CRG เคลื่อนทัพอีกระลอก ล่าสุดเข้าถือหุ้น 85% มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท ในบริษัท เอสทีเอ็นฯ เจ้าของร้านส้มตำนัว สยายปีกอาหารประเภทส้มตำ
เทรนด์ของเชนร้านอาหารรายใหญ่ ยังคงหนีไม่พ้นการกว้านซื้อกิจการของร้านอาหารรายย่อย เพื่อเข้ามาเติมพอร์ตของอาณาจักรให้แข็งแกร่งขึ้น ล่าสุด CRG ได้เข้าซื้อกิจการร้าน “ส้มตำนัว” ในสัดส่วน 85% เข้ามาเสริมแกร่งร้านอาหารอีสานมากขึ้น
ณัฐ วงศ์พานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (CRG) กล่าวว่า
“บริษัทเดินหน้าด้วยกลยุทธ์รุกขยายแบรนด์ใหม่ และร้านอาหารแนวใหม่ โดยปี 2564 นี้ CRG จะมีแบรนด์ร้านอาหารใหม่เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 2-3 แบรนด์ เพื่อเติมเต็มพอร์ตโฟลิโอให้มีประเภทอาหารครอบคลุมในทุกเซ็กเมนต์ ขยายฐานลูกค้าให้กว้างมากขึ้น เพิ่มโอกาสเข้าถึงผู้บริโภคหลากหลายกลุ่ม อีกทั้งยังถือเป็นการเพิ่มความหลากหลาย และเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคอีกด้วย
ล่าสุดคือแบรนด์ส้มตำนัว เนื่องด้วยธุรกิจร้านอาหารส้มตำยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีทั้งในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งแบรนด์ “ส้มตำนัว” นับเป็นแบรนด์ที่มีศักยภาพในการขยายได้อีกมาก และมีกลุ่มลูกค้าที่เหนียวแน่น ด้วยอาหารอีสานจัดเป็นอีกหนึ่งประเภทอาหารยอดนิยม จึงเล็งผลักดันบุกตลาดให้เติบโตด้วยความมั่นคง แข็งแรง และยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของส้มตำนัวไว้เช่นเดิม
สำหรับแผนธุรกิจเตรียมซัพพอร์ตช่วยต่อยอดธุรกิจในทุกๆ ด้าน เร่งจัดเตรียมความพร้อมให้สามารถลุยตลาดเดลิเวอรี่ การพัฒนาต่อยอดเมนูเด็ด การเพิ่มช่องทางจำหน่าย จัดแผนขยายสาขา ทั้งในศูนย์การค้า, ร้านสแตนด์อโลน, คลาวด์คิทเช่น
โดยตั้งเป้าเปิดกว่า 130 สาขาภายใน 5 ปี รวมไปถึงการวางแผนเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับโมเดลแฟรนไชส์ โดยมั่นใจว่าแบรนด์ส้มตำนัวจะเป็นอีกแบรนด์เรือธงให้กับ CRG ได้อย่างแน่นอน
ทางด้าน สุธาชล วัฒนะสิมากร ผู้ก่อตั้งแบรนด์ส้มตำนัว กล่าวว่า ย้อนไปเมื่อ 20 ปีก่อนแบรนด์ส้มตำนัวเป็นแบรนด์ที่เกิดจาก ความตั้งใจที่สืบทอดวัฒนธรรมการกินของคนอีสานรสชาติตามแบบฉบับดั้งเดิม ในบรรยากาศสบายๆ สะอาดสะอ้าน ให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกเหมือนนั่งกินอาหารอยู่บ้าน เพื่อให้ลูกค้าผ่อนคลายมีความสุขกับการกินอาหารอย่างเต็มที่ และส่งมอบอาหารอีสานรสชาติแท้ๆ ด้วยวัตถุดิบคุณภาพที่คัดเลือกมาอย่างพิถีพิถัน มีซิกเนเจอร์เมนูมากมายให้เลือกลิ้มลอง
การจับมือกันในครั้งนี้แบรนด์มองเห็นโอกาสจากการร่วมมือกับ CRG ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำทางด้านธุรกิจอาหารระดับประเทศที่มีประสบการณ์อันยาวนาน น่าจะเป็นโอกาสที่จะช่วยให้เราเติบโตอย่างมั่นคง และร่วมพัฒนาระบบในด้านการบริหารงานต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ปัจจุบันมีจำนวนสาขาทั้งหมด 6 สาขา ได้แก่ สาขาสยามเซ็นเตอร์, สาขาสยามสแควร์, สาขาเซ็นทรัลแอมบาสซี, สาขาเซ็นทรัลเวิลด์, สาขาเมกาบางนา, สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว
บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท คร้งที่ 5/2563 เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2563 ได้มีมติให้บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือซีอาร์จี ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้น 100% และมีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว 620 ล้านบาท ดำเนินการเจรจาเพื่อลงทุนในบริษัท เอสทีเอ็น เรสเตอรองต์ จำกัด (เอสทีเอ็น /STN) ซึ่งดำเนินกิจการผลิตและจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มภายใต่ชื่อทางการค้า “ส้มตำนัว” (Somtam Nua) ซึ่งขณะนี้ บริษัทได้เจรจาบรรลุข้อตกลงตามที่คณะกรรมการได้อนุมัติไว้แล้ว
บริษัท เอสทีเอ็น เรสเตอรองต์ จำกัด เป็นบริษ้ทที่จัดตั้งเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2563 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินธุรกิจจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม โดยมีการรับโอนกิจการและทรัพย์สินของ 3 บริษ้ท ประกอบด้วย บริษัท ริช ไฟว์ เรสเตอรองต์ จำกัด (R5), บริษัท เอสไฟว์ เรสเตอรองต์ จำกัด (S5) และบริษัท เอสเอสวี เรสเตอรองต์ จำกัด (SSV) (บริษัทเดิม) ซึ่งเป็นบริษัทประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มภายใต้ชื่อทางการค้า “ส้มตำนัว” (Somtam Nua) โดยมีนายสุธาชล วัฒนะสิมากร เป็นผู้ก่อตั้งและเป็นผู้บริหาร และเป็นผู้มีอำนาจควบคุมเด็ดขาด
โดย CRG มีการลงทุนซื้อหุ้นสามัญของบริษัท เอสทีเอ็น เรสเตอรองต์ จำกัด จากผู้ถือหุ้นเดิมจำนวนทั้งสิ้น 1,997,500 หุ้น เป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งใช้แหล่งเงินทุนจากการดำเนินธุรกิจของบริษัท โดยการชำระเงินค่าหุ้นทั้งหมดจะเสร็จสมบูรณ์ภายในวันที่ 30 เมษายน 2564 ภายหลังจากการลงทุน CRG จะถือหุ้นในบริษัท เอสทีเอน เรสเตอรองต์ จำกัด ทั้งสิ้น คิดเป็นสัดส่วน 85% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด