หลังจากที่มีข่าวเรื่องวัคซีนป้องกันไวรัส COVID-19 ออกมาว่าสามารถพัฒนาได้สำเร็จ ถือเป็นอีกข่าวที่จุดประกายความหวังของคนทั้งโลกที่ต้องอยู่กับความหวาดระแวงและข้อจำกัดต่าง ๆ นานนับปี ดังนั้น ลองไปดูความเคลื่อนไหวของภูมิภาค ‘อาเซียน’ กันบ้าง ว่าแต่ละประเทศมีความต้องการใช้วัคซีนมากน้อยแค่ไหน จะได้ใช้เมื่อไหร่ และวางแผนการใช้อย่างไรกันบ้าง
สิงคโปร์
ถือเป็นชาติแรกในอาเซียนและในทวีปเอเชียที่จะได้รับวัคซีนป้องกัน COVID-19 ซึ่งถูกพัฒนาโดยบริษัท Pfizer ในสหรัฐฯ และ Biontech ในเยอรมนีไปเมื่อคืนวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา แม้ว่าทางการสิงคโปร์จะยังไม่ได้เปิดเผยว่าวัคซีน COVID-19 ของ Pfizer ลอตแรกนี้มีจำนวนเท่าใด
![street food singapore2](https://positioningmag.com/wp-content/uploads/2020/12/shutterstock_1399992467.jpg)
แต่รัฐบาลสิงคโปร์จะดำเนินการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนที่สมัครใจจะได้รับวัคซีน รวมทั้งจะฉีดให้แก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่สุดก่อน อาทิ บุคลากรการแพทย์ และคนสูงอายุ รวมถึงคนกลุ่มเสี่ยง ปัจจุบันยอดสะสมผู้ติดเชื้อในสิงคโปร์อยู่ที่ 58,422 ราย และเสียชีวิต 29 ราย ทั้งนี้ มีการประมาณการว่าจะมีวัคซีนจำนวนเพียงพอกับประชากรทั้งประเทศของสิงคโปร์ภายในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้นกว่า 5 ล้านคน
มาเลเซีย
สำหรับประเทศมาเลเซียได้บรรลุข้อตกลงกับ Pfizer ในการจัดหาวัคซีน COVID-19 จำนวน 12.8 ล้านโดสไปเมื่อเดือนที่ผ่านมา และล่าสุดได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อจัดหาวัคซีน COVID-19 จาก AstraZeneca จำนวน 6.4 ล้านโดส นอกจากนี้ รัฐบาลกำลังเจรจาขั้นสุดท้ายกับ Sinovac และ CanSino ผู้ผลิตในจีนรวมถึงสถาบัน Gamaleya ของรัสเซียเพื่อจัดหาวัคซีนเพิ่ม โดยมาเลเซียตั้งเป้าจะจัดซื้อวัคซีนได้เพียงพอที่จะครอบคลุมประชากรมากกว่า 80%
![](https://positioningmag.com/wp-content/uploads/2020/05/GettyImages-1207991663-1024x682.jpg)
ไทย
ประเทศไทย ตั้งเป้าที่จะฉีดวัคซีนให้ได้ครอบคลุม 50% ของประชากรทั้งประเทศภายในปีหน้า โดยรัฐบาลมีแผนการที่จะจัดหาวัคซีนจำนวน 26 ล้านโดส จากโครงการโคแวกซ์ ซึ่งเป็นโครงการเข้าถึงวัคซีนอย่างเท่าเทียมกันภายใต้การสนับสนุนของ WHO นอกจากนี้ รัฐบาลได้มีการเจรจาจองซื้อวัคซีนของ AstraZeneca และ Oxford University ที่ชื่อ AZD1222 ไว้อีก 26 ล้านโดส นอกจากนี้จะจัดหาจากผู้ผลิตอื่น ๆ อีก 13 ล้านโดส
![](https://positioningmag.com/wp-content/uploads/2020/09/shutterstock_1717620118.jpg)
อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่วัคซีนของแอสตราเซเนกา-อ็อกซฟอร์ดเป็นงานวิจัยจากต่างประเทศและประเทศไทยร่วมกัน โดยกลุ่มซีเมนต์ไทยก็ได้เข้าร่วมโครงการด้วย ทำให้บริษัท ‘สยามไบโอไซน์’ ของไทยจะได้สิทธิมาผลิต และประเทศไทยจะเป็นฐานผลิตวัคซีนนี้ภายในกลางปีหน้า และคาดว่าจะพร้อมใช้ช่วงปลายปีเพื่อป้อนสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในราคาที่เหมาะสม
เวียดนาม
ล่าสุด เวียดนามพึ่งทดสอบวัคซีนที่พัฒนาเองในชื่อ Nanocovax กับมนุษย์กับอาสาสมัคร 3 คน และเตรียมหาอาสาสมัครอีก 60 คน โดยถ้า Nanocovax ประสบความสำเร็จจะมีการเริ่มกระบวนการผลิตวัคซีนได้ในช่วงปี 2565 อย่างไรก็ตาม ทางสาธารณะสุขเวียดนามกำลังจัดหาวัคซีนจากประเทศอื่นประกอบกัน โดยกำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัท Pfizer และบริษัทยาอื่น ๆ ในประเทศสหรัฐฯ ประเทศอังกฤษ ประเทศจีน และประเทศรัสเซีย
![](https://positioningmag.com/wp-content/uploads/2020/12/shutterstock_1592096134.jpg)
ฟิลิปปินส์
ประเทศฟิลิปปินส์ถือเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อ COVID-19 เป็นอันดับ 2 ของอาเซียน โดยมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 459,789 คน และผู้เสียชีวิต 8,947 คน จากประชากรทั้งหมดกว่า 107 ล้านคน โดยฟิลิปปินส์วางแผนซื้อวัคซีน COVID-19 จำนวน 25 ล้านโดสจาก Sinovac ซึ่งคาดว่าจะได้วัคซีนภายในเดือนมีนาคมปีหน้า นอกจากนี้ทางการฟิลิปปินส์ได้วางแผนจัดหาวัคซีนจาก moderna และ arcturus therapeutics อีกประมาณ 4-25 ล้านโดส
![](https://positioningmag.com/wp-content/uploads/2020/03/COVID-19-1024x683.jpg)
ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์ต้องการวัคซีนเป็นจำนวนอย่างน้อย 50 ล้านโดสภายในปี 2564 โดยวางแผนฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ คนงานในอุตสาหกรรมที่อยู่นสภาวะวิกฤต รวมไปถึงกลุ่มประชากรที่มีรายได้ต่ำและประชากรกลุ่มเสี่ยง โดยนายโรดริโก้ ดูเตอร์เต้ ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ได้ออกคำสั่งให้องค์การอาหารและยาของประเทศฟิลิปปินส์ อนุมัติการใช้งานวัคซีนแบบฉุกเฉินทันที ทำให้ช่วยร่นระยะเวลาการอนุมัติวัคซีนจากขั้นตอนปกติที่ต้องใช้ระยะเวลา 6 เดือน ให้เหลือแค่ 3 สัปดาห์
อินโดนีเซีย
อินโดนีเซีย ประเทศที่มีประชากรมากถึง 270 ล้านคน สูงสุดเป็นอันดับ 4 ของโลก และเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้ออันดับ 1 ของอาเซียน โดยมีผู้ติดเชื้อรวม 650,197 คน เสียชีวิต 19,514 คน รักษาหาย 531,995 คน ติดเชื้อรายวันอยู่ที่ 7,354 คน ทำให้ประเทศอินโดนีเซียมีความต้องการวัคซีนเป็นจำนวนอย่างน้อย 246 ล้านโดส
![](https://positioningmag.com/wp-content/uploads/2020/12/indonesia-covid-19-1024x683.jpg)
ที่ผ่านมา อินโดนีเซียได้สั่งวัคซีนไปแล้ว 125.5 ล้านโดสจาก Sinovac ซึ่งได้รับวัคซีนไปแล้ว 1.2 ล้านโดสในเดือนธันวาคม และจะได้อีก 1.2 ล้านโดสในเดือนมกราคมปีหน้า โดยอินโดนีเซียได้สั่งวัคซีนอีกกว่า 30 ล้านโดสจากบริษัท Novovax อีกทั้งกำลังหารือกับ Pfizer, AstraZeneca และ Covax เพิ่มเติม นอกจากนี้ อินโดนีเซียกำลังพัฒนาวัคซีนของตัวเองซึ่งชื่อว่า Merah Putih อีกจำนวนกว่า 57.6 ล้านโดสอีกด้วย