กลัวของไม่พอขาย! ‘Apple’ วางแผนเพิ่มการผลิต ‘iPhone’ อีก 30% ในช่วงครึ่งปีหน้า

Photo : Shutterstock

‘Apple’ วางแผนที่จะผลิต iPhone ให้ได้มากถึง 96 ล้านเครื่องในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 30% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งสาเหตุมาจากความต้องการโทรศัพท์มือถือ 5G เครื่องแรกพุ่งสูงขึ้น

ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีในคูเปอร์ติโนได้ขอให้ซัพพลายเออร์ผลิต iPhone SE, iPhone 11 และ iPhone 12 ให้ได้ 95 – 96 ล้านเครื่อง ขณะที่การคาดการณ์ทั้งปีเบื้องต้นที่ Apple เปิดเผยกับซัพพลายเออร์ระบุว่ามีแผนที่จะผลิต iPhone ให้ได้มากถึง 230 ล้านเครื่องในปี 2021 รวมทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ซึ่งเพิ่มขึ้น 20% จากปี 2019

“การผลิตตามแผนสำหรับปีหน้าได้รับการตัดสินใจแล้วและแนวโน้มก็ค่อนข้างสดใส เนื่องจาก iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max เป็นที่ต้องการมากกว่าคาดการณ์ไว้เป็นพิเศษ ขณะที่ความต้องการ iPhone 12 เป็นไปตามการคาดการณ์ แต่ iPhone 12 mini ค่อนข้างซบเซา” ผู้บริหารของซัพพลายเออร์รายสำคัญของ Apple กล่าว

People in Taipei City take photos of Apple’s newly released iPhone 12, 12 mini as well as 12 Pro and visit stores to collect their pre-orders, as Taiwanese market sources show there has been massive pre-orders of the new generation of iPhones, in Taipei City, Taiwan on 23 October 2020. (Photo by Ceng Shou Yi/NurPhoto via Getty Images)

อย่างไรก็ตาม ปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนที่รุนแรงถือเป็นปัญหาใหญ่ของหลาย ๆ แบรนด์รวมถึง Apple ด้วย โดยที่ผ่านมา ในช่วงที่เกิดการระบาดใหญ่ Apple พยายามกักตุนชิปประมวลผลให้ได้มากที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงการหยุดชะงักของซัพพลายเชน และ Apple ยังได้นำส่วนประกอบที่จัดสรรไว้สำหรับ iPad มาใช้กับ iPhone 12 แทน ซึ่งนั่นก็ส่งผลกระทบต่อ iPad ที่ผลิตได้เพียง 2 – 3 ล้านเครื่องในปีนี้ ด้าน ‘เสียวหมี่ (Xiaomi) ได้กำหนดเป้าหมายการผลิตสมาร์ทโฟนให้ได้ 240 ล้านเครื่องในปีหน้า ซึ่งนั่นอาจทำให้ปัญหาด้านการขาดวัตถุดิบรุนแรงขึ้นทั่วทั้งอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า Apple จะจัดส่ง iPhone ได้ราว 220 ล้านเครื่องในปีหน้า อย่างไรก็ตาม ยอดจัดส่ง iPhone ของ Apple ลดลงติดต่อกันในปี 2018 และ 2019 ขณะที่ยอดจัดส่งในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2020 อยู่ที่ประมาณ 116 ล้านลดลงเพียง 1% ตามข้อมูลจาก IDC

Source