ถือบัตรเดบิตแล้วรู้สึกเหมือนได้ถือบัตรเครดิต กลายเป็นจุดยืนใหม่ล่าสุดของบัตรเดบิตกรุงไทย (KTB) ที่ขอรีเฟรชตัวโปรดักต์อีกครั้ง แม้จะตามหลังแบงก์เอกชนหลายก้าว แต่ Strategic Move ครั้งนี้ของแบงก์ที่มีรัฐถือหุ้นใหญ่อย่างกรุงไทย ก็ถือว่ามาช้าดีกว่าไม่มา
กรุงไทยมีฐานลูกค้าหลักคือข้าราชการนับล้านคน ที่ต้องเปิดบัญชีเพื่อรับเงินเดือน แต่เมื่อผู้คนมีไลฟ์สไตล์ต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น “บัตรเดบิต” คือคำตอบล่าสุดของกรุงไทย ด้วยการนำฐานบัญชีเงินเดือนข้าราชการมาต่อยอดได้ไม่ยาก ซึ่งการรุกครั้งนี้กรุงไทยพยายามรีเฟรชโปรดักต์ให้เห็นว่าบัตรเดบิตของกรุงไทยดีเทียบเท่ากับแบงก์เอกชน และยังให้ความรู้สึกและสิทธิประโยชน์ดีเทียบเท่ากับการถือบัตรเครดิต
“อนุชิต อนุชิตานุกูล” รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย เล่าว่า ที่ผ่านมาลูกค้ารู้สึกว่าบัตรเดบิตไม่มีสิทธิประโยชน์ ไม่มีสะสมแต้ม ไม่มีส่วนลด ทำให้ยอดใช้บัตรเดบิตในการรูดซื้อสินค้าไม่สูงนัก ส่วนใหญ่ใช้กดเงินสด กรุงไทยจึงหาสิทธิประโยชน์ให้ลูกค้า และทำตลาดด้วยการเปิดตัวบัตร 4 เซ็กเมนต์ แบ่งตามสิทธิประโยชน์และการจ่ายค่าธรรมเนียมรายปีตั้งแต่ปีละ 200-999 บาท
สิทธิพิเศษพื้นฐานที่ทั้ง 4 บัตรมีเหมือนกันคือการส่ง SMS เตือนเมื่อมีการรูดบัตร ยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีหาใช้จ่ายถึงเดือนละ 3,000 บาท และสิทธิประโยชน์มีมากขึ้นเมื่อจ่ายค่าธรรมเนียมที่พ่วงจ่ายค่าประกัน เช่น ประกันอุบัติเหตุ เหมือนอย่างที่ไทยพาณิชย์ และเคแบงก์เคยเปิดตัวเมื่อปี 2009 และกรุงศรีอยุธยาเพิ่งเปิดตัวเมื่อพฤษภาคม 2010 และที่กรุงไทยเพิ่มจากคู่แข่งคือ การคุ้มครองการถูกโจรกรรมผ่านเอทีเอ็ม เป็น Functional ของบัตรที่ร่วมมือกับพัธนมิตรคือทิพยประกันภัย และ กรุงไทยพานิชประกันภัย
นอกจากนี้ “อนุชิต” บอกว่าได้ดีไซน์บัตรให้ดูหรูหราเพื่อให้ความรู้สึกดีเมื่อถือบัตรของกรุงไทย มีการสะสมคะแนนแลกของรางวัลก็ทำให้รู้สึกเหมือนใช้บัตรเครดิต ซึ่งกรุงไทยหวังเต็มที่ให้ลูกค้ารูดบัตรซื้อสินค้าเฉลี่ยเดือนละ 3,000 บาทต่อบัตร จากปัจจุบันเฉลี่ยยังไม่ถึง 1,500 บาท
บัตรเดบิตคือ “เทรนด์” ที่ “อนุชิต” ย้ำกว่ากำลังมา กระแสเที่ยวนี้กรุงไทยจึงไม่อาจนิ่ง แล้วรอให้ผ่านไปได้อีกต่อไป
| บัตรเดบิต KTB Shop Smart Card | |
| Launched | 10 สิงหาคม 2553 ที่เอสพละนาด นักข่าวสายแบงก์และบันเทิง ประมาณ 50 คน มีเซเลบริตี้ ดารา ร่วมเปิดตัวเช่น ชมพู่ อารยา และ ป้อง ณวัฒน์ |
| Positioning | เดบิตการ์ดที่ให้สิทธิประโยชน์หลากหลายตั้งแต่ส่วนลด จนถึงประกันอุบัติเหตุ |
| Product Detail | มี 4 บัตรสำหรับ 4 กลุ่มเป้าหมายที่พร้อมจ่ายค่าธรรมเนียมจากน้อยไปหามาก คือปีละ 200-250 -599 และ 999 บาท |
| Target | ข้าราชการและคนทั่วไป |
| Market Analysis | ตลาดเดบิตเริ่มกระเตื้องขึ้นตั้งแต่ปี 2009 เมื่อหลายแบงก์เสนอสิทธิประโยชน์การพ่วงประกันอุบัติเหตุไปด้วยทำให้ตลาดเริ่มรู้จักโปรดักต์ลักษณะนี้มากขึ้น แม้กรุงไทยจะมาทีหลังแต่มีฐานลูกค้าหลักเป็นข้าราชการนับล้าน จึงต่อยอดได้ไม่ยาก และโอกาสของบัตรเดบิตคือผู้สมัครไม่ต้องถูกกำหนดจากฐานเงินเดือนเหมือนบัตรเครดิต |
ส่วนแบ่งตลาดบัตรเดบิต จากตลาดรวม 25 ล้านบัตร
ไทยพาณิชย์ 6.5 ล้านบัตร
กรุงเทพ 6 ล้านบัตร
กสิกรไทย 5 ล้านบัตร
กรุงศรี 1.1 ล้านบัตร
กรุงไทย 3.5 แสนบัตร
อื่นๆ ที่เหลือ
พฤติกรรมการใช้บัตรเดบิต
83% ใช้ถอนเงินสด
6% ใช้โอนเงิน
15% ใช้ชำระค่าสินค้าบริการ
ที่มา : แบงก์ชาติ ปี 2551
