ในช่วงสัปดาห์นี้ เหล่าบริษัท ‘เทคคอมปานี’ รายใหญ่ของโลกต่างทยอยออมารายงานผลประกอบการไตรมาสแรกประจำปี 2021 กันไป โดยที่ผ่านมาก็มี ‘Alphabet’ บริษัทแม่ของ ‘Google’ ที่มีอัตราการเติบโตถึง 34% ล่าสุด ก็ถึงคิวของ ‘Facebook’ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอันดับต้น ๆ ของโลก
โดยรายได้ในไตรมาส 1 ของ Facebook อยู่ที่ 2.61 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือกว่า 8.19 แสนล้านบาท เติบโต 48% ส่วนกำไรเติบโตถึง 94% อยู่ที่ 9.5 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 2.97 แสนล้านบาท ส่งผลให้หุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้นถึง 6% โดย Facebook ระบุว่า รายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญมาจากราคาโฆษณาเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 30% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่จำนวนโฆษณาที่แสดงผลเพิ่มขึ้น 12%
ส่วนรายได้อื่น ๆ ของ Facebook นอกเหนือจากโฆษณา อาทิ ชุดหูฟัง, แว่น VR Oculus และ หน้าจออัจฉริยะ Portal อยู่ที่ 732 ล้านดอลลาร์ เติบโตขึ้น 146% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งคิดเป็นเกือบ 3% ของรายได้ของ Facebook ในไตรมาสนี้
ในส่วนของผู้ใช้งาน Facebook ระบุว่ามีผู้ใช้ต่อวันที่ 1,878 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2020 ส่วนผู้ใช้ต่อเดือนอยู่ที่ 2,853 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2020 และเมื่อรวมผู้ใช้งานทั้งหมดทุกแพลตฟอร์ม (Facebook, Instagram, Messenger และ WhatsApp) มีผู้ใช้ 2,720 ล้านคน เพิ่มขึ้น 15% และมีผู้ใช้ต่อเดือนที่ 3,450 ล้านราย เพิ่มขึ้น 15%
เดินหน้าลุยอีคอมเมิร์ซ
Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Facebook กล่าวว่า ในส่วนของฟีเจอร์อีคอมเมิร์ซที่เรียกว่า Marketplace ปัจจุบันมีจำนวนผู้ใช้งานมากกว่า 1 พันล้านคนต่อเดือน ส่วนฟีเจอร์ Shops ที่เพิ่งเปิดให้บริการไปเมื่อปีก่อน ก็มีผู้ใช้งานมากกว่า 250 ล้านคนต่อเดือน
ดังนั้น บริษัทจะเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพื่อเชื่อมต่อกันในแต่ละแอปฯ ได้ง่ายขึ้น เช่น WhatsApp Catalogs สำหรับให้ร้านค้าอัปเดตสต๊อกสินค้า และในอนาคต Facebook ก็กำลังพัฒนาในส่วนของเทคโนโลยีการชำระเงินและการมี สกุลเงินดิจิทัลของตัวเอง
“การค้ามีการเติบโตในบริการของเรามาระยะหนึ่งแล้ว แต่ก็มีความสำคัญมากขึ้นเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคได้เร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในวงกว้าง และต่อไปกระเป๋าเงินดิจิทัลของ Novi จะเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดใช้งานการค้าบนบริการของ Facebook มากขึ้น” Zuckerberg กล่าว
มั่นใจไตรมาส 2 ยังเติบโต
Facebook คาดว่าการเติบโตของรายได้ในไตรมาส 2 จะยังคงมีเสถียรภาพหรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับการเติบโตที่ช้าลงในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากการระบาด อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าการเติบโตของรายได้ในไตรมาสที่ 3 และ 4 จะชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับการเติบโตอย่างรวดเร็วที่เกิดขึ้นในช่วงหนึ่งปีก่อนอันเป็นผลมาจากการระบาด
อย่างไรก็ตาม นโยบายความเป็นส่วนตัวของระบบปฏิบัติการ iOS 14 ที่ส่งผลโดยตรงต่อการบูสต์โฆษณาเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายคาดว่าจะเริ่มส่งผลกระทบในไตรมาส 2 ซึ่งบริษัทกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการรับมือ ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าเงินลงทุนในปี 2021 จะอยู่ในช่วง 19,000 ถึง 21,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งลดลงจากประมาณการก่อนหน้านี้ที่วางไว้ 21,000 ถึง 23,000 ล้านดอลลาร์