ซื้อสิทธิ “บ้านผู้สูงวัย” พ่วง “ประกัน”! “ดิ แอสเพน ทรี” ดึงเมืองไทยประกันชีวิตเป็นพันธมิตร

“ดิ แอสเพน ทรี” บ้านพักผู้สูงวัยในโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์โดย MQDC ประกาศจับมือ “เมืองไทยประกันชีวิต” จัดแพ็กเกจสิทธิอยู่อาศัยในโครงการพ่วงประกันสุขภาพ “อีลิท เฮลท์” ทุนประกัน 20-40 ล้านบาท ตอบรับสังคมสูงอายุ เป้าหมายหลักกลุ่ม “ผู้สูงวัยไร้บุตร” ราคาเริ่มต้น 35 ล้านบาทสำหรับแพ็กเกจอยู่อาศัยได้ตลอดชีพพร้อมบริการ-กิจกรรมครบ

“วิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC ร่วมกับ “สาระ ล่ำซำ” กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต แถลงความร่วมมือในโครงการ “ดิ แอสเพน ทรี” ที่พักผู้สูงวัยภายในโครงการมิกซ์ยูส “เดอะ ฟอเรสเทียส์” ริมถนนบางนา-ตราด ซึ่งจะมีกรมธรรม์ประกันสุขภาพ “อีลิท เฮลท์” ของเมืองไทยประกันชีวิตเป็นพันธมิตรส่วนหนึ่งในแพ็กเกจการเข้าพัก

รายละเอียดเบื้องต้นของโครงการ ดิ แอสเพน ทรี MQDC ให้รายละเอียดว่าจะเป็นโครงการเนื้อที่ 23 ไร่ ประกอบด้วยคอนโดมิเนียมและสกายวิลล่า พร้อมเวลเนส เซ็นเตอร์ และศูนย์สุขภาพและสมอง พื้นที่ส่วนนี้ไม่ต่ำกว่า 6,000 ตร.ม. เฟสแรกเปิดขาย 290 ยูนิต ไซซ์ห้อง 83-200 ตร.ม. ราคาตั้งแต่ 35-70 ล้านบาทต่อห้อง พักอาศัยได้ห้องละ 2-3 คน

“สาระ ล่ำซำ” กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต และ “วิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC

แม้จะเป็นการขาย แต่ไม่ใช่สิทธิขายขาด เพราะ ดิ แอสเพน ทรี มีคอนเซ็ปต์เป็น “บ้านพักผู้สูงอายุ” ซึ่งกำหนดให้ผู้เข้าพักต้องมีอายุขั้นต่ำ 50 ปี ดังนั้น และจะขายเป็นสิทธิการเช่าตลอดชีวิต (*กฎหมายกำหนดสัญญาเช่าสูงสุด 30 ปี แต่โดยคอนเซ็ปต์โครงการจะให้สิทธิตลอดชีพ) หลังจากผู้สูงวัยจากไปเนื่องจากเสียชีวิตหรือต้องการย้ายออก สิทธิในที่พักอาศัยจะคืนแก่โครงการ แต่ถ้ายังอาศัยไม่ครบสัญญา 30 ปี โครงการจะเฉลี่ยเป็นเงินคืนให้ลูกหลานหรือผู้รับสิทธิตามระยะเวลาที่เหลือ

 

เติมเต็มแพ็กเกจคุ้มครองสุขภาพให้ผู้สูงวัย

แล้วเมืองไทยประกันชีวิตมีส่วนในแพ็กเกจอย่างไร? เนื่องจากการขายสิทธิของ ดิ แอสเพน ทรี ไม่ใช่การขายเฉพาะที่พักอาศัย แต่เป็นราคาที่รวมบริการและกิจกรรมของผู้สูงวัยในโครงการไว้แล้ว ทำให้ประกันสุขภาพ “อีลิท เฮลท์” มาเติมจิ๊กซอว์ในส่วนการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุในโครงการได้แบบรวมครบจบในแพ็กเกจเดียว จ่ายก้อนเดียวใช้ได้ตลอดชีพ ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายหรือจ่ายเบี้ยประกันเพิ่มเติมอีก

“ความร่วมมือกับเมืองไทยประกันชีวิตซึ่งให้กรมธรรม์ทุนคุ้มครองมูลค่าสูง จะทำให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่นในโครงการเรามากขึ้น” วิสิษฐ์กล่าว

ภาพตัวอย่าง ดิ แอสเพน ทรี บางนา-ตราด

ประกัน “อีลิท เฮลท์” ที่มารวมในแพ็กเกจของ ดิ แอสเพน ทรี จะแบ่งเป็น 2 ขั้น ขั้นแรก คือ ความคุ้มครองการเจ็บป่วยโรคร้ายแรง โรคทั่วไป โรคระบาด และอุบัติเหตุ คุ้มครองสูงสุด 20 ล้านบาทต่อปีตั้งแต่หลังเซ็นสัญญาจองโครงการ และ ขั้นสอง คือ ความคุ้มครองลักษณะเดียวกันจะเพิ่มความคุ้มครองเป็น 40 ล้านบาทต่อปีเมื่อโอนกรรมสิทธิ์เสร็จสิ้น โดยความคุ้มครองยาวนานถึงอายุ 99 ปี ทั้งนี้ โครงการดิ แอสเพน ทรียังอยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ในปี 2566

สาระกล่าวว่า อีลิท เฮลท์ เป็นโปรแกรมที่มีในตลาดมา 2-3 ปีแล้วและได้รับความนิยมสูงในหมู่ลูกค้าระดับกลางบนถึงไฮเอนด์ แต่ความร่วมมือครั้งนี้มีความพิเศษที่จะเป็นการจับกลุ่มเป้าหมายวัย 50 ปีขึ้นไป จากปกติที่ประกันสุขภาพมักจะเจาะกลุ่มคนวัย 35-45 ปี ทำให้บริษัทมีฐานตลาดเพิ่มขึ้น โดยเซ็กเมนต์สอดคล้องกัน เนื่องจากผู้ซื้อสิทธิในดิ แอสเพน ทรี จะเป็นกลุ่มลูกค้าระดับบนเช่นเดียวกัน

ค่าเบี้ยประกันปกติของอีลิท เฮลท์ จะเริ่มที่ 50,000 บาทต่อปีสำหรับคนวัย 50 ปี ทุนประกัน 20 ล้านบาท และเริ่มที่ 80,000 บาทต่อปีเมื่อทุนประกันเพิ่มเป็น 40 ล้านบาท ดังนั้น จึงนับได้ว่าเป็นแพ็กเกจมูลค่าหลักล้านบาทที่รวมไว้แล้วในการซื้อสิทธิเข้าพัก

 

เป้าหมายหลัก “ผู้สูงวัยไร้บุตร”

ดิ แอสเพน ทรี จะเปิดขายอย่างเป็นทางการเดือนพฤษภาคม 2564 ระหว่างนี้มีการเสนอแพ็กเกจให้ลูกค้ากลุ่มที่ได้รับเชิญแล้วบ้าง แต่ยังไม่เปิดจอง อย่างไรก็ตาม พบว่าลูกค้ามีความสนใจ ไม่เฉพาะคนไทยแต่ยังรวมถึงลูกค้าต่างชาติที่เป็น expat ในไทยอยู่แล้ว เช่น ชาวจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และโซนยุโรปเหนือ

ภาพตัวอย่าง ดิ แอสเพน ทรี บางนา-ตราด

ด้าน “เฮ จูน พาร์ค” ประธานผู้อำนวยการ โครงการ ดิ แอสเพน ทรี ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า กลุ่มเป้าหมายขณะนี้คือ “ผู้สูงวัยไร้บุตร” ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงวัยที่ครองตนเป็นโสด หรือที่มีคู่สมรสแต่ไม่มีบุตร เป็นกลุ่มสำคัญที่สนใจโครงการ

พาร์คมองว่า ความท้าทายของโครงการบ้านพักผู้สูงอายุคือการเปลี่ยนมุมมองเดิมๆ ว่าที่พักแบบนี้เป็นโครงการที่น่าเบื่อ ไม่มีกิจกรรมให้ทำ โดยดิ แอสเพน ทรีแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพราะมีพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมต่างๆ และมีชุมชนทั้งคนวัยเดียวกัน รวมไปถึงคนต่างวัยซึ่งอาศัยในโครงการอื่นๆ ภายในเดอะ ฟอเรสเทียส์

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โครงการบ้านพักผู้สูงอายุเป็นโครงการที่เริ่มมีผู้เล่นในตลาดสูงขึ้น แต่ละโครงการจับกลุ่มราคาแตกต่างกัน และมีทั้งโครงการแบบขายขาด หรือโครงการขายสิทธิการเช่า ต้องจับตาดูต่อไปว่าหลังสร้างเสร็จและมีผู้พักอาศัยจริง ใครจะเป็นผู้ชนะในตลาดนี้ (อ่านเพิ่มเติม : จับตา “เศรษฐกิจสูงวัย” อำนาจเปลี่ยนขั้วจากมิลเลนเนียมสู่ผู้สูงอายุ ภายในปี 2050)