นักวิเคราะห์ฟันธง iPhone 12 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของ Apple จะสามารถทำยอดขายเกิน 80 ล้านเครื่องภายในสิ้นปีนี้ ผลจากจุดเด่นเรื่องราคาที่เข้าถึงได้ ร่วมกับการอัปเดตเทคโนโลยีหลายส่วน หวั่นขาดตลาดเพราะความต้องการกระฉูดเกินคาด
สำนักข่าวดิจิไทม์ส รายงานการวิเคราะก์ของนักสังเกตการณ์ที่เชื่อว่ายอดจัดส่ง iPhone 12 จะสามารถเกินหลัก 80 ล้านเครื่องภายในสิ้นปีนี้ ไม่เพียงกลยุทธ์การกำหนดราคาที่เหมาะสมกว่าของ Apple แต่ยังมีการอัปเดตเทคโนโลยีหลายส่วนรวมถึงโปรเซสเซอร์ A14 ที่เร็วขึ้น การออกแบบเครื่อง และฟังก์ชันกล้องที่ดีขึ้น คาดว่าจะทำให้ยอดขายสมาร์ทโฟนใหม่ของ Apple เติบโตเป็นพิเศษ
ตัวเลข 80 ล้านเครื่องนี้เพิ่มจากสถิติเดิมที่นักสังเกตการณ์เชื่อว่าการจัดส่ง iPhone รุ่นใหม่ ได้แก่ iPhone 12, iPhone 12 mini, iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max จะมียอดจำหน่ายอย่างน้อย 70 ล้านเครื่องภายในสิ้นปี 2563 แต่ตัวเลขนี้ปรับเพิ่มขึ้นเพราะหลายปัจจัยที่กระตุ้นยอดซื้อทั่วโลก ซึ่งสวนทางกับวิกฤตเศรษฐกิจและความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ – จีนที่เข้มข้นสุดขีดในช่วงปีนี้
สำหรับประเทศไทย iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max เริ่มต้นที่ 36,900 บาท และ 39,900 บาท ตามลำดับ ซึ่งเป็นราคาใกล้เคียงกับ iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ตัวเลือกการจัดเก็บข้อมูล 256GB และ 512GB สำหรับ iPhone 12 Pro ทั้งสองรุ่นมีราคาต่ำกว่ารุ่นก่อน ในขณะเดียวกัน iPhone 12 เริ่มต้นที่ 29,900 บาท และ iPhone 12 mini เริ่มต้นที่ราคาต่ำกว่าที่ 25,900 บาท
ภาวะ iPhone 12 ขายดีจะเป็นผลดีกับบริษัททีเอสเอ็มซี (TSMC) ซึ่งผลิตโปรเซสเซอร์ A14 Bionic ขนาด 5 นาโนเมตรใน iPhone รุ่นใหม่ของ Apple บริษัทนี้จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากยอดขายที่แข็งแกร่งจากชิป A14 ใน iPad ใหม่ของ Apple ด้วย คาดว่าโรงงานจะต้องเพิ่มการผลิตชิป 5 นาโนเมตรอีกมากในไตรมาส 4 ปีนี้ โดยชิปที่ส่งให้ Apple คิดเป็นประมาณ 90% ของคำสั่งซื้อที่ TSMC ได้รับ
สำหรับฟ็อกซ์คอนน์ (Foxconn) ซึ่งยังคงเป็นบริษัทประกอบเครื่อง iPhone รายหลักให้ Apple ออกมายอมรับว่าบริษัทได้รับคำสั่งผลิตจำนวนมากสำหรับ iPhone 12 รุ่นใหม่ โดยออเดอร์ผลิตนี้คึกคักต่อเนื่องจนถึงไตรมาสแรกของปี 2564 โดย Foxconn ยังเป็นซัปพลายเออร์ของ iPhone 12 Pro Max ขนาด 6.7 นิ้ว แต่เพียงผู้เดียว และคาดว่าจะเป็นผู้ผลิต 70% ของคำสั่งประกอบเครื่อง iPhone 12 และ iPhone 12 Pro ขนาด 6.1 นิ้ว
อย่างไรก็ตาม บางรายงานอ้างว่าพบข่าวลือเรื่องการขาดแคลนชิ้นส่วนในซัปพลายเชนที่ทำให้ Apple ต้องจัดระเบียบผลิตภัณฑ์ใหม่ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสินค้าตระกูล iPhone 12 ต้องได้รับการสนับสนุนบางชิ้นส่วนจาก iPad ใหม่ นอกจากนี้ ความต้องการ iPhone 12 Pro ยังสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้ชิ้นส่วนเฉพาะทาง เช่น ชิปจัดการพลังงาน และส่วนประกอบเทคโนโลยี LiDAR มีโอกาสผลิตไม่ทัน
รายงานจากฟอร์บส์ ยังระบุว่ามีข่าวลือเรื่อง Apple ขอให้ซัปพลายเออร์เตรียมผลิต iPhone 11, iPhone SE และ iPhone XR มากกว่า 20 ล้านเครื่อง เพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้าสำหรับช่วงเทศกาลช้อปปิ้งช่วงวันหยุดและต้นปีหน้า ไม่แน่ว่าอาจเป็นการเตรียมการเผื่อรับมือวิกฤตในตลาดอีกทางหนึ่ง