หวยชาเขียวกลับมาแบบเบาๆ ในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ “อิชิตัน” จับมือกับ “ทรู 5G” จัดแคมเปญกระตุ้นยอดหน้าหนาว ลุ้นรางวัลมือถือ Samsung Galaxy Z Fold 2 สัปดาห์ละ 5 เครื่อง ส่วนลูกค้าทรูส่งรหัสรับทันทีเน็ต 2GB เพื่อชมคอนเทนต์บนทรูไอดี งานนี้ชาเขียวได้ขายในปีแห่งวิกฤต ทรูได้โปรโมตแบรนด์ในศึก 5G งบลงทุนการตลาดรวม 20 ล้านบาท วางเป้าขาย 200 ล้านบาทในช่วงแคมเปญ 10 สัปดาห์
อิชิตัน และ ทรู สองแบรนด์จากต่างอุตสาหกรรมประกาศจับมือทำแคมเปญการตลาด “ICHITAN x TRUE 5G สุขปังทุกฝา กับรหัสอัจฉริยะ” โดยเป็นแคมเปญร่วม มีทั้งลุ้นรับรางวัลและแจกให้ลูกค้าทรูรับฟรี เมื่อซื้อชาเขียว อิชิตัน กรีนที รสใดก็ได้ ในช่วงวันที่ 1 ธันวาคม 2563 – 8 กุมภาพันธ์ 2564 แบ่งรางวัลเป็น 2 ส่วนดังนี้
1) สำหรับลูกค้าที่ใช้มือถือเครือข่ายใดก็ได้ สามารถส่งรหัสใต้ฝาลุ้นรับรางวัล คือ รางวัลโทรศัพท์ Samsung Galaxy Z Fold 2 5G แจกสัปดาห์ละ 5 เครื่อง มูลค่าเครื่องละ 69,900 บาท และรางวัล แพ็กเกจทรู พรีเมียร์ ฟุตบอล ฤดูกาล 2020/2021 สัปดาห์ละ 10 รางวัล มูลค่าแพ็กเกจละ 2,500 บาท รวมมูลค่าของรางวัลทั้งแคมเปญ 3.7 ล้านบาท
2) สำหรับลูกค้าเครือข่ายทรูมูฟ เอช เมื่อส่งรหัสจะได้รับ 5 ทรูพอยต์ และเน็ต 2 GB สำหรับดูคอนเทนต์บนทรูไอดี (ระยะเวลาใช้งาน 24 ชม. นับจากส่งรหัสเรียบร้อย) ฟรีทันที ไม่ต้องลุ้นรับสิทธิ
นอกจากนี้ แคมเปญนี้ยังมีการเพิ่มกิมมิกเพื่อส่งเสริมการโปรโมตแบรนด์ ทรู 5G คือทางอิชิตันมีการคิดค้นรสชาเขียวพิเศษในชื่อ “วินเทอร์ ยูสุ ฟิวส์ ที” เป็นชาดำผสมส้มยูสุ เพื่อสื่อถึงรสชาติ “นวัตกรรม” 5G โดยจะผลิตแบบ Limited Edition ไม่เกิน 50,000 ลัง สำหรับจำหน่ายในช่วงแคมเปญนี้เท่านั้น
รวมถึงบนขวดอิชิตันทุกรสชาติ ทรูยังติดโลโก้ TRUE 5G ไว้บนฉลาก สามารถใช้แอปพลิเคชัน TRUE 5G AR สแกนโลโก้ดังกล่าว จะปรากฏเป็นภาพ AR ของมาสคอต H-Man ของทรูออกมาแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าดื่มอยู่
“เราพยายามหาวิธีใหม่ในวงการ เพื่อผลักดันประสบการณ์ 5G ให้คนไทยรู้สึกว่ามันใกล้ตัว จับต้องได้ จึงร่วมมือกับเครื่องดื่มอย่างอิชิตัน สามารถรับประสบการณ์ AR ได้ที่ข้างขวด” โอลิเวอร์ กิตติพงษ์ วีระเตชะ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านแบรนด์และการสื่อสาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าว
เป้าเน้นๆ กลุ่มลูกค้า “ต่างจังหวัด”
ด้าน “ตัน ภาสกรนที” กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงที่มาแคมเปญนี้ว่า จากปกติอิชิตันจะกระตุ้นยอดในหน้าร้อนซึ่งเป็นหน้าขาย ปีนี้มาจัดในช่วงหน้าหนาวเพราะทางทรูมีเป้าหมายที่ต้องการโปรโมตพอดี ทำให้ลงตัว ฝั่งอิชิตันมองว่าจะเป็นแคมเปญที่เป็นของขวัญให้ลูกค้าบางส่วนซึ่งได้รับรางวัลทันที ไม่ต้องลุ้น
กลุ่มเป้าหมายของอิชิตันและทรูก็น่าจะตรงกัน โดยวัดจากแคมเปญลุ้นรับรางวัลที่ผ่านมาของอิชิตัน 29% ของผู้ส่งรหัสเข้าร่วมเป็นผู้ใช้เครือข่ายทรู และคาดว่าแคมเปญนี้จะโดนใจลูกค้าต่างจังหวัดที่ใช้มือถือระบบพรีเพด เพราะสามารถรับเน็ต 2GB ไปใช้ชมคอนเทนต์ได้ฟรีทันที ซึ่งตรงกับตลาดของอิชิตันในระยะหลังซึ่งแข็งแกร่งในกลุ่มร้านค้าดั้งเดิม (TT) ในต่างจังหวัดอยู่แล้ว
งบการตลาดร่วมสองฝ่ายสำหรับแคมเปญนี้อยู่ที่ 20 ล้านบาท คาดหวังได้เป้ายอดขาย 200 ล้านบาทในช่วง 10 สัปดาห์ที่จัดแคมเปญ และจะเป็นแคมเปญที่ใหญ่ที่สุดในรอบปีของอิชิตัน หากวัดเฉพาะผลิตภัณฑ์ชาเขียว
ปี’63 “ชาเขียว” ยังหืดจับ ไม่อัดแคมเปญหนักอย่างเคย
สำหรับแคมเปญรอบนี้ของอิชิตัน ดูเหมือนจะไม่ได้จัดยิ่งใหญ่เหมือนอย่างเคย โดยเน้นไปที่การช่วยโปรโมตแบรนด์คู่พาร์ตเนอร์ และมีของรางวัลกระตุ้นความตื่นเต้นบ้างเท่านั้น หากเทียบกับแคมเปญสายแจกของอิชิตันที่ผ่านมามักจะแจกของรางวัลยิ่งใหญ่มูลค่าหลักล้านบาท เช่น รถยนต์ แพ็กเกจทัวร์สุดหรู และรวมมูลค่าของรางวัลทั้งหมดทะลุหลักสิบล้านบาท
ตลาดชาเขียวนั้นออกอาการไม่เติบโตมาแล้ว 5 ปี และยอดตกลงอย่างเห็นได้ชัดในช่วงปี 2560-61 ก่อนจะกลับมาเป็นบวกเล็กน้อยเมื่อปี 2562 นี้เอง ส่วนปี 2563 นั้น อิชิตันประเมินไว้เมื่อช่วงต้นปีว่าภาพรวมตลาดชาเขียวในไทยน่าจะโตได้ 5% จากปี 2562 ที่มีมูลค่าตลาด 12,300 ล้านบาท แต่ทันทีที่เกิดสถานการณ์ COVID-19 กลายเป็นปัจจัยลบที่ทำให้ตลาดชาเขียวต้องไปไต่ระดับกันใหม่
อิชิตันให้ภาพรวมตลาดว่าเดือนเมษายน-พฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงล็อกดาวน์จาก COVID-19 ตลาดชาเขียวหดตัวลงมากกว่า -20% ก่อนที่จะค่อยๆ ฟื้นตัวจนเมื่อเดือนกันยายน ตลาดอยู่ในระดับ -5% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน คาดว่าตลอดปีนี้ตลาดน่าจะติดลบเฉลี่ย -10.5%
ตันเสริมว่า เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคชาเขียวมากกว่า 70% เป็นการดื่มนอกบ้าน ดื่มเมื่อต้องการดับร้อน เติมพลังงาน ดังนั้น การล็อกดาวน์อยู่กับบ้านก็จะมีผลกระทบมากกับตลาดนี้
อย่างไรก็ตาม สำหรับอิชิตันและเย็น เย็น สองแบรนด์นี้รวมกันมียอดขายเติบโตเล็กน้อย 3% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2563 และเฉพาะไตรมาส 3/63 กลับมาเติบโต 13% ทำให้เห็นว่าโมเมนตัมการเติบโตเริ่มกลับมาแล้ว (*ข้อมูลตลาดเฉพาะในประเทศไทย ไม่รวมยอดขายต่างประเทศ)
ย้ำ! พระเอกแห่งปียังเป็น “น้ำเติมวิตามิน”
ตลาดชาเขียวยังต้องกัดฟัน แต่ฝั่ง Non-Tea ของอิชิตันเป็นกลุ่มที่ฟู่ฟ่ามาก แม้จะมีสัดส่วนเพียง 5% ในพอร์ต แต่เติบโตดีตามเทรนด์ในตลาด
อิชิตันย้ำเป้าหมายว่า ทั้ง “อิชิตัน น้ำด่าง 8.5 ผสมวิตามินบีรวม” และ “อิชิตัน วิตามิน วอเตอร์ ซี พลัส อี” จะขึ้นเป็นเบอร์ 1 ของตลาดให้ได้ ด้วยความสามารถในการผลิต กระจายสินค้า และมีจุดขายที่เป็น “น้ำด่าง” ไม่ใช่น้ำดื่มธรรมดา ทั้งนี้ ปัจจุบันน้ำดื่มวิตามินบีของอิชิตันเป็นเบอร์ 2 ในตลาด และน้ำดื่มวิตามินซีเป็นเบอร์ 3 ของตลาด
เทรนด์ของน้ำดื่มผสมวิตามินมาแรงมากราวกับชาเขียวเมื่อสิบปีก่อน และน่าจะเกิดกระแสแบบเดียวกันคือมีผู้เล่นกระโจนมาร่วมวงจนทั้งตลาดโตไปด้วยกัน อย่างปีนี้นอกจากอิชิตันที่ทำตลาดปีแรก ก็มีอีกหลายแบรนด์ที่เพิ่งลงสนาม เช่น เพอร์ร่า, อควาวิทซ์ บาย เจเล่ และ ดีอาร์ดริ้งค์ ที่บุกเข้ามาในธุรกิจนี้
- “อิชิตัน” ฝ่ามรสุมชาเขียว ขอบุก Non-Tea หวังใช้ “น้ำวิตามิน” กอบกู้กำไร
- เปิดเบื้องหลัง “เพอร์ร่า วิตามิน วอเตอร์” ช้าเเต่ชัวร์…สิงห์ส่งหมัดเด็ด ชิงตลาดน้ำผสมวิตามิน
อิชิตันคาดว่า ปีนี้ตลาดน้ำดื่มผสมวิตามินรวมแล้วน่าจะมีมูลค่าแตะ 2,300 ล้านบาท หรือเติบโตถึง 116% จากปีก่อน!! เฉพาะ 10 เดือนแรกของปีนี้ก็กวาดรายได้ไป 1,696 ล้านบาทแล้ว และเชื่อว่าเทรนด์นี้จะไม่หยุดแค่ปี 2563 แต่ปี 2564 จะบูมยิ่งกว่าเดิม