กลายเป็นของแรร์ไอเทมที่ต้องแย่งชิงเลยทีเดียวสำหรับ ‘Play Station 5’ หรือ ‘PS5’ ซึ่งจากกระแสตอบรับที่ดีทำให้กำไรไตรมาส 4 ปี 2020 ของ ‘Sony’ โตถึง 20% และทำให้ต้องปรับคาดการณ์ ‘กำไร’ ปี 2021 ใหม่เลยทีเดียว
Sony ได้รายงานผลกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาสที่ 4 ของปี 2020 (ตุลาคม – ธันวาคม) โดยทำกำไรได้ 3.59 แสนล้านเยนเพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้รวมอยู่ที่ 2.7 ล้านล้านเยนเพิ่มขึ้น 9% ส่วนรายได้ในปีงบประมาณ 2020 ปิดที่ 8.8 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้นจากตัวเลขคาดการณ์เดิมซึ่งอยู่ที่ 8.5 ล้านล้านเยน และเพิ่มขึ้น 6.5% เมื่อเทียบกับปี 2019
จากยอดขายของ PS5 ตั้งแต่เปิดตัวในเดือนพฤศจิกายนจนถึงธันวาคมที่ทำได้ 4.5 ล้านเครื่อง ทำให้ Sony ปรับเพิ่มประมาณการกำไรในช่วง 12 เดือนจนถึงเดือนมีนาคม 2021 เป็น 9.4 แสนล้านเยนเพิ่มขึ้น 34% จาก 7 แสนล้านเยนที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ และจากยอดขายของ PS5 และยอดขายเกมในเดือนพฤศจิกายน ทำให้รายได้จากแผนกเกมเพิ่มขึ้น 40% เป็น 8.83 แสนล้านเยน
จากข้อมูลของบริษัทวิจัย Omdia คาดว่าภายในปี 2021 Sony จะสามารถขาย PS5 ได้ 17.8 ล้านเครื่อง และขายได้ 63.9 ล้านเครื่องภายในปี 2024 อย่างไรก็ตาม ด้วยกระแสตอบรับที่ดีของ PS5 ทำให้เกิดปัญหาไม่สามารถผลิตสินค้าได้ทันตามความต้องการ เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนชิปเซตทั่วโลก
เนื่องจากตลาดวิดีโอเกมได้รับประโยชน์จากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ที่ทำให้ผู้คนใช้เวลาอยู่ในบ้านมากขึ้นเนื่องจากมาตรการกักตัวทั่วโลก ทำให้ไม่ใช่แค่ Sony ที่ทำกำไรได้มากขึ้น แต่ Nintendo ได้ปรับเพิ่มการคาดการณ์ทั้งปีสำหรับยอดขายของ Nintendo Switch เช่นกัน