การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 นอกจากจะส่งผลในแง่ของเศรษฐกิจมากมายมหาศาล ที่ทำให้ผู้ประกอบการ และองค์กรต่างๆ มีความจำเป็นต้องปรับตัวอย่างทันท่วงที ด้วยการนำ “ดิจิทัล เทคโนโลยี” มาใช้เพื่อความอยู่รอดของธุรกิจแล้ว ผลกระทบของการแพร่ระบาดก็ยังส่งผลในวงกว้างต่อภาคส่วนอื่นๆ รวมถึงวิถีชีวิตของผู้คนจำนวนมากเช่นกัน
COVID-19 กระทบการศึกษาครั้งใหญ่
วงการ “การศึกษา” ถือเป็นอีกหนึ่งภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบอย่างมาก โรงเรียน และสถานศึกษาในหลายๆพื้นที่ต้องหยุดการเรียนการสอน เนื่องจากการล็อกดาวน์ทำให้นักเรียน และครูไม่สามารถไปโรงเรียนได้ตามปกติ
นี่ทำให้นักเรียนเกือบ 13 ล้านคนต้องอยู่บ้าน และคุณครูเกือบ 6 แสนคนไม่สามารถทำการสอนได้ รวมถึงเด็กนักเรียนในพื้นที่ห่างไกลไม่สามารถเข้าถึงสื่อการเรียนรู้ได้อย่างเท่าเทียม ดังนั้นหลายๆ โรงเรียนจึงเริ่มนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาปรับใช้ เพื่อเปลี่ยนรูปแบบการเรียนการสอนสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อให้การศึกษายังดำเนินต่อไปได้แม้ในภาวะที่ต้องรักษาระยะห่างทางสังคม อีกทั้ง ยังช่วยให้นักเรียนในพื้นที่ห่างไกลสามารถตามบทเรียนได้ทันอีกด้วย
หนึ่งในเทคโนโลยีที่มีบทบาทเป็นอย่างมากต่อภาคการศึกษาในช่วงวิกฤติ COVID-19 คือ เทคโนโลยีคลาวด์ และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่นอกจากจะช่วยลดข้อจำกัดต่างๆ แล้ว ยังเป็นตัวช่วยอัจฉริยะที่ทำให้โรงเรียน และหน่วยงานด้านการศึกษาต่างๆ สามารถดำเนินงานไปได้อย่างต่อเนื่อง
ปรับระบบการศึกษาสู่ Smart Education
การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ จึงเป็นตัวเร่งให้ภาคการศึกษาปรับตัวสู่การเป็น “Smart Education” ได้เร็วยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้ “เทนเซ็นต์ คลาวด์” จึงได้นำเสนอโซลูชัน Tencent Cloud Online Education Solutions ซึ่งเป็นการยกระดับรูปแบบการเรียนการสอนออนไลน์ด้วยคลาวด์อัจฉริยะครบวงจร รวมถึงการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์
มร. ชาง ฟู ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จํากัด กล่าวว่า
“การปรับตัวเองสู่การเป็น Smart Education ของสถานศึกษานั้นไม่เพียงแค่ช่วยลดช่องว่างเรื่องระยะทาง แต่ยังช่วยในการวิเคราะห์ และพัฒนาหลักสูตรที่เอื้อให้นักเรียนสามารถทบทวนบทเรียนได้ในระดับความสามารถของตัวเอง การมีแพลตฟอร์มที่ครู และนักเรียนสามารถพูดคุยกันได้ รวมถึงการมีเครื่องมือที่ทำให้ครูสามารถออกแบบการสอนตามลักษณะการเรียนรู้ของนักเรียน เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการศึกษาในอนาคตโดยเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทสำคัญ เช่น การประมวลผลแบบคลาวด์ การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) และปัญญาประดิษฐ์ (AI: Artificial Intelligence)”
4 บริการของ Tencent Cloud Online Education Solutions
Tencent Cloud Online Education Solutions เป็นโซลูชันที่ช่วยให้สถานศึกษาสามารถสร้างแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว และสามารถปรับแต่งโซลูชันได้ตามสถานการณ์ และความต้องการ โดยเป็นโซลูชันแบบ end-to-end ที่จะช่วยสร้างแพลตฟอร์มการศึกษาออนไลน์ตั้งแต่เริ่มต้น
นอกจากนี้ เทนเซ็นต์ คลาวด์ยังมีผลิตภัณฑ์ และบริการต่างๆ ที่ช่วยเสริมศักยภาพให้กับแพลตฟอร์มที่มีอยู่แล้ว เพื่อให้เกิดเป็นการศึกษาออนไลน์แบบอินเตอร์แอคทีฟที่มีคุณภาพ โดยครอบคลุม 4 บริการ ดังต่อไปนี้
- โครงสร้างพื้นฐาน และการบำรุงรักษา (Infrastructure and Maintenance)
เป็นบริการด้านทรัพยากร และการบริหารระบบปฏิบัติการคลาวด์แบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จ ทั้งเซิร์ฟเวอร์ ฐานข้อมูล ระบบจัดเก็บข้อมูล ระบบเครือข่าย ช่องสัญญาณ ระบบรักษาความปลอดภัย และอื่นๆ เพื่อสร้างรากฐานแพลตฟอร์มการเรียนรู้แบบออนไลน์ให้กับสถาบันการศึกษาที่กำลังก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล
- การบริหารจัดการระบบ (Operational Management)
นอกจากการปรับเปลี่ยนการเรียนการสอนไปสู่ยุคดิจิทัล เทนเซ็นต์ คลาวด์ยังมีบริการระบบซอฟแวร์ SaaS เพื่อให้สถาบันการศึกษาสามารถดำเนินงานธุรการต่างๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ได้สะดวกยิ่งขึ้น เช่น การเปิดหลักสูตรต่างๆ การรับสมัครการลงทะเบียน การบริหารทรัพยากร จัดหรือปรับเปลี่ยนตารางเวลาของหลักสูตรต่างๆ ตลอดจนการออกประกาศนียบัตร
- โซลูชันสำหรับการจัดการห้องเรียนแบบอินเตอร์แอคทีฟ (Interactive Classroom Solutions)
โซลูชันสำหรับการทำ interactive classroom แบบครบวงจรผ่านการใช้ระบบปฏิบัติการณ์คลาวด์อัจฉริยะ และ AI เพื่อมอบประสบการณ์การเรียนออนไลน์แบบเรียลไทม์ที่มีประสิทธิภาพผ่านสมาร์ท โซลูชันต่างๆ ของเทนเซ็นต์ คลาวด์
- เครื่องมืออัจฉริยะสำหรับช่วยด้านการสอน (Smart Teaching Tools)
คลาวด์มีโซลูชันด้านการสอนมากมายที่ทำงานโดยอาศัยระบบปัญญาประดิษฐ์เพื่อช่วยทุ่นเวลา และเพิ่มประสิทธิผลด้วยเทคโนโลยี Deep learning ของเทนเซ็นต์ คลาวด์ ความสามารถของการจดจำใบหน้าและเสียง (face recognition/voice recognition) รวมถึงความสามารถในการทำงานของระบบ Machine translation ของเทนเซ็นต์ จะสามารถรองรับการทำงานอัตโนมัติด้านการเรียนการสอนได้หลากหลายรูปแบบ
ช่วยการศึกษาทางไกล กรณีศึกษาจากอู่ฮั่น
ทั้งนี้ “เทนเซ็นต์ คลาวด์” ได้มีกรณีศึกษาจากการใช้งานจริงในโรงเรียนเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีนในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปีที่ผ่านมา เพราะจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 “การศึกษาทางไกล” ได้กลายเป็น New normal ของระบบการศึกษา เทคโนโลยีจึงมีบทบาทสำคัญในการอำนวยความสะดวก และเพิ่มประสิทธิภาพของการศึกษา
ซึ่งเป็นช่วงแรกที่เกิดการแพร่ระบาด โรงเรียนได้เปิดทำการเรียนการสอนอีกครั้งโดยได้ใช้เทนเซ็นต์ คลาวด์ในการจัดการติดตั้งระบบห้องเรียนออนไลน์ในเวลาเพียง 7 วัน ซึ่งแพลตฟอร์มรองรับถึง 81% ของผู้ใช้งานทั้งหมด (ประมาณ 730,000 คน)
นอกจากนี้ โซลูชันจากเทนเซ็นต์ คลาวด์ ยังมอบบริการ Live Video Broadcast ที่มีความเสถียร คุณภาพสูง อีกด้วย โซลูชันนี้นอกจากระบบต่างๆ แล้ว ยังรวมไปถึงอุปกรณ์ช่วยการสอนที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่สามารถประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อช่วยให้ผู้สอนสามารถวิเคราะห์ผลการเรียนของนักเรียนแต่ละคน เพื่อออกแบบการเรียนการสอนเฉพาะบุคคลซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ให้นักเรียนได้ดียิ่งขึ้น
สรุป 3 ข้อ ที่ควรใช้เทนเซ็นต์ คลาวด์
- เทนเซ็นต์ คลาวด์ มอบบริการระบบปฏิบัติการคลาวด์ระดับเวิล์ดคลาสที่มีประสิทธิภาพ เสถียรภาพ และยืดหยุ่น สามารถปรับได้ตามความต้องการของลูกค้า พร้อมทั้งสามารถมอบโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกอุตสาหกรรม
- เทนเซ็นต์ คลาวด์ มีทีมสนับสนุนในประเทศไทย ที่สามารถให้บริการและคำปรึกษากับลูกค้าคนไทย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานในประเทศ
- มีศูนย์จัดเก็บข้อมูล (Data Center) ที่ตั้งอยู่ในประเทศเพื่อให้การถ่ายโอนข้อมูลของลูกค้าเป็นไปอย่างรวดเร็ว และปลอดภัย
“ปัจจุบันทุกๆ ภาคอุตสาหกรรมรวมทั้งภาคการศึกษาต้องเร่งปรับตัวเพื่อก้าวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในยุคดิจิทัล เทนเซ็นต์ คลาวด์ในฐานะผู้นำด้านการให้บริการระบบปฏิบัติการคลาวด์ระดับโลกที่มีประสิทธิภาพ เสถียรภาพ และยืดหยุ่น จึงมีความพร้อมที่จะมอบโซลูชันคลาวด์อัจฉริยะ เพื่อเป็นเครื่องมือที่สำคัญในสนับสนุนการศึกษาที่มีคุณภาพแก่ทุกคน และช่วยให้สถานศึกษาเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป” มร. ชาง กล่าวสรุป
สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลของ เทนเซ็นต์ คลาวน์ สามารถคลิกเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://cloud.tencent.co.th/en