แอคตัน, แมสซาชูเซตส์--(บิสิเนส ไวร์)--13 มี.ค.2548 - Azimuth Systems Inc.ผู้สร้างสรรค์ระบบทดสอบโครงข่ายไร้สายอัตโนมัติและปรับขยายขนาดได้ แถลงข่าวการทำสัญญาด้านการตลาดระหว่างประเทศครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของบริษัทกับ SerComm Corporation ของไต้หวัน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ค้า OEM ไร้สายชั้นนำในเอเชีย SerComm จะทำการทดสอบผลิตภัณฑ์ในตระกูลไร้สาย ซึ่งรวมถึง access point และ client ด้วย W-Series ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเพื่อการทดสอบโครงข่าย WLAN 802.11 ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศของ Azimuth W-Series ได้วางมาตรฐานสำหรับโซลูชั่นทดสอบข้อมูลแบบไร้สาย โดยการอนุญาตให้ผู้ค้าระบบอย่าง SerComm สามารถให้บริการลูกค้าของพวกเขาด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงกว่าโดยร่นระยะเวลาการออกสู่ตลาด (time-to-market) ลง “ทวีปเอเชียเป็นตลาดใหญ่และมีความสำคัญกับ Azimuth...
มร. สตีเฟ่น แดเนี่ยล ผู้อำนวยการศูนย์จัดจำหน่ายสินค้า บริษัท เอ็กเซล โลจิสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (ซ้าย) ได้ประกาศเซ็นสัญญาร่วมกับ มร. คิด เอฟเนอร์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ประเทศไทยและลาว บริษัท น้ำมันคาลเท็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ( ขวา ) เพื่อร่วมดำเนินงานในการจัดการบริหารคลังสินค้าและกระจายสินค้า ในร้านสะดวกซื้อ สตาร์มาร์ท ณ สถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ ทั่วประเทศไทย เป็นเวลา 3...
ม.ล.จิราธร จิรประวัติ ได้ชื่อว่าเป็นคนที่มีบทบาทในชีวิตมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโปรดักส์ดีไซเนอร์ ครูสอนชงชา เป็นอาจารย์ด้านโฆษณา เป็น Food Stylist หรือนักจัดอาหารและทำอาหาร หรือจะเป็น Fashion Stylist, Fashion Designer รวมถึงเป็นครูสอนศิลปะที่มีชื่อ และมีลูกศิษย์เป็นที่ยอมรับของสังคม เขาเขียนหนังสือด้านอาหารและงานสถาปัตยกรรมมาแล้ว ม.ล.จิราธรนับได้ว่าเป็นหนึ่งในแวดวงที่เราเรียกเขาว่า celebrity ที่คนในสังคมให้ความสนใจ เชิญไปปรากฏตัวหรือเอาชื่อไปทำงานเกี่ยวศิลปะในแง่มุมต่างๆ ม.ล.จิราธรมีแกนกลางที่เป็น “ศิลปะ” ก่อนที่จะถูกแตกแขนงออกไป โดยใช้ความสามารถส่วนตัวที่เรียกว่าพรสวรรค์ของตัวเองที่มีอยู่ ศิลปะในแง่มุมความคิดของจิราธรจึงเป็นงานที่สัมผัสกับความรู้สึกของคนร่วมสมัย และพึงพอใจกับการใช้ชีวิตแบบสมัยใหม่ “มันสัมพันธ์กับไลฟ์สไตล์สำหรับพี่ มันค่อนข้างเป็นคอมเมอร์เชียล การเขียนรูปมันต้องอยู่กับคน การที่เราเขียนรูปเพื่อตัวเราคนเดียวไม่สนใจที่จะขาย แต่ที่สุดเราก็อยากให้คนมาซื้อรูปเรา นึกดูว่า ถ้าคนรุ่นใหม่มีบ้านแบบhabitat แล้วเอารูปตลาดน้ำ ภูเขาทอง...
ท่ามกลางบรรยากาศพลุกพล่านของสังคมเมือง ย้อนกลับไปเมื่อราว 20 ปีที่แล้ว เด็กน้อยคนหนึ่งในจังหวัดเลย ได้เริ่มต้นเรียนรู้ และสร้างโลกศิลปะของตัวเองจากการบ่มเพาะของ ครูสังคม ทองมี ครูสอนวาดภาพศิลปะชื่อดัง มุมศิลปะในโรงเรียนเล็กๆ แห่งนี้ ได้สร้างจินตนาการให้เด็กน้อยต่างจังหวัดคนหนึ่ง ที่ยอมรับว่าตัวเองเป็นคนบ้าประกวดคนหนึ่ง ให้กลายเป็นศิลปินป๊อปอาร์ตในสังคมเมืองใหญ่ ที่เต็มไปด้วยแสงสีและความบันเทิงที่หลายหลาก จากภาพเทคนิคสีอะคริลิกที่ดูมีความสุข และมีเรื่องราวในตอนเด็กของเขา คือแหล่งวัตถุดิบสำคัญ งานประดิษฐ์ที่อาจถูกเรียกว่าศิลปะเทคนิคผสมแบบส่วนตัวของเขาสร้างเรื่องราวชีวิตของคนคนหนึ่งที่ใช้ศิลปะ...เพื่อค้นหา สร้างสรรค์ และเติมเต็มให้กับชีวิต เส้นทางนักเรียนต่างจังหวัดก่อนที่จะเข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ เริ่มต้นด้วยการเป็นนักวาดภาพประกอบที่มีฝีมือและสไตล์ให้กับนิตยสารไลฟ์สไตล์เกือบทุกเล่มของสิ่งพิมพ์กลุ่มอมรินทร์ ทำให้เส้นทางที่ต่อยอดจากความเป็นคนช่างครีเอทีฟ มีความสามารถที่หลากหลาย ตั้งแต่ศิลปะ แฟชั่น จนถึงการเขียนหนังสือ ไปสู่แวดวงสังคมที่ต่อเนื่องจากนิตยสารที่เขารู้จัก ก่อนที่จะยึดแนวทางการแสดงผลงานสไตล์โมเดิร์นอาร์ตของตัวเอง บวกไปกับการรับเชิญไปร่วมงานในแง่มุมที่หลากหลายแต่เกี่ยวข้องศิลปะ “โอ่ง-กงพัฒน์” เป็นชื่อที่เจ้าตัวยอมรับในความเป็นแบรนด์ระดับหนึ่ง ว่ามีบุคลิกของแบรนด์ที่น่าสนใจ คาแร็กเตอร์บางอย่างที่ตัวเองก็พอใจกับความเป็นตัวของตัวเอง ที่เจ้าตัวเน้นว่าไม่ได้สร้างให้เกิดความน่าจดจำ...
ถาวร โกอุดมวิทย์ จัดเป็นศิลปินรุ่นใหญ่ ที่เคยได้รับการยกย่องให้เป็นศิลปินชั้นเยี่ยม สาขาภาพพิมพ์ จากการแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2535 ทั้งยังมีผลงานและรางวัลเกียรติยศอีกมากมายเป็นเครื่องการันตีความสามารถ ถาวร เป็นศิลปินผู้หนึ่งที่ยอมรับว่า งานศิลปะที่ทำมาทั้งหมดเป็นสิ่งที่สนับสนุนทั้งในเบื้องหน้า และเบื้องหลังของความมีชื่อเสียง ความสำเร็จ และความเป็นอยู่ที่ดีอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ในวัยเด็ก ถาวรเป็นสมาชิกในครอบครัวคนจีน เห็นพี่สาววาดรูปเก่งมาก แต่กลับไม่มีโอกาสได้ใช้พรสรรค์ที่มีอยู่เนื่องจากแม่รู้สึกว่าการมาเรียนทางศิลปะไม่ใช่สาระสำคัญที่จะประคับประคองชีวิตไปได้ “แต่สำหรับตัวผมในตอนนั้นคิดว่า มันไม่ใช่เหตุผลของการดำรงชีวิต อย่างมากเราก็ตัวคนเดียว ถ้าไม่ประสบความสำเร็จอย่างน้อยคงพอหาอะไรทำปะทังชีวิตไปได้ จึงขอแม่ให้ตัวเองได้เรียน หลังจากที่เรียน เราก็พยายามต่อสู้กับหลายสิ่งหลายอย่าง เพื่อพิสูจน์ให้คุณแม่กับครอบครัวเห็นว่าเราเลือกทางที่ถูกต้องแล้ว” หลังเรียนจบปริญญาโทสาขาภาพพิมพ์ คณะจิตกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์จากมหาวิทยาลัยศิลปากร ถาวร ก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย ใช้ชีวิตเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย ไต้เต้าจนได้เป็นรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นตำแหน่งสุดท้ายที่เพิ่งหมดวาระไป ระหว่างยึดอาชีพอาจารย์ แต่สิ่งหนึ่งที่เขาไม่เคยทิ้งก็คือ...
“กลิ่นสีและทีแปรง” กับ “กลิ่นสีและกาวแป้ง” คงทำให้ใครหลายๆ คนในตอนนั้นเปิดโลกรู้จักชีวิตนักศึกษาศิลปากร จากปลายปากกาของจิตรกรที่ชื่อ พิษณุ ศุภนิมิตร ก่อนที่จะถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ในเวลาต่อมา ในปี2535 กับ 39 หนังเสน่ห์แรงเรื่องนี้ได้สร้างกลุ่มนักแสดงอารมณ์ดี จากกลุ่มนักเรียนศิลปะจนเป็นที่จดจำกันหลายคน แข่งกับกลุ่ม “ซูโม่” นักศึกษาสถาปนิกจากจุฬาฯ จนกลายเป็นนามสกุลที่เรียกติดปากว่า “กลิ่นสี” หากแต่เรากำลังพูดถึงเส้นทางบันเทิงที่ต่อเนื่องจากกลุ่มเด็กเรียนในตอนนั้น ที่ขยับขยายจนมีที่มาในวงการบันเทิงอย่างคับคั่ง ถ้าหากคิดว่าเด็กเหล่านั้นเลือกเส้นทางชีวิตตามที่ร่ำเรียนมา ณ วันนี้ที่เขาเดินทาง ภาพเส้นทางมืออาชีพของตัวเองจะเป็นอย่างไร ลองหลับตานึกภาพว่า “นายกอ” เป็นจิตรกรภาพเขียนแนวนามธรรม ที่มีศิลปินน้อยรายตั้งมั่นจะทำงานด้วยศิลปะแนวนี้ตลอดระยะเวลาการทำงานของศิลปินร่วมสมัย โดยเฉพาะในบ้านเรา เขาได้รับการยกย่องว่ามีผลงานโดดเด่นในการสร้างพื้นผิว (texture) ให้เกิดขึ้นลงบนงานจิตรกรรม ทั้งยังส่งอิทธิพลต่องานประติมากรรมที่เขาสร้าง ด้วยสีสันที่สดใสเบิกบานที่เน้นการซ้อนกันของสีผสมจนเกิดพื้นผิวและความหนา ก่อนที่ลดทอนเหลือความเรียบง่ายของสีและพื้นสัมผัสในช่วงปลาย... ถ้าหลับตาเราคงนึกภาพจิตรกรร่วมสมัยคนนี้ท่ามกลางบรรยากาศนั้นไม่ออก เราคงตกใจที่ลืมตาตื่นมาพบกับ...
อดีตนักศึกษาคณะจิตรกรรม ศิลปากร ที่เรียกว่าแบบเด็กหลังห้องในคณะ ก่อนที่จะคว้ารางวัลศิลปินรุ่นเยาว์ “ศิลป์ พีระศรี” และก้าวขึ้นอยู่บนทำเนียบศิลปินภาพเหมือนร่วมสมัยของไทย ศักดิ์วุฒิเป็นจิตรกรรุ่นใหม่ที่สร้างชื่อในวงสังคมจนเป็นที่ชื่นชอบตั้งแต่ในหมู่ชนชั้นกลางระดับสูงไปจนถึงชนชั้นสูงรุ่นใหม่ ด้วยลักษณะความสามารถในฝีมือทางเชิงช่าง และตั้งใจใช้ชีวิตด้วยการเขียนรูปเพื่อเลี้ยงชีพเพียงอย่างเดียว ด้วยหนทางที่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้เป็นศิลปินอาชีพ โดยเฉพาะกับงานที่ทำอยู่มากว่า 20 ปี จนกลายเป็นศิลปินร่วมสมัยแถวหน้าคนหนึ่งของเมืองไทย เขายอมรับโดยส่วนตัวชอบงานที่สบาย และเคยคิดจะมีอาชีพในเส้นทางโฆษณามากกว่าสายศิลปะ “ผมจบมาด้วยบีในธีสีส ซึ่งถือว่าต่ำที่สุด เพราะทุกคนต้องได้เกรดในธีสีส ผมก็ช่างมัน เพราะว่าเราเลือกทำงานในสิ่งที่ผมอยากทำ ตอนนั้นผมได้ทำสิ่งที่อยากทำตอนเรียนศิลปะ อาจารย์จะให้เปลี่ยนผมก็ไม่สนใจจะทำอย่างนี้ ก็มีท้อแท้บ้างนิดหน่อย” “ตกลงศิลปะคือการทำงานอย่างที่เราชอบ หรือทำอย่างที่อาจารย์ชอบ หรือทำอย่างที่คนอื่นชอบ ผมก็เลยดื้อ ผมอยากทำของผมอย่างเนี้ย” “สมัยเรียนก็ไม่ได้เก่งอะไรมากมาย เพราะเราเรียนสายวิทย์มา คิดอยากจะย้ายคณะแต่ก็สอบไม่ได้ ผมก็เลยทนเรียนไป” เป็นความตั้งใจแต่แรกที่ไม่เคยคิดจะเป็นศิลปินอย่างจริงจัง เขาบอกว่าส่วนหนึ่งเพราะวาสนาที่อาจจะทำให้เขามายืนอยู่ในตำแหน่งนี้ กลับเป็นว่างานของธีสีสของเขาส่งประกวดแล้วได้รางวัลหลายสถาบัน ทำให้มีผู้บริหารชาวต่างชาติเห็นผลงานแล้วชวนไปทำงานด้านโฆษณา ก่อนที่จะออกมาเริ่มต้นหนทางของเขา...
ชื่อของ อดุลย์พันธ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ในแวดวงของคนทำงานศิลปะบ้านเรานั้นพูดได้ว่า “มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ” คนหนึ่ง ผลงานที่โดดเด่นของเขาไล่มาตั้งแต่ภาพนู้ดที่แปลกและฉีกไปจากขนบของนู้ดแบบเดิมๆ กระทั่งกลายมาเป็นโลโก้ของเขาในที่สุด หรือภาพปกหนังสือเล่มของ ‘รงค์ วงษ์สวรรค์ ในยุครุ่งเรืองอดุลย์พันธ์ก็ฝากผลงานไว้จำนวนไม่น้อย หรือว่างานภาพประกอบเรื่องตามหน้านิตยสารเขาก็ทำมาแล้วร่วมยี่สิบปี และปัจจุบันก็มีงานปรากฏอยู่สม่ำเสมอ เช่น นิตยสาร mars, สยามรัฐสัปดาหวิจารณ์ เป็นต้น หลังเรียนจบจากคณะจิตรกรรมฯ มหาวิทยาลัยศิลปากร อดุลย์พันธ์เป็นครูสอนศิลปะอยู่ 2 ปี “เป็นครูไม่มันเท่าทำหนังสือ” เขาให้เหตุผล และเพราะความมันที่ว่านั่นเองทำให้อดุลย์พันธ์คลุกคลีอยู่ในแวดวงหนังสือนับสิบปี โดยมีตำแหน่งเป็นถึงบรรณาธิการนิตยสารวัยรุ่นชื่อดังยุคโน้น-วัยหวาน “คงเพราะอายุเยอะขึ้นด้วยมั้ง เลยไม่สนุกที่จะทำ ผมทำหนังสืออยู่ 10 ปี จากนั้นก็เลยออกมาเขียนรูปอย่างเดียว” นับจากนั้นวิถีศิลปินอิสระของ...
หากจะนับชื่อศิลปินไทยที่เรารู้จัก แน่นอนว่า “เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์” เป็นศิลปินในลำดับต้นที่ถูกนึกมาเป็นชื่อแรกๆ เขาเป็น 1 ใน 3 ของศิลปินสายจิตรกรรมในประเทศไทยที่นักสะสมต้องการความเห็นของเขา ผลงานของเขาอยู่ในแกลเลอรี่ส่วนตัวของเศรษฐี นักธุรกิจชั้นนำหลายคน การสร้างงานที่เดินทางมาสู่จุดปลายสุดในสาขาอาชีพของความเป็นศิลปินไทย อันได้แก่ ถวัลย์ ดัชนี, จักรพันธ์ โปษยกฤต ที่อยู่ในฐานะศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ด้วยการยอมรับจากสังคม และผลงานที่ถูกตีราคาสูง ด้วยผลผลิตจากบรรยากาศชาตินิยมในช่วงปี 2519 การเกิดขึ้นของภาควิชาศิลปไทยในมหาวิทยาลัยศิลปากรภายใต้การกำกับของ ชลูด นิ่มเจริญ ได้สร้างบัณฑิตรุ่นแรกอย่าง เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ มาผลิตงานศิลปะไทยในช่วงกระแสชาตินิยม ด้วยเหตุนี้ศิลปะไทยจึงกลายเป็นจุดยืนของเขาที่ชัดเจนจากที่ว่างที่มีอยู่ในสังคมในขณะนั้น ด้วยรูปลักษณ์ “ความเป็นไทยแบบร่วมสมัย” นอกจากนั้นการร่วมและจัดตั้งกลุ่ม “ศิลปไทย 23”...
การประกาศซื้อกิจการของไอบีเอ็มในส่วน PC hardware ของบริษัทคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลอันดับหนึ่งของจีนอย่าง เหลียนเสี่ยง (??) หรือชื่อภาษาอังกฤษคือ เลโนโว (Lenovo) เมื่อปลายปี 2547 ไม่เพียงแต่ทำให้คนในแวดวงไอทีตกตะลึง แต่ยังทำให้ชาวโลกคาดไม่ถึงอีกด้วย การซื้อกิจการครั้งนี้คงจะไม่เป็นเรื่องแปลกอะไร หากยักษ์สีฟ้า-ไอบีเอ็ม มิใช่บริษัทในตำนานของชาวอเมริกันซึ่งคิดค้นและผลิตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลออกมาเป็นเจ้าแรกของโลก... เลโนโว มิใช่บริษัทจีนที่มีอายุเพียง 20 ขวบและก่อตั้งมาด้วยเงินทุนแรกเริ่มเพียง 200,000 หยวน (ราว 24,000 เหรียญสหรัฐ) ... ดีลนี้ไม่มีมูลค่ามากถึง 1,750 ล้านเหรียญสหรัฐ และการฮุบ IBM-PC ไม่ผลักให้เลโนโวกลายสภาพจากเจ้าตลาด PC ในประเทศจีนกลายเป็นผู้ครองตลาด PC อันดับสามของโลก โดยกินสัดส่วนตลาดราวร้อยละ 7.7...







