (GGG) หวังขึ้นแท่นผู้ผลิตเบอร์ 2 ของประเทศ เกาะกระแส “เฮลธ์แคร์” มาแรง ความต้องการสูงต่อเนื่องและยิ่งมากขึ้นในช่วง COVID-19
“วิชัย ทองแตง” ประธานกรรมการ บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAND เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้มีการร่วมลงทุนกับ บริษัท วัฒนชัย รับเบอร์เมท จำกัด ในสัดส่วนร้อยละ 50.5 จัดตั้ง บริษัท แกรนด์ โกลบอล โกล์ฟ จำกัด (GGG) เพื่อผลิตและส่งออกถุงมือยาง
โดยเตรียมลงทุนตั้งโรงงานผลิตถุงมือยางภายใต้แบรนด์ GGG ในนิคมอุตสาหกรรมทีเอฟดี จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งจะมีกำลังการผลิต 5,000 ล้านชิ้นต่อปี วางเป้าหมายขึ้นเป็นผู้ประกอบธุรกิจถุงมือยางรายใหญ่อันดับ 2 ของไทย
การลงทุนครั้งนี้เป็นการแตกไลน์ธุรกิจของแกรนด์ แอสเสทฯ บริษัทในเครือ บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ซึ่งที่ผ่านมาพอร์ตหลักของแกรนด์ แอสเสทฯ จะเป็นการลงทุนโรงแรม รีสอร์ต และอสังหาฯ ระดับบน ซึ่งวิชัยยืนยันว่า การลงทุนโรงงานถุงมือยางครั้งนี้ “ไม่ได้เปลี่ยนทิศทางธุรกิจ” แต่เป็นการ “ขยายธุรกิจ” เข้าสู่กลุ่มเฮลธ์แคร์
“วิกฤติ COVID-19 ได้ก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและวิถีชีวิตของคนอย่างมหาศาล โลกต้องปรับตัวเนื่องจากบริบทโลกได้เปลี่ยนไป เป็นกระแสให้ทุกธุรกิจต้องปรับตัวเข้าสู่โมเดลธุรกิจใหม่” วิชัยกล่าว “เราเลือกที่จะปรับแนวทางให้สอดคล้องกับศักยภาพของประเทศ มั่นใจว่าการผสานเข้ากับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ จากนี้ไปจะเป็น New Future ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจอื่นๆ ด้วย”
แกรนด์ แอสเสทฯ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับตลาดธุรกิจถุงมือยางของโลกว่า ประเทศไทยเป็นแหล่งส่งออกถุงมือยางอันดับ 2
รองจากมาเลเซีย โดยประเทศไทยมีมาร์เก็ตแชร์ถุงมือยางอยู่ 20%
ส่วนปริมาณการใช้ถุงมือยาง อ้างอิงจาก องค์การอนามัยโลก (WHO) ในช่วงปี 2553-2562 ความต้องการใช้ถุงมือยางของโลกมีอัตราเติบโตเฉลี่ย 8% ต่อปี และยิ่งพุ่งสูงขึ้นในปี 2563 เพราะเกิดสถานการณ์ COVID-19 ขึ้น คาดว่าปีนี้จะมีการใช้ถุงมือยางมากกว่า 3.3 แสนชิ้น และคาดว่าปี 2564-66 จะเพิ่มขึ้นเป็นปีละ 5 แสนชิ้น
โดยตลาดหลักของถุงมือยางประกอบด้วย ทวีปยุโรป 30% เอเชีย 25% สหรัฐอเมริกา 15% ตะวันออกกลาง 15% และทวีปอื่นๆ อีก 15%
ด้าน บริษัท วัฒนชัย รับเบอร์เมท จำกัด ที่แกรนด์ แอสเสทฯ ร่วมทุนด้วยนั้น ทำธุรกิจผลิตถุงมือยางอยู่แล้วโดยมีโรงงานขนาดกลางอยู่ใน จ.ชลบุรี มีประวัติดำเนินงานยาวนาน ก่อตั้งตั้งแต่ปี 2531 และปัจจุบันมี “ประชัย กองวารี” เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
สำหรับ “วิชัย ทองแตง” คือชื่อที่คนตลาดหุ้นรู้จักกันดีในฉายา “พ่อมดตลาดหุ้น” เขาได้รับการจัดอันดับจากนิตยสาร Forbes Thailand ให้เป็นเศรษฐีอันดับที่ 17 ของไทยปี 2563 โดยวิชัยมีหุ้นอยู่ในบริษัทหลายแห่ง ที่สำคัญคือหุ้นส่วนน้อยใน บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ และถือหุ้นหลักใน บมจ.อี ฟอร์ แอล เอ็ม ผู้ผลิตอุปกรณ์การแพทย์และบริษัทแม่ของวุฒิศักดิ์คลินิก ทำให้การลงทุนครั้งนี้ของวิชัย เป็นการลงทุนในธุรกิจที่ตนเชี่ยวชาญอยู่แล้ว